ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1210
คุณย่าเยตส์ตัวสั่นด้วยความโกรธหลังจากที่ได้ยินคำพูดถากถางของเขา เธอตะโกนออกมาอย่างโกรธจัดว่า “สารเลว! แกจะไปรู้อะไร! พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันกับตระกูลเยตส์จากอเมริกาแล้วนับจากนี้เป็นต้นไป!”
“ถ้าแกกล้าที่จะใส่ร้ายคระกูลเยตส์จากบัควู้ดอีกครั้งนะ ฉันจะหาคนมาหักขาแกทิ้งซะ!”
ฮาร์วีย์ตอบกลับอย่างใจเย็นว่า “คุณย่าก็รู้ดีอยู่เต็มอกหนิว่าตระกูลเยตส์จากอเมริกาเคยมองคุณในฐานะมนุษย์คนหนึ่งจริง ๆ หรือเปล่า? ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมจำเป็นต้องเตือนคุณย่าด้วยเหรอ?”
ฝูงชนรู้สึกงุนงงเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น
พวกเขาต้องยอมรับว่าสิ่งที่ลูกเขยไร้ประโยชน์ของเขานั้นพูดความจริง
ตระกูลเยตส์จากบัควู้ดไม่ได้มีค่าในสายตาของตระกูลเยตส์จากอเมริกาเลยแม้สักนิด!
เบ็นยืนขึ้นและชี้ไปที่ฮาร์วีย์พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ฮาร์วีย์ ยอร์ก แกยังกล้าที่จะโผล่หน้ามาให้พวกเราเห็นอีกเหรอ? แกดีเด่นมาจากไหนกัน?”
ฮาร์วีย์มองเขาด้วยท่าทางอันสงบ
“พวกคุณทุกคนคิดว่าที่นี่คือวัดทองคำหรืออะไรทำนองนั้นเหรอ? ก็แค่กรงสุนัขเท่านั้นเอง ผมจะมาหรือจะไปมันก็เรื่องของผม”
“แกมันก็แค่ลูกเขยขยะ ๆ ที่เกาะเมียตัวเองกินไปวัน ๆ ! ตระกูลเยตส์ของพวกเราไล่นังงูพิษเมียของแกออกจากตระกูลไปแล้ว! แกไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะยืนอยู่ต่อหน้าของพวกเราในตอนนี้ด้วยซ้ำ!”
“ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลย!”
“แกไม่มีสิทธิ์มากพอที่จะไปพูดคุยกับนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์!” เบ็นชี้หน้าด่าฮาร์วีย์อย่างฉุนเฉียว
“แล้วที่แกมาเนี่ย มีธุระอะไรไม่ทราบ?”
“อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว เพราะแกรู้ว่าเราได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเยตส์ที่อเมริกาสินะ นั่นคงเป็นเหตุผลที่แกบากหน้ากลับมาโดยไม่มีแม้แต่ความละอายใจ แกแค่ต้องการผลประโยชน์ล่ะสิ!”
“ฉันจะบอกอะไรให้เอาบุญนะ! ไม่มีทางหรอก!”
ในสายตาของเหล่าตระกูลเยตส์ การที่ฮาร์วีย์กลับมานั้นก็เพียงเพื่อที่จะมาหาผลประโยชน์จากพวกเขา
เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมตำแหน่งของเบ็นถึงสูง
ต่อหน้าของบุคคลสำคัญ ๆ เช่นนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ เขามักจะทำตัวมีประโยชน์เพื่อหวังผลประโยชน์ในอนาคตอยู่เสมอ
ฮาร์วีย์เหล่มองเบ็นราวกับว่าเขากำลังจ้องมองคนงี่เง่าที่น่ารังเกียจคนหนึ่งอยู่
ทันใดนั้น เบ็นก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาเดินไปหาฮาร์วีย์และมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาอันเหยียดหยามพรางพูดขึ้นมาว่า “เหตุผลที่แกมาที่นี่นอกจากเรื่องของนายใหญ่ที่สามแล้ว แกมาที่นี่เพราะหัวหน้าผู้ฝึกสอนใช่ไหม?”
“แกรู้ไหมว่าตระกูลเยตส์ไม่เพียงแต่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเยตส์ที่อเมริกาเท่านั้นนะ แต่ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนก็กำลังจะมาเป็นลูกเขยของพวกเราในไม่ช้านี้ด้วย!”
“นั่นคงเป็นเหตุผลที่แกคิดหาวิธีการกลับมาและมีตัวตนในตระกูลอยู่สินะ แกกำลังพยายามที่จะทำนาบนหลังของพวกเราตระกูลเยตส์!”
“ฉันจะบอกใบ้ให้ก็ได้ พวกเราตระกูลเยตส์สามารถให้โอกาสพวกแกได้อีกครั้งเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต!”
“แต่แกต้องคุกเข่าต่อหน้าทุกคนและคร่ำครวญ! ขอร้องให้พวกเรายกโทษให้!”
“แล้วแกก็ต้องยินยอมที่จะมอบรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ของนังภรรยาตัวดีของแกให้กับพวกเราด้วย!” เบ็นพูดอย่างตรงไปตรงมา
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า …”
ทุกคนที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์ต่างพากันหัวเราะเยาะเขา
ในสายตาของพวกเขา ลูกเขยที่เอาแต่เกาะภรรยากินอย่างเขานั้นดูตลกมาก ๆ ในเวลานี้
‘เขาไม่รู้จริงหรือว่าที่นี่คือที่ไหน?’
‘เขามาที่นี่เพื่อเร่งการจบชีวิตของตัวเองให้เร็วขึ้นหรือ?’
โยเอลมองไปที่เหล่าตระกูลเยตส์และคนอื่น ๆ ราวกับว่าพวกเขาเป็นคนงี่เง่ากลุ่มหนึ่ง
พวกเขาไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของลูกเขยที่เต็มไปด้วยอำนาจคนนี้มันก็แย่มากพออยู่แล้ว แต่พวกเขายังคงเอาแต่ยั่วยุชายผู้ที่เปี่ยมล้นไปด้วยอำนาจในมืออย่างไม่หยุดหย่อน
อีกทั้งพวกเขายังต้องการใช้ชื่อเสียงของเขาในการเลื่อนสถานะทางสังคมอีกด้วย
นี่พวกเขาโง่หรือเอาแต่ฝันกลางวัน
เหล่าตระกูลเยตส์ต่างพากันหัวเราะคิกคัก
“คุกเข่าสิ! คุกเข่าเดี๋ยวนี้!”
นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ไม่รีบร้อนที่จะพูดอะไรออกมา เขาเอาแต่จ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชา
เขาไม่ได้สนใจเรื่องการคุกเข่าของฮาร์วีย์แม้สักนิด นั่นเป็นเพราะว่าเขาสามารถกดขี่ศักดิ์ศรีของฮาร์วีย์ได้มากกว่านั้นหากเขาต้องการที่จะทำ เขาสามารถปฏิบัติต่อฮาร์วีย์เหมือนกับสุนัขจรจัดและเหยียบย่ำเขาให้จมดิน
เขาสามารถเหยียบย่ำฮาร์วีย์จนตายได้ด้วยซ้ำ!
ฮาร์วีย์แสดงท่าทางเย็นชา มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามออกมา