องครักษ์เสื้อแพร – ตอนที่ 1124

ตอนที่ 1124

 เดือนห้า ปีรัชสมัยว่านลี่ที่ 21  จังหวัดพยองอันกับจังหวัดฮัมกยองเกาหลีล้วนถูกกองกำลังหมิงปิดตาย กองรบสองของคาโต คิโยมาสะไม่รู้เป็นตายร้ายดี โจรวัวโค่วกองรบสี่ของโมริ โยชินาริกับกองรบห้าของฟูกิชิมะ มาซาโนริ หลายครั้งพยายามฝ่าการปิดตายของกองกำลังหมิง ล้วนปะทะกันเลือดตกยางออก หากไม่อาจได้อันใด ต้องถอยกลับไป

 อุคิตะ ฮิเดะอิเอะเดิมอยู่เมืองโซอุล แต่มีข้ออ้างว่าต้องการคุมกำลังแนวหลัง จึงนำกำลังมายังตอนใต้สุดของจังหวัดซอลลา ที่นี่เป็นเส้นทางคมนาคมทางทะเลไปมาระหว่างประเทศวัวกับเกาหลี

การรบในเกาหลีแปดจังหวัดไม่ได้ทำให้คนตกใจมากนัก บนท้องทะเลกลับรบกันดุเดือด นอกทะเลอินชอนโจรวัวโค่วกับกองกำลังร่วมของเสิ่นหวั่งเพิ่งจะได้เปรียบ แผ่นดินหมิงก็ประสานกำลังกับกองเรือเกาหลีทำลายราบ  จากนี้ไปจากจังหวัดฮวังแฮไปถึงจังหวัดคยองกีและจังหวัดชุงชอง โจรวัวโค่วไม่มีเรือสามารถออกทะเลได้แล้ว ทุกอย่างต้องอาศัยแค่การคมนาคมทางบกแล้ว

กองกำลังโจรวัวโค่วจังหวัดคยองกียังคงกังวล มีข่าวจากปูซานทำให้พวกเขาสิ้นหวังว่า ‘เรือนับหมื่นรวมตัว ราวฝูงหมาป่าพยัคฆ์’  ‘ทุกคนภักดีกล้าหาญ…เรือจมคนสิ้น  ผู้กล้าสิ้นชาติ…’ นี่เป็นข่าวจากปูซาน โจรวัวโค่วกองทัพเรือกับกองเรือเสิ่นหวั่งถูกทำลายราบคาบระหว่างทะเลปูซานกับเกาะสึชิมะ

 ไม่เพียงแต่กองเรือสามธารา ความจริงนั้นตอนเรือปืนใหญ่กองเรือสามธาราไปถึง การต่อสู้ก็ใกล้ยุติแล้ว  มีแต่พวกที่คิดทำการค้าวันหน้าระหว่างเกาหลีกับประเทศวัวแย่งกันเข้ามาแย่งน้ำซุปถ้วยหนึ่ง  บ้างก็ถึงกับคิดแต่เพียงแค่การค้าน้ำตาลทางทะเลใต้ อยากได้สิทธิพิเศษในการเข้าร่วมค้า บรรดาเจ้าทะเลกรูกันมายังท้องทะเลแถบนี้ ร่วมโจมตีเสิ่นหวั่งกับกองเรือพันธมิตรเสิ่นหวั่ง พวกเขากำลังจะได้ยึดครองทรัพย์สินเงินทองกับอำนาจก้อนโตในท้องทะเล

เรือปืนใหญ่เสิ่นหวั่งรับมือกองเรือเกาหลียังคงได้เปรียบ แต่ยามเผชิญกองเรือรบแผ่นดินหมิงและเจ้าทะเลอื่น เขาไม่อาจได้เปรียบอันใด คุณภาพและปริมาณปืนใหญ่ของกองเรือซาต้าเฉิงล้วนเหนือกว่าเขา

เทียบกับกองทัพเรือโจรวัวโค่วที่คิดสู้ตายแล้ว กองเรือเสิ่นหวั่งหลังประสบเหตุเสียหายหนักก็คิดหนีออกจากสนามรบในทันที แต่ระหว่างการรบเป็นตายเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าคิดหนีก็หนีได้  กองเรือที่เหนือกว่าเขาย่อมกัดไม่ปล่อย การต่อสู้จบลง ทุกคนจึงพบว่า เรือทุกลำบนท้องทะเลล้วนไม่ปรากฏร่องรอยเสิ่นหวั่ง เรือเดิมที่เสิ่นหวั่งอยู่นั้น มีคนสารภาพว่า เสิ่นหวั่งเปลี่ยนเรือระหว่างทางหนีไปแล้ว

กองทัพเรือโจรวัวโค่วถูกจมหมดแล้ว ตั้งแต่เดือนหกปีรัชสมัยว่านลี่ที่ 21  เส้นทางทะเลประเทศวัวกับเกาหลีถูกปิดหมด  เมืองริมทะเลที่คิวชูกับไซโกกุล้วนเตรียมพร้อมรับศึกใหญ่ เพราะตอนนี้มีเรือพ่อค้าทะเลแผ่นดินหมิงเข้ามาก่อกวนเรื่อยๆ

กล่าวเสริมสักหน่อย ไดเมียวคิวชูยังคงไปมาหาสู่กับกับบรรดาเจ้าทะเล เพราะการปิดทะเลตอนนี้ กลับทำให้ยิ่งได้กำไรมากมหาศาล…

สองทัพเรือปะทะกันไม่ถึงเดือน หัวหน้ากองรบโจรวัวโค่วประจำเกาหลีอยู่ ๆ ก็พบว่า ตนเองไร้ทางถอยแล้ว แม้พวกเขาตอนนี้จำนวนคนได้เปรียบ แต่ในมุมมองหนึ่งนั้น สองฝ่ายผู้ใดจะพ่ายยังไม่รู้แน่ เปรียบดังกวางตายด้วยน้ำมือผู้ใดยังไม่อาจแน่ชัด

แต่ก็ยังมีข่าวที่ทำให้คนไม่พอใจนัก ขุนพลทัพเรือลีซุนกองเรือรบเกาหลีระหว่างทางมายังปูซาน ถูกโจรวัวโค่วโจมตีกองทัพทั้งกองหมดสิ้น เพราะกองเรือรบแผ่นดินหมิงแล่นเร็วเกินไป ยังคงเป็นหมิงที่ประมาทเลินเล่อไม่เปลี่ยน ทิศทางลมก็เปลี่ยนทิศผิดทาง คิดจะกลับไปช่วยก็ไม่ทันแล้ว

“ล้วนเป็นความผิดข้าน้อย ข้าน้อยขอรับโทษ!”

หัวหน้ากองเรือผู้กล้ามีหนังสือขอรับผิด แต่ทว่าโชคดี กองทัพ ‘โจรวัวโค่ว’ นั้นได้ถูกทำลายราบด้วยน้ำมือเขา เรือทั้งหมดจมลงสู่ก้นทะเล

“ทำความชอบชดใช้ความผิด!”

หวังทงได้ตัดสินใจหนังสือตอบกลับ ค่อนข้างเจ็บปวดที่ต้องประกาศต่อทั้งกองทัพ ให้แต่ละกองได้เป็นบทเรียน ไม่อาจทำความผิดใหญ่ด้วยความประมาทเช่นนี้อีก

เกาหลีต่างไม่รู้จะทำอย่างไรในเรื่องนี้ ณ อี้โจว ฝ่ายพระราชาเกาหลีพอได้ยินทัพใหญ่ยึดพื้นที่คืนมาได้เรื่อยๆ ก็ดีพระทัยอย่างมาก กองทัพเรือตนสูญแล้วก็สูญไป  ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะรักษาเอาไว้ได้อยู่แล้ว ขุนพลทัพเรือลีซุนแต่ไรมาก็ไม่ใช่บุคคลอันเป็นที่รักของผู้ใด ปล่อยเขาไปก็แล้วกัน ก็แค่มีหนังสือไว้อาลัย จัดงานศพให้เท่านั้นก็จบเรื่อง

เดือนหก ปีรัชสมัยว่านลี่ที่ 21 นอกจากทางใต้เกาหลีที่ยังมีกองกำลังราษฎรก่อการประปราย เกาหลีทั้งแผ่นดินก็ไม่ได้มีการต่อสู้ด้วยกำลังทหารอันใดอีก

 วันที่ 10 เดือนหก ปีรัชสมัยว่านลี่ที่ 21 หวังทงมาถึงเมืองฮวังจูในจังหวัดฮวังแฮ เกาหลี เดิมกองรบสามของคุโรดะ นากามาสะที่กลับมาตั้งค่ายใหม่ที่จังหวัดฮวังแฮก็ถอยกลับไปจังหวัดคยองกี

ผู้ใดล้วนรู้เส้นทางทะเลถูกปิดแล้ว แท้จริงจะมีผลเช่นไร ชาวประเทศวัวทุกคนล้วนโมโหอย่างมาก เริ่มรวมกำลังโจรสลัดเข้ามาเป็นกองรบทางน้ำ  บรรดาไดเมียวติดทะเลมีหน้าที่ต่อเรือ และยังขอความช่วยเหลือจากพ่อค้าแต่ละชาติที่เดินทางมาทำการค้าที่ประเทศวัว พวกเขาส่งเรือมาร่วมรบ

การต่อเรือนั้นไม่อาจเห็นผลในเวลาอันสั้น โจรสลัดที่รวมกำลังมาได้ก็เพราะเห็นแก่ค่าตอบแทนสูง ปลายเดือนหกเรือก็เริ่มเข้าสู่ช่องแคบสึชิมะ

พวกฮอลันดากับพวกสเปนเดิมมั่นใจอย่างมาก แต่พอได้เห็นเรือปืนใหญ่กองเรือสามธารา ก็ขึ้นธงว่าไร้ความต้องการร่วมรบ พากันออกจากสนามรบไป ที่เหลือเป็นเรือสเปนลำหนึ่ง เพราะเข้ามาใกล้เกินไป ก่อนออกจากสนามรบถูกเรือปืนใหญ่ยิงจมไปทันที

เรือปืนใหญ่พวกฮอลันดากับพวกสเปนออกจากสนามรบ ทำให้โจรสลัดเดิมที่แตกตื่นตกใจอยู่แล้วตอนนี้ก็แตกกระเจิงไปหมดทันที  การต่อสู้ลำดับถัดมาก็มีแต่คำว่า สังหารหมู่

บรรดาเจ้าทะเลฝ่ายหวังทงไม่สามารถลอยลำอยู่ในช่องแคบนี้นานนัก พวกเขาต้องการทำการค้า ในเรื่องนี้หวังทงก็ไม่ได้มีข้อบังคับอันใด ความจริงนั้นปิดทะเลได้ครึ่งเดือนขึ้นไปก็บรรลุเป้าหมายแล้ว

เรือมากเกินไป ทำให้โจรวัวโค่วคิดส่งคนไปทำทีเป็นเกาหลีแจ้งข่าวก็ไม่อาจทำได้ บนท้องทะเล เรือปืนใหญ่พวกนั้นทำให้พวกเขาสะเทือนอย่างมาก

ได้รู้ว่าเส้นทางทะเลถูกปิดหมดแล้ว รู้อีกว่าการปิดนี้ไม่อาจตีฝ่าได้โดยง่ายแล้ว โจรวัวโค่วในเกาหลีแต่ละกองกำลังเริ่มนั่งไม่ติด

ไม่ว่าคิดอย่างไร ไม่ว่าทำอย่างไร  ตอนนี้ทางออกพวกเขามีทางเดียวก็คือสู้ตายกับกองกำลังหมิง ต้องตีกองกำลังหมิงแตกพ่าย เช่นนี้ที่เกาหลีจึงพอมีทางรอด หาไม่แล้ว ตอนนี้ทางเลือกอื่นอีกแล้ว ได้แต่รบเท่านั้น

โคบายากาว่า ทาคากาเกะกับอุคิตะ ฮิเดะอิเอะ และแม่ทัพหลายกองหารือกันเริ่มเคลื่อนกำลัง ในเมื่อเส้นทางทะเลถูกตัดขาด  ก็ย่อมต้องทิ้งจังหวัดซอลลากับจังหวัดคยองซัง ทิ้งเสบียงและกองกำลังเล็กๆ ไว้จำนวนหนึ่ง ที่เหลือรีบขึ้นเหนือไปรวมกันที่จังหวัดคยองกีกับจังหวัดชุงชอง ทหารจังหวัดกังวอนก็ยกไปประชิดทางตะวันตก

เกาหลีภูเขามาก  ที่ราบก็จะอยู่ทางตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลี ทัพใหญ่ปะทะศึก เส้นทางเมืองโซอุลกับอินชอน บริเวณแม่น้ำฮั่นสุ่ยเหมาะสมที่สุด

ตอนนี้ทัพใหญ่โจรวัวโค่วมีข้อได้เปรียบก็คือไปตั้งหลักรออย่างสบายๆ รอศัตรูเดินทางมาเหนื่อยล้า ทหารหมิงลงใต้ เพื่อไปรวมกับทัพใหญ่ มีเวลาเพียงพอ โคนิชิ ยูกินากะกับคุโรดะ นากามาสะแห่งกองรบหนึ่งและสามมารวมกันที่ตอนเหนือ  คิดบุกโจมตีกองกำลังหมิงที่จังหวัดฮวังแฮก่อน

*****************

ตอนกองกำลังแผ่นดินหมิงเพิ่งเข้าสู่เกาหลี บนเส้นทางหมู่บ้านกับที่ต่าง ๆ ก็มีทหารสายสืบแผ่นดินหมิงกับพวกลาดตระเวนตลอดคืนออกเคลื่อนไหวแล้ว ยังมีบรรดานินจากับสายสืบประเทศวัว ถึงกับยังมีสายสืบเกาหลีที่แยกตัวไปเป็นพวก ประเทศวัว…

แต่มาถึงตอนนี้ การเคลื่อนไหวของกองกำลังหมิงส่วนใหญ่โจรวัวโค่วไม่อาจรู้ได้อีกแล้ว สนามรบเริ่มถูกทหารม้ากองกำลังหมิงคุมไปหมดแล้ว  ทหารม้ากองกำลังหมิงออกมาลาดตระเวนมีหลักการว่า ขอเพียงทำตัวน่าสงสัย ก็สังหารทิ้งให้หมด ไม่ต้องสนใจว่าแต่งกายแบบชาวประเทศวัว หรือแบบราษฎรเกาหลี

ข่าวสนามรบถูกปิดฝ่ายเดียว สองกองรบโจรวัวโค่วสามารถถูกกองกำลังหมิงคุมการข่าวไว้ได้แล้ว การรู้เขารู้เราทำให้รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง มาถึงตอนนี้ ตาชั่งแพ้ชนะเริ่มเอนไปข้างแล้ว

กองกำลังหู่เวยกองหนึ่ง ห้าและหก ยังมีขบวนทัพม้าต้าถงสองพัน นอกจากพลปืนใหญ่พร้อมปืนใหญ่ยี่สิบกระบอกยังมีทหารราบเมืองชายแดนสี่พันออกรับศึกโจรวัวโค่วก่อน

โจรวัวโค่วสองกองรบรวมสามหมื่นคน ออกจากตอนเหนือของจังหวัดคยองกีไปยังจังหวัดฮวังแฮ ต้องไปทางตะวันตกก่อนจะหักขึ้นเหนือ ทัพใหญ่เดินทัพ เดินไม่เร่งร้อนก็ต้องใช้เวลาสองถึงสามวัน

หลี่หู่โถวนำทัพลงใต้ ตั้งแต่ออกเดินทาง ก็เดินทางวันละสองชั่วยาม เช้าออกเดินทางค่ำตั้งค่ายพัก  ใช้เวลาเดินทางครึ่งวัน ถึงไห่ซีเวลาใกล้เคียงกับทหารโจรวัวโค่ว ระหว่างไห่ซีกับเมืองแคซองเป็นพื้นที่ราบ แต่ไห่ซีใกล้ภูเขากว่า จังหวัดฮวังแฮทางเหนือภูเขามาก ทางนั้นเป็นที่ราบรูปน้ำเต้า ไห่ซีพอดีกับเป็นกลางน้ำเต้า

ผู้ใดมาก็ต้องติดอยู่กลางน้ำเต้านี้ ทหารเหนือลงใต้ก็ต้องข้ามเขา ไม่ก็ใช้เส้นทางทะเล ไม่เช่นนั้นไม่อาจลงใต้ได้สุด โจรวัวโค่วอย่างไรก็เร่งไปให้ถึงก่อน หลี่หู่โถวเดินทางไม่เคร่งเครียด ทางนั้นจึงไปถึงไห่ซีเร็วกว่าก้าวหนึ่ง

สามหมื่นรบหมื่น  ยังมีเมืองมีกำแพงเมืองหนุนหลัง สถานการณ์นี้เป็นเรื่องดีกับโจรวัวโค่วมาก แต่ทว่าเรื่องดีเช่นนี้ก็แค่สิ่งที่กล่าวกับบนกระดาษเท่านั้น

กองกำลังโจรวัวโค่วเพราะได้เปรียบจำนวนคน โคนิชิ ยูกินากะกับคุโรดะ นากามาสะยังเห็นว่ากองกำลังหมิงที่มามีทหารราบเป็นหลัก จึงคิดว่าไม่น่ายึดเมืองไห่ซีได้ แต่กลับเตรียมออกนอกเมืองไปตั้งแถวรบกลางสนาม อย่างไรตั้งแต่กองกำลังหมิงออกศึกมาถึงตอนนี้ ทุกครั้งกองกำลังหมิงล้วนใช้กำลังทหารม้าราวคลื่นทะเลโจมตีโจรวัวโค่วราบคาบ ตอนนี้เป็นแค่ทหารราบ จึงคิดว่าไม่น่าได้เปรียบตนมาก

**************

“หน่วยหนึ่งไปยังตำแหน่ง~~~~”

“หน่วยห้าเปลี่ยนถอย~~~~”

“หน่วยหก~~~~~”

บนสนามรบ เสียงคำสั่งดังเป็นระยะ ม้าลากปืนใหญ่ออกไปตั้ง ปืนใหญ่ติดตั้งทีละกระบอก พลปืนใหญ่เตรียมการยิงเคร่งเครียด

“พลปืนไฟตรวจปืน เตรียมยิง~~~”

“จัดระเบียบแถว~~~”

หลี่หู่โถวบนหลังม้าตรวจดูการจัดแถว ตำแหน่งเขานั้นอยู่ด้านหน้าปีกขวาของกองกำลัง ตอนนี้ดูฝั่งตรงข้ามจากบนหลังม้า แถวทัพโจรวัวโค่วก็เหมือนเรียงธงทัพแบบแผ่ขยาย กองกำลังหู่เวยยังคงเตรียมตัว  มองเห็นธงนำทัพอีกฝ่ายโบกสะบัดแล้ว ทัพศัตรูคงไม่ให้เวลาเจ้าได้เตรียมตัวนานนัก ต้องลงมือโจมตีก่อน

“ใต้เท้าหลี่ ข้าขอนำทหารม้าออกรับศึก”

รองแม่ทัพต้าถงหม่ากุ้ยบนหลังม้าขอออกศึก หลี่หู่โถวส่ายหน้ายิ้ม กล่าวว่า

“ทหารม้าไม่นำมาใช้ที่นี่ แม่ทัพใหญ่เคยสอนข้าว่า การรบล้วนยิงปืนใหญ่เป็นคำรบแรกก่อน!”

องครักษ์เสื้อแพร

องครักษ์เสื้อแพร

Status: Ongoing

หากคุณชอบนิยายจีนย้อนเวลา เรื่องราวเข้มข้นสุดมันส์ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงอยู่ที่นี่แล้ว!

ชาตินี้ต้องตายเพราะโรคร้าย ทั้งๆ ที่กำลังประสบความสำเร็จในธุรกิจ

เขาไม่ยอม!!

ชาติหน้าเขาจะต้องมีชีวิตที่รุ่งโรจน์กว่าผู้ใด…

หวังทงย้อนเวลามาเกิดใหม่ในราชวงศ์หมิงพร้อมความทรงจำของมนุษย์ทำงานในศตวรรษที่ 21

รัชสมัยฮ่องเต้ว่านลี่เป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง

และก็เป็นยุคสุดท้ายแห่งความรุ่งโรจน์ของราชวงศ์หมิง

หวังทงในฐานะ ‘องครักษ์เสื้อแพร’ จะนำความรู้สมัยใหม่ไปทำอะไรได้บ้าง

นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไรในประวัติศาสตร์

…วินาทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ก็เริ่มหมุนเปลี่ยนทิศ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท