องครักษ์เสื้อแพร – ตอนที่ 1127

ตอนที่ 1127

“การรบหู่โถวนี้รบได้งี่เง่าไปสักหน่อย แต่ก็ยากตำหนิ เห็นอยู่ว่าสามารถปราบศัตรูให้ราบคาบได้ แต่กลับต้องทำเรื่องน่าประหลาดเช่นนี้ออกไป”

ในรถม้าไช่หนาน หวังทงมองดูกะบะทรายสนามรบไป ก็ยิ้มไปกล่าวไป ไช่หนานข้าง ๆ มองกะบะทราย  ในมือถือพู่กันบันทึกวาดภาพไม่หยุด ได้ยินหวังทงกล่าวเช่นนี้ ไช่หนานเงียบไปครู่ก่อนจะกล่าวว่า

“ใต้เท้า แกล้งแสดงไปเช่นนี้แม้แต่ข้าเองก็มองเข้าใจ โจรวัวโค่วจะหลงกลนี้…”

“เมื่อครู่มีรายงานมาแล้ว โจรวัวโค่วกำลังไปรวมกันที่เมืองโซอุล ดูท่าคิดจะสู้ตายกับพวกเรา คิดว่าได้ผล”

หวังทงยิ้มกล่าวจบ ก็โบกมือกล่าวว่า

“ข้าเองก็เข้าใจว่าตอนนี้คิดแสดงตัวว่าอ่อนแอหลอกล่อนั้นอาจเหลวไหลไปสักหน่อย แต่โจรวัวโค่วยามนี้ไร้ทางถอย ไม่มีที่ไป ให้พวกเขาคิดฝันไปสักหน่อย พวกเขาก็จะคว้าไว้ดังคว้าฟางเส้นสุดท้าย พวกขุนพลโจรวัวโค่วนั่นไม่รู้ว่ารู้พิชัยสงครามหรือไม่ ศึกที่จังหวัดฮวังแฮไม่ว่าอย่างไรก็เป็นโจรวัวโค่วแพ้ไป แต่การต่อสู้ครั้งนี้จะให้พวกเขาได้รู้สึกถึงโอกาส สถานการณ์ตอนนี้ พวกเขาจะต้องเสี่ยงดูสักครั้งเพื่อโอกาสที่เพ้อฝันนี้!”

กล่าวจบ หวังทงก็เคาะโต้ะด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม เสียงดังกล่าวว่า

“ไม่ว่ารบอย่างไร ทัพเราย่อมกำชัยชนะใหญ่ แต่หากโจรวัวโค่วหนีเข้าไปในหุบเขา คิดจะกวาดล้างให้หมดจดก็ไม่รู้ต้องลงแรงอีกเท่าไร ดีไม่ดีอาจต้องอาศัยชาวเกาหลีในพื้นที่ ถึงตอนนั้นก็จะเป็นอีกความยุ่งยากหนึ่ง หากสามารถรบชี้ชะตา ปราบให้ราบคาบได้ ก็ย่อมเป็นวิธีการที่เรียกได้ว่า ลำบากจัดเตรียมก่อนจะสบายภายหลัง”

ต้นเดือนหก หลี่หู่โถวนำกำลังกองกำลังหลวงสามหน่วยและทหารทัพอื่นอีกหมื่นกว่าปะทะศึกกับโจรวัวโค่วกองรบหนึ่งและสาม ณ ไห่ซี จังหวัดฮวังแฮของเกาหลี

ปืนใหญ่ขนาดใหญ่ยิงไป ปืนไฟยิงพร้อม ทวนยาวแทงใส่ สังหารตัดหัวโจรวัวโค่วได้เกือบเจ็ดพัน แต่หลี่หู่โถวนำทัพใหญ่ประสบการณ์น้อยไป ไม่รู้จักให้ทหารราบกับทหารม้าประสานกำลังกัน อาศัยแต่ปืนมากไป ทำให้ไม่ได้ผลความชอบการรบมากนัก และเพราะใช้กระสุนหมด ตอนถอนทหารราบ ก็เกือบถูกศัตรูฉวยโอกาส

โจรวัวโค่วได้รับข่าว ที่อี้โจวพระราชาเกาหลีกับขุนนางก็ได้รับข่าวนี้ แม้ว่าหลี่หู่โถววันนั้นจะรบชนะมาจนได้  แต่บนสนามรบก็เปลี่ยนแปลงไปมาหลายรอบ  สถานการณ์ใดล้วนอาจเกิดขึ้นได้  หลี่หู่โถวก็แค่ขุนพลอายุยี่สิบต้นๆ  อาจมีความเลอะเลือนอันใดเกิดขึ้นก็ย่อมเป็นได้  ทุกคนล้วนรู้หลี่หู่โถวรบชนะนี้มาได้ ส่วนใหญ่ล้วนเพราะผลการสั่งการของหวังทง ความสามารถของเขาเองยังไม่ได้รับการพิสูจน์

มีคนคิดไปไกลอีกว่า กองกำลังหลวงส่วนใหญ่เป็นทหารราบ ไม่ค่อยได้ใช้ทหารม้า การประสานกำลังทหารราบกับทหารม้าคิดว่าน่าจะยังไม่ได้ฝึกชำนาญ การต่อสู้ต่อมา หากสามารถทุ่มกำลังทหารลงไปได้มาก แยกทหารราบกับทหารม้าออก จัดการให้ปืนไฟหมดกระสุน ใช่ว่าไม่มีโอกาส

ความคิดทั้งหมดทั้งมวลล้วนเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียว ล้วนคิดว่ามีผลดีต่อฝ่ายตนฝ่ายเดียว จะไปชนะได้อย่างไร ในการรบการสงครามนั้น ความคิดเช่นนี้เป็นความไร้เดียงสาอย่างที่สุด หากกล่าวว่าในสถานการณ์การรบปกติเกิดสถานการณ์เช่นนี้ หลายคนล้วนรู้ว่ามีลูกไม้หลอกอยู่ ดูลวงมากไป

แต่ในสถานการณ์เช่นนี้  เส้นทางทะเลกลับประเทศวัวก็ถูกตัดขาดแล้ว หากไม่สู้ตายกับกองกำลังหมิง แต่ละหน่วยกระจัดกระจายทั่วพื้นที่ ก็ได้แต่ถูกกองกำลังหมิงใช้ข้อได้เปรียบด้านกำลังทหารปราบราบคาบ หากกระจายกันทั่วภูเขาทำศึก ก็ย่อมยืดเวลาถูกปราบได้นานขึ้น

ได้แต่ยึดเมืองโซอุลเป็นฐานที่มั่น ยึดครองพื้นที่จากเมืองโซอุลไปจนปูซานลงทางใต้ของเกาหลี  อาศัยการนี้อาจยังมีโอกาสหายใจได้บ้าง สามารถมีเวลารอเพียงพอ ก็อาจมีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้

หากไม่สู้ ก็คงมีแค่ตายสถานเดียวแล้ว หากสู้ตายก็อาจยังมีทางรอด ทางเลือกนี้ผู้ใดล้วนต้องทำ หลี่หู่โถวดำเนินการที่สนามรบไห่ซี ก็เพื่อให้อีกฝ่ายมีทางรอด พูดให้ถูกก็คือ ให้อีกฝ่ายคิดว่าตนเองมีทางรอด ไม่ก็ให้ทัพใหญ่โจรวัวโค่วยอมเชื่อความคิดที่คิดเพ้อไปเองนี้ว่าเป็นจริง พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว

**************

คาบสมุทรเกาหลีสามด้านเป็นทะเล เมืองท่าล้วนไม่น้อย แต่ทว่าพอกองเรือรบแผ่นดินหมิงมาถึง  เมืองท่าล้วนถูกปิดหมด

เดิมที่ท่าเมืองปูซาน โจรวัวโค่วยังทิ้งทหารไว้สี่พัน ท่าเมืองปูซานเป็นท่าเรือดีหาได้ยาก  นำทัพใหญ่เข้าออกไปได้สะดวก รักษาเอาไว้ก็เพื่อให้เป็นเส้นทางถอย เมื่อก่อนรบทะเลก็รบทะเล รบบกก็รบบก สองส่วนไม่เกี่ยวข้องกันนัก กองรบทะเลหากคิดขึ้นบกต่อสู้ ยังต้องใช้ดาบใช้ทวนเข้าสังหารกับทหารราบ  กองเรือรบแผ่นดินหมิงกับเรือโจรสลัดพวกนั้น เห็นชัดว่าคนขึ้นฝั่งต่อสู้ไม่มาก

 กองทัพเรือมีคนที่สามารถขึ้นฝั่งต่อสู้ไม่มาก แต่คนพันคนก็พอมีอยู่ คนพันคนอาจต่อสู้ประชิดตัวกับโจรสี่พันบนฝั่งไม่ไหว แต่ยังมีอานุภาพปืนใหญ่จากเรือปืนใหญ่ที่น่าตกใจอีก ยิงได้ไกล  พอเรือเข้ามาใกล้ฝั่งได้ก็ยิงเอาตูมดังไปทั่วบริเวณ จากนั้นทหารเรือก็เดินขึ้นฝั่งอย่างไม่เกรงกลัวศัตรู

ที่ยิ่งทำให้สี่พันโจรวัวโค่วหมดทางสู้ก็คือ ทหารราบกองพันนี้ถึงกับนำเอาปืนใหญ่มาสิบกว่ากระบอก ทหารราบกองพันนี้ถึงกับยังมีปืนไฟห้าร้อยกว่า  และยังมีเรือเข้าเทียบฝั่งตามมาไม่ขาดสาย ทหารเรือเริ่มขึ้นฝั่ง

ยึดครองปูซานไม่อยู่แล้ว ความหวังสุดท้ายก็หมดสิ้นแล้ว คาบสมุทรเกาหลีกลายเป็นดินแดนแห่งความสิ้นหวังสิ้นเชิงแล้ว ขุนพลทหารโจรวัวโค่วที่นำทัพมาได้พิจารณาแล้วว่าจะบุกออกไปสู้ตายหรือไม่ หรือว่าจะคว้านท้องปลิดชีพตนเองดี  ในยามคิดไม่ตกนั้น ข่าวที่ทหารรวบรวมมาก็มาถึงปูซาน แม่ทัพใหญ่อุคิตะ ฮิเดะอิเอะมีคำสั่ง ให้ทหารไปรวมกันที่เมืองโซอุล เตรียมสู้ตายกับกองกำลังหมิง

โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ ณ โอซาก้า ประเทศวัวล้มป่วยแล้ว  การบุกเกาหลีและยึดครองแผ่นดินหมิงเป็นแผนการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเขา ตอนที่ทัพใหญ่สองแสนข้ามทะเลสู่เกาหลี ตลอดทางขึ้นเหนือ มาถึงชายแดนแผ่นดินหมิง เป็นช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตเขา

ตั้งแต่ระดับขุนนางใหญ่ประเทศวัว มาจนนักรบไดเมียวเบื้องหน้า ตลอดจนบรรดาซามูไรทั่วไป ไม่มีผู้ใดไม่ดูแคลนโทโยโตมิ ฮิเดโยชิผู้มีชาติกำเนิดแค่คนเลี้ยงม้า โทโยโตมิ ฮิเดโยชิก็รู้ว่าคนอื่นดูแคลนตน อาจเป็นตอนที่เขาได้เป็นขุนพลทหารของโอดะ โนบูนางะที่ตำแหน่งใหญ่สุดที่ไม่มีคนกล้าดูแคลนเขาแล้ว แต่เขาเองกลับรู้สึกไปเองเช่นนี้ตลอด

 พอได้เป็นใหญ่ทั่วหล้าในประเทศวัว โทโยโตมิ ฮิเดโยชิได้แต่งกับบุตรสาวขุนนาง ไม่เป็นขุนพลแล้ว แต่ไปดำรงตำแหน่งคัมปะกุที่สูงที่สุดในเหล่าขุนนาง แต่ก็ยังรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ไม่คลาย

การยึดเกาหลีกับแผ่นดินหมิงเป็นแผ่นดินตน ตั้งแต่ตั้งประเทศวัวมาล้วนไม่มีผู้ใดกล้าคิด ไม่หวังสูงเพ้อการใหญ่ ตอนนั้นยุคที่ดีที่สุด ก็แค่ตั้งจังหวัดประเทศวัว ณ ทางใต้สุดของคาบสมุทรเกาหลี ตอนนี้ยึดครองเกาหลีแล้ว ตนเองก็เป็นอันดับหนึ่งในประเทศวัวในรอบพันปีมานี้แล้ว ตั้งแต่ทัพใหญ่ข้ามทะเล  ก็ยึดครองเกาหลีได้อย่างรวดเร็ว โทโยโตมิ ฮิเดโยชิรู้สึกว่าไดเมียวใต้หล้าล้วนเคารพตนมากกว่าเมื่อก่อนมาก

แต่ฝันดีไม่อาจยืนยาวนัก แรกสุดก็จังหวัดพยองอัน ถูกกองกำลังหมิงตีพ่าย กว่าจะสู้โต้คืนได้เมืองโซอุลก็ไม่ง่าย สถานการณ์ตกในภาวะคับขัน จากนั้นก็เป็นรอง

ใช้พื้นที่มากมายมหาศาลแลกความภักดีจากเจ้าทะเลใหญ่สุดในแผ่นดินหมิงมาได้ สองในสามประเทศวัวล้วนรวมกำลังมาได้จากการนี้ กองทัพเรือยิ่งใหญ่เช่นนี้ แต่การต่อสู้ครั้งที่สามก็ถูกกองเรือรบแผ่นดินหมิงล้มเรือไปหมดสิ้น  นำทัพรบมานานหลายปี ทุกคนแน่นอนเข้าใจว่าหมายถึงสิ่งใด

 กองเรือรบแผ่นดินหมิงปิดทางเดินเรือสิ้น ข่าวคาบสมุทรเกาหลีกับประเทศวัวก็ตัดขาดกัน  ข่าวลือมากมายเริ่มแพร่ไปทั่วประเทศวัว  ไม่มีข่าวที่ทำให้ยินดีสักข่าว กลับเป็นข่าวที่ยิ่งทำให้สิ้นหวัง  ข่าวที่แพร่มามากที่สุดก็คือทัพใหญ่ที่เกาหลีถูกกองกำลังหมิงปราบราบคาบแล้ว

ครั้งนี้ยกทัพก็มีความคิดที่จะลดทอนกำลังทหารไซโกกุ ความสูญเสียใหญ่เช่นนี้ไม่เป็นที่กังวล ยิ่งไม่ต้องพูดโทโยโตมิ ฮิเดโยชิเองก็สูญเสียไปมาก ไซโกกุเริ่มวุ่นวายแล้ว ทหารโทโยโตมิ ฮิเดโยชิเองก็เริ่มเก็บตัว อย่างน้อยต้องคุมพื้นที่รอบโอซาก้าให้อยู่ แต่ที่ยิ่งทำให้โทโยโตมิ ฮิเดโยชิรู้สึกไม่สบายใจก็คือ มีรายงานลับว่า ตระกูลโทกูงาวะที่ภูมิภาคคันโตเริ่มมีการเคลื่อนไหว

ความกลัวในใจโทโยโตมิที่สุดไม่ใช่ตระกลูชิมัสสึที่ไม่เคยยอมลงให้จากใจ และไม่ใช่ไดเมียวผู้ครองไซโกกุตอนนั้นอย่างตระกูลโมริ แต่เป็นตระกูลของโทกูงาวะ อิเอยะสึที่เป็นพันธมิตรกับตนยาวนานกว่าเป็นศัตรู  ตั้งแต่ตระกูลโอดะ[1]เจริญรุ่งเรืองมาถึงตอนนี้ ยังไม่เคยเห็นตระกูลโทกูงาวะต่อสู้อะไรยิ่งใหญ่ ราวกับว่าเป็นผู้ยอมศิโรราบให้ผู้กำลังแกร่งกว่าไม่ก็เป็นร่วมเป็นพันธมิตรกัน อย่างไม่ทันรู้ตัว ตระกูลโทกูงาวะได้กลายเป็นไดเมียวครองพื้นที่กว้างใหญ่  โทโยโตมิ ฮิเดโยชิหาโอกาสมาตลอดที่จะทำลายตระกูลโทกูงาวะ แต่ตระกูลของโทกูงาวะ อิเอยะสึก็ยังคงรักษาท่าทีนอบน้อม ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ลงมือ

มีช่วงหนึ่ง โทโยโตมิ ฮิเดโยชิถึงกับคิดไปเองจริงๆ ว่าตระกูลโทกูงาวะ อิเอยะสึยอมภักดีแล้ว มาถึงตอนนี้ โทโยโตมิ ฮิเดโยชิจึงได้รู้ ตระกูลโทกูงาวะ อิเอยะสึยังคงรอโอกาส แต่ตอนนี้ตนเองคิดได้ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว และไม่อาจทำให้สถานการณ์ที่กำลังวุ่นวายนี้แย่ลงไปกว่านี้

 ประเด็นสำคัญก็คือ โทโยโตมิ ฮิเดโยชิแก่แล้ว  ร่างกายคนแก่ก็มักถูกโรคร้ายรุมเร้า  หนึ่งเดียวที่คอยช่วยเหลือคุมสถานการณ์เขาอย่างมาเอดะเองก็แก่ชราแล้ว โทโยโตมิ ฮิเดโยชิตอนนี้ได้แต่รักษาอาการป่วยและคุมสถานการณ์ตอนนี้ไว้  เขาเองรู้ว่า ไดเมียวแต่ละแห่งรวมทั้งพวกที่ภักดีเขาล้วนกำลังเตรียมการ ประเทศวัวสงบอีกไม่นานแล้ว กำลังจะวุ่นวายแล้ว

*****************

ประเทศวัวรบกันสองร้อยกว่าปีมานี้  แต่ไรมาไม่เคยเคลื่อนกำลังแสนกว่าเช่นนี้  ไม่อาจสร้างกำแพงเมืองและเครื่องป้องกันได้ จนถึงยุคสมัยโทโยโตมิ ฮิเดโยชินี้จึงสามารถทำได้

ทัพใหญ่โจรวัวโค่วในเกาหลีกำลังใช้ความสามารถนี้ในการสร้างเครื่องป้องกันอย่างเต็มที่ หวังทงนำกำลังทัพใหญ่ใกล้เข้าสู่จังหวัดคยองกี เส้นทางก็ถูกทำลายไปหมด มีทั้งคูน้ำ มีทั้งแอ่งน้ำใหญ่  แหล่งน้ำกับบ่อน้ำล้วนมีแต่ความสกปรก  เส้นทางแม่น้ำในพื้นที่ แหล่งน้ำยังไม่เป็นปัญหามาก สำหรับการกีดขวางเหล่านี้ตลอดทางแล้ว หวังทงรับมือได้ง่ายมาก ก็ให้ชาวบ้านเกาหลีมาจัดการ ไม่เปลืองแรงทหารตน

ต่อหน้าทหารม้ากองกำลังหมิงที่ได้เปรียบ ทหารโจรวัวโค่วไม่กล้าส่งกำลังทหารม้าออกมาก่อกวน แต่กลับมีแต่กองกำลังนินจาออกมาวางเพลิงเผาเสบียงในยามค่ำคืน ถึงกับเข้ามาก่อกวนในค่ายจนวุ่นวาย

 การต่อสู้เริ่มแรกสุดเป็นกองทหารม้าสืบข่าวของกองกำลังหมิงโต้รุ่งกับนินจาโจรวัวโค่ว……

 ……………………………………………..

[1] ค.ศ. 1582 โอดะ โนบูนางะ ถูกลอบสังหารที่วัดฮนโน  อิเอยะสึกำลังพลเพียงน้อยนิด เกรงว่าตนจะถูกลอบสังหารจึงได้เดินทางไปหลบซ่อน จนได้ทราบว่าโทโยโตมิ ฮิเดโยชิสังหารคนลอบสังหารโอดะ โนบูนางะและยึดอำนาจปกครอง อิเอยะสึฐานะที่เป็นข้ารับใช้คนสำคัญของโอดะ โนบูนางะ เป็นอุปสรรคต่ออำนาจของฮิเดโยชิ ไดเมียวผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองสู้รบกัน  แต่ไม่ปรากฏมีผู้แพ้ชนะเสียทีทั้งสองฝ่ายจึงเจรจาสงบศึก  ตระกูลโทกูงาวะยอมที่จะเป็นพันธมิตรของฮิเดโยชิ

องครักษ์เสื้อแพร

องครักษ์เสื้อแพร

Status: Ongoing

หากคุณชอบนิยายจีนย้อนเวลา เรื่องราวเข้มข้นสุดมันส์ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงอยู่ที่นี่แล้ว!

ชาตินี้ต้องตายเพราะโรคร้าย ทั้งๆ ที่กำลังประสบความสำเร็จในธุรกิจ

เขาไม่ยอม!!

ชาติหน้าเขาจะต้องมีชีวิตที่รุ่งโรจน์กว่าผู้ใด…

หวังทงย้อนเวลามาเกิดใหม่ในราชวงศ์หมิงพร้อมความทรงจำของมนุษย์ทำงานในศตวรรษที่ 21

รัชสมัยฮ่องเต้ว่านลี่เป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง

และก็เป็นยุคสุดท้ายแห่งความรุ่งโรจน์ของราชวงศ์หมิง

หวังทงในฐานะ ‘องครักษ์เสื้อแพร’ จะนำความรู้สมัยใหม่ไปทำอะไรได้บ้าง

นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไรในประวัติศาสตร์

…วินาทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ก็เริ่มหมุนเปลี่ยนทิศ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท