ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1311
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแบรดลีย์โค้งคำนับและพูดขึ้น “อย่างที่รู้ ๆ กัน พ่อบุญธรรมเป็นคนรอบคอบอย่างที่สุด ผมแค่ต้องการจบทุกอย่างในพริบตาเดียว โดยไม่สนว่าจะมีผลกระทบร้ายแรงตามมารึเปล่า”!
“พ่อบุญธรรม ไม่ต้องห่วงนะครับ ตอนนี้เรารู้แล้วว่าสารวัตรใหญ่อยู่ในบัควู้ด ผมจะจัดการอย่างระมัดระวังแน่นอนครับ”
นายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์พูดอย่างเฉยชา “จำไว้ให้ดีล่ะ ว่าแม้เราจะแข็งแกร่ง แต่เราก็ไม่ใช่คนในประเทศนี้ เวลาจะทำอะไรก็ระวังอย่าทำให้เด่นเกินไปนัก ทำงานให้หนัก พูดให้น้อย”
แบรดลีย์โค้งคำนับแล้วจากไป
เขาไม่มีปัญหากับการที่นายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์ดูระแวดระวังเช่นนี้ ทหารระดับสูงผู้นี้ซึ่งอยู่ในสนามรบมาหลายปี ทุ่มเทอย่างเต็มที่อยู่เสมอ แม้ในยามที่ต้องต่อสู้กับศัตรูกระจอก ๆ หรือในยามที่ต้องจัดการกับปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ
หลังจากที่แบรดลีย์จากไป ชายหน้าตาธรรมดาคนหนึ่งก็ค่อย ๆ เดินออกมาจากเงามืดจากด้านหลังห้องโถง
ราชาแห่งอาวุธลำดับที่หนึ่ง อีแวนเดอร์!
อีแวนเดอร์กระซิบ “นายท่านลำดับที่สี่ ผมเคยได้ยินเรื่องสารวัตรใหญ่มาบ้างครับ ว่ากันว่าสี่เทพสงครามที่ติดตามเขาเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง ผมอยากไปลองดู”
นายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์ชำเลืองมองเขาและพูดว่า “เรื่องยังไม่แย่อย่างนั้นเสียหน่อย! อีกอย่างเราก็ไม่ใช่คนของประเทศนี้ยังไงก็เอาชนะคนพวกนั้นไม่ได้หรอก ถ้าอยากทำอย่างที่พูดก็ต้องทำที่อื่นไม่ใช่ที่นี่”
“ในถิ่นของสารวัตรใหญ่น่ะ ใครก็ฆ่าเราได้ง่าย ๆ เข้าใจไหม”
เห็นได้ชัดว่า นายท่านลำดับสี่กลัวสารวัตรใหญ่เป็นอย่างมาก
***
ด้านนอกคฤหาสน์ที่เป็นมรดกตกทอดของตระกูลเยตส์ ฟิล เยตส์กำลังรออยู่อย่างเงียบๆ
เขาเดินออกมาข้างหน้าและพูดหลังจากที่แบรดลีย์ออกมาแล้ว “พี่แบรดลีย์ “คุณปู่ลำดับที่สี่ส่งราชาแห่งอาวุธคนไหนมาที่นี่บ้างเหรอ?”
แบรดลีย์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “สามคน!”
ในไม่ช้า ฟิล เยตส์ก็ได้เห็นราชาแห่งอาวุธทั้งสามออกมา ขณะนั้นเองดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น และร่องรอยของความตื่นเต้นก็ส่องประกายในแววตา
เขาคิดว่าคนใดคนหนึ่งในสามคนนี้จะสามารถแก้ปัญหาได้
เพราะคุณปู่ลำดับที่สี่ส่งราชาแห่งอาวุธทั้งสามมา คราวนี้มันจะต้องง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
อย่าว่าแต่หัวหน้าผู้ฝึกสอนอย่างฮาร์วีย์ ยอร์กเลย
แม้แต่สำหรับสกาย คอร์ปอเรชั่น และ เจ้าชายยอร์ก ฟิลก็มั่นใจว่าพวกนั้นก็จะพังไม่เป็นท่า
“ต่อจากนี้ไป คนสกุลยอร์กจะไม่มีอำนาจอะไรในบัควู้ดอีกต่อไป! ในอนาคตพวกเราตระกูลเยตส์จะครองที่นี่ให้ได้!”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฟิล
หากเขาสามารถเข้าสู่ตลาดของบัควู้ดได้ ตำแหน่งเจ้าชายแห่งตระกูลเยตส์แห่งอเมริกาก็จะกลายเป็นของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
***
ไม่นานนัก ฟิลและแบรดลีย์ก็มาถึงโรงแรมบัควู้ดเพื่อลงชื่อเข้าพักและปรากฏตัวต่อสายตาชาวโลก
ทุกคนจากตระกูลฌองแห่งมอร์ดูเข้ามาทักทายเขาทันที
“นายน้อยเยตส์ นายน้อยแบรดลีย์ ในที่สุดพวกคุณก็มา!”
“คุณคงไม่รู้ว่าสถานการณ์ในบัควู้ดตอนนี้มันซับซ้อนขนาดไหน!”
“ฮาร์วีย์ ไอ้เลวนั่นอาศัยว่าตัวเองมีฐานะเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนและได้ทำงานกับเจ้าชายยอร์กอย่างใกล้ชิด!”
“คนนอกอย่างพวกเราไม่มีทางรอดสักทาง! แต่พอพวกคุณมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ สองคนนั้นจะไปตายที่ไหนก็ช่างแล้ว!”
ท็อดด์ ฌองคร่ำครวญ
เขาเคยเผยตัวตนของฮาร์วีย์ให้กับตระกูลเยตส์จากอเมริกามาแล้ว แถมเขายังใส่สีตีไข่ในการเล่าเรื่องราวในอดีต
ฟิลยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดนั้นและเอ่ยอย่างเฉยชาว่า “น่าสนใจดีนี่ ถ้าผู้ฝึกสอนฮาร์วีย์คนนี้เป็นแค่เศษขยะไร้ค่า เขาจะมีสิทธิ์ทำให้ครอบครัวเยตส์จากอเมริกาพังไม่เป็นชิ้นดีได้อย่างไร
“ชักสนุกขึ้นมาแล้วสิ”
แบรดลีย์พูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าหมอนั้นกล้ามาแหยมตระกูลเยตส์จากอเมริกาล่ะก็ แสดงว่ามันกำลังรนหาที่ตายอย่างแน่นอน!”
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองพร้อมที่จะลงมือ
“คุณสุภาพบุรุษทั้งสอง ผมขอถามพวกคุณได้ไหมว่ามีแผนจะทำอย่างไรต่อไป”
ทอดด์ถามด้วยรอยยิ้ม วันนี้เขามาที่นี่เพื่อจุดประกายความขัดแย้งให้ก่อตัวขึ้น
ถ้าเขาสามารถทำให้ตระกูลเยตส์จากอเมริกาอยู่แนวหน้าได้ กับอีแค่เสแสร้งทำเป็นอ่อนแอและน่าสังเวชแค่นี้ ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ?