ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1323
โรซาลี ไนส์เวลล์ถูกส่งกลับไปอยู่เคียงข้างเชน ไนส์เวลล์
ปรมาจารย์แห่งการประเมินวัตถุโบราณรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
จากนั้นฮาร์วีย์ ยอร์กก็เอ่ยปากเตือน “ช่วงนี้คนในตระกูลไนส์เวลล์ควรพักในโรงแรมระดับ 5 ดาวไปก่อน”
“มันยังไม่จบ”
ฮาร์วีย์รู้ดีว่าปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในครั้งนี้คือตัวนายท่านลำดับสี่ตระกูลเยตส์เอง
ทุกอย่างเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเพราะเขายังมีลมหายใจ
คนในตระกูลไนส์เวลล์ตัวสั่นเมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์
ท่ามกลางฝูงชน สายตาของโรซาลีที่มีต่อฮาร์วีย์นั้นแตกต่างออกไป
ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่มากความสามารถ แต่เขายังช่วยชีวิตเธอไว้อีกต่างหาก!
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเข้ามาได้ทันเวลา เธอไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ!”
แต่พฤติกรรมของเธอก็เป็นปกติ เย็นชาราวกับน้ำแข็ง เธอไม่รู้จะพูดคำใดอื่นอีกนอกจากคำว่า “ขอบคุณ” ประโยคง่าย ๆ ราวกับไม่อาจอธิบายความรู้สึกนึกคิดของตัวเองออกมาเป็นคำพูดได้
สำหรับอีวอนน์ ซาเวียร์ เธอได้ความสงบกลับคืนมาแล้ว
เธอหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนพูดขึ้น “ซีอีโอยอร์ก เป้าหมายของพวกเขาคือคุณ”
“คุณหนูไนส์เวลล์กับฉันเป็นแค่เครื่องมือที่ใช้ต่อกรกับคุณเท่านั้น”
“มีโอกาสสูงมากที่คราวหน้าพวกเขาจะใช้ภรรยาของคุณกดดันคุณ”
ฮาร์วีย์เงียบไปครู่หนึ่งแล้วตอบอย่างใจเย็นว่า “วางใจเถอะ จะไม่มีครั้งต่อไปอีก”
อีวอนน์พยักหน้าเล็กน้อย และไม่พูดอะไรอีก
บรรยากาศภายในรถนั้นอึดอัดมาก
เมื่อรถหยุดที่หน้าบ้านของอีวอนน์ อีวอนน์ซึ่งเคยเงียบมาตลอดทางก็กระซิบว่า “ซีอีโอยอร์ก คุณช่วยฉันไว้อีกแล้ว ฉันควรอุทิศตัวเองให้คุณหรือเปล่าคะ?”
ฮาร์วีย์มองอีวอนน์อย่างแปลก ๆ แล้วส่ายศีรษะ
***
ที่บ้านประจำตระกูลของตระกูลเยตส์ในบัควู้ด
นายท่านลำดับสี่ตระกูลเยตส์กำลังต้มชา นี่เป็นแนวทางปฏิบัติของนักบวชอย่างหนึ่ง
เรียกง่าย ๆว่าสมณะนิยม ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามวิถีแห่งธรรมชาติ ทำตามใจปรารถนา ไม่เพียงแต่นั่งเฉย ๆ วาดหวังให้สิ่งต่าง ๆ เป็นไปอย่างที่ต้องการ
ส่วนใหญ่แล้วผู้คนควรทำตามหัวใจและทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ อาจเป็นบรรชาจากสรวงสวรรค์ที่ทำให้เรื่องเหล่านั้นบันดาลขึ้น
ต่อหน้านายท่านลำดับสี่ อีแวนเดอร์ยืนพิงกำแพงโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
“ฉันเป็นคนปลูกใบชาเอง เหลืออยู่ไม่มากหรอก แต่ถ้านายปลูกเองรสชาติมันจะมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน นายไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?” นายท่านลำดับสี่ตระกูลเยตส์กล่าวขณะยิ้ม
แต่อีแวนเดอร์ยังคงนิ่งอย่างกับก้อนหิน ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดในโลกที่ทำให้เขาเคลื่อนไหวได้
สภาพจิตใจเช่นนี้คงยากแก่การรักษา แต่ก็พอที่จะพิสูจน์ได้ว่าอีแวนเดอร์เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าเกรงขาม
นั่นเป็นเพราะเขาเป็นคนไร้ความรู้สึก
นายท่านลำดับสี่ตระกูลเยตส์มองดูอีแวนเดอร์อย่างพิเคราะห์ เขาคือราชาแห่งอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดที่นายท่านลำดับที่สี่เลี้ยงดูมา ช่างน่าเสียดายที่เขาเป็นเพียงเครื่องจักรสังหารเลือดเย็นเท่านั้น นอกจากนายท่านลำดับสี่ตระกูลเยตส์แล้ว อีแวนเดอร์ก็ไม่ฟังใครอีก
เสียงดังก้องอยู่ข้างนอกในขณะนี้
“นายท่านลำดับที่สี่เกิดเรื่องแล้วครับ!”
บ้านประจำตระกูลเยตส์ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย
นายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์ขมวดคิ้ว
“เอะอะอะไรกัน?!”
ในขณะนี้ คุณย่าเยตส์คลานและกลิ้งเข้าไปหา
“นายท่านลำดับที่สี่ เกิดเรื่องร้ายขึ้นแล้ว มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น ได้โปรดออกมาดูข้างนอกเถอะค่ะ!”
คุณย่าเยตส์รู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก เธอเป็นผู้หญิงที่ได้เห็นโลกมามาก แต่แล้วร่างกายของเธอก็ยังสั่นอย่างรุนแรง
ดูเหมือนว่านายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์จะนึกอะไรบางอย่างออก เมื่อเขามองเห็นสีหน้าที่ตื่นตระหนกของคุณย่าเยตส์ เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพาอีแวนเดอร์ออกไปข้างนอก
ผู้คนจำนวนมากรวมตัวกันรอบสวนในบ้านบรรพบุรุษ
พวกเขาทั้งหมดเป็นคนที่นายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์พามาด้วย
ที่กลางสวนมีโลงศพหกโลงวางอยู่