ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1333
“ถ้าอย่างนั้น กระผมทั้งสองหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะมีเกียรติอย่างเช่นงานในวันนี้ในทุก ๆ ปีของชีวิตนะครับ นายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์!”
“นี่…”
ฝูงชนต่างอ้าปากค้างหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น พวกเขาอยู่ในอาการตกตะลึงจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้แม้แต่คำเดียว
คำพูดนั้นมันช่างน่าตกใจมาก!
ชายคนนั้นเพิ่งสาปแช่งนายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์ให้มีเกียรติในงานศพลูกของเขาทุกปีโดยการพูดอย่างนั้นออกมาหรือเปล่านะ?!
“นายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์! สองคนนี้หยิ่งยโสมากจนเกินไปแล้ว! ไม่ต้องรออะไรแล้ว เราจะฉีกสกาย คอร์ปอเรชั่นให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเดี๋ยวนี้!”
สายตาของกัสเย็นชาและเต็มไปด้วยตวามดูแคลน
พวกเขานี่ช่างรนหาที่ตายเสียจริง ๆ บังอาจมายั่วยุตระกูลเยตส์จากอเมริกา!
ในขณะเดียวกันญาติสนิทของตระกูลเยตส์ต่างก็จ้องมองพวกเขาด้วยความเย็นชาด้วยเช่นเดียวกัน
พวกคนเหล่านี้ต่างก็มีความภาคภูมิใจในฐานะญาติสนิทของตระกูลเยตส์จากอเมริกา ถึงกระนั้นก็ยังมีคนกล้าดูถูกบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในตระกูลอย่างนายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์!
ใครบ้างที่จะไม่โกรธเคือง!
“สารเลว! ให้ตายเถอะเจ้าชายยอร์ก!”
“เราจะฉีกเจ้าทึ่มฮาร์วีย์ออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!”
“สองคนนี้กล้าดียังไงมาทำตัวต่อต้านนายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์?! พวกเขาไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าอะไรจะเป็นผลดีสำหรับพวกเขา!”
“ฆ่ามัน! เราต้องกำจัดมันออกจากที่นี่!”
พวกอันธพาลกัดฟันกรอดในขณะที่ก่นด่าสาปแช่งต่าง ๆ นา ๆ ในตอนนี้พวกเขาต่างก็เดือดดาลไปด้วยความโกรธ
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ!”
“น่าสนใจดีหนิ!”
“น่าสนใจมาก!”
“วัยรุ่นสมัยนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า…”
เหนือความคาดหมายของทุกคน นอกจากนายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์จะไม่โกรธแล้ว เขากลับหัวเราะออกมาอย่างตื่นเต้น
ไม่มีเหตุผลอื่นใด
นี่เป็นเพราะหลังจากนายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์ครองอำนาจมานานหลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากกลายเป็นนายพลใหญ่ของจีนเพียงคนเดียวจากอเมริกา มันเป็นครั้งแรกที่มีคนประพฤติตัวโดยประมาทต่อหน้าเขา
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น
“พวกนายสองคนเป็นเด็กหนุ่มที่ค่อนข้างจะหลงทางไปไกลเลยทีเดียว!”
ใบหน้าของนายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์เผยให้เห็นรอยยิ้มอันประชดประชัน
ในสายตาของเขา คนธรรมดา ๆ ไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรแบบนี้ออกมา เด็กหนุ่มสองคนนี้อาจจะบ้าไปแล้วก็ได้
ขณะเดียวกันชายที่ยกโลงศพก็ได้พูดต่อ
“นายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอร์กเป็นคนเลือกโลงศพด้วยตัวของเขาเอง เขาบอกว่าโลงศพนี้ค่อนข้างโบราณและดูเหมาะสมกับสถานะของคุณมาก!”
“แก…”
กัสและคนอื่น ๆ ที่แทบจะระงับความโกรธไม่ได้ก่อนหน้านี้กำลังกัดฟันอย่างโกรธเกรี้ยว พวกเขาแทบอดรนทนไม่ได้ที่จะจัดการกับเด็กหนุ่มทั้งสองคนนี้
ฮาร์วีย์และสกาย คอร์ปอเรชั่นโอหังเกินไปแล้ว!
การกระทำและคำพูดเหล่านั้นจะนำหายนะมาให้เขา!
“ฮาร์วีย์! กล้าดียังไง?! แกกล้าดียังไง?!”
ตระกูลเยตส์จากบัควู้ดทั้งหมดกำลังกระโดดโลดเต้นอย่างบ้าคลั่งด้วยความโกรธ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณย่าเยตส์ที่กำลังตัวสั่นด้วยความโกรธ
เธอกลัว!
เธอไม่คิดเลยว่าเจ้าหลานเขยที่เธอดูถูกจะมีชื่อเสียงที่แข็งแกร่งเช่นนี้!
หากว่าฮาร์วีย์ไม่ได้รับการจัดการอย่างรวดเร็ว คุณย่าเยตส์ก็ได้จินตนาการถึงจุดจบอันสิ้นหวังของเธอแล้ว
ทันใดนั้น คุณย่าเยตส์ก็โพล่งขึ้นในขณะที่น้ำตากำลังก่อตัวขึ้นรอบ ๆ ดวงตาของเธอ “นายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์! ฮาร์วีย์ผลักดันสิ่งต่าง ๆ ไปไกลเกินไปแล้ว! ไม่เพียงแต่ไม่มาคุกเข่าสำนึกบาปเท่านั้น มันยังมายั่วยุเราไม่หยุดไม่หย่อน! ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฉันเอง!”
“ได้โปรดปลิดชีวิตของหลานเขยผู้ไม่เชื่อฟังดื้อรั้น อีกทั้งยังไม่เคารพนายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์ผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลเราด้วย!”
กัสไม่สามารถทนกับความรู้สึกนี้ได้อีกต่อไป เขาเดินไปหาลูกสมุนอย่างโกรธจัดและคว้ามีดจากเขา เตรียมพุ่งไปข้างหน้า
“ฉันจะฆ่าแกก่อน!”
สี่คนที่ยกโลงศพแสดงสีหน้าเย็นชาราวกับน้ำแข็ง พวกเขาไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
“ช้าก่อน!
เมื่อสองประเทศทำสงครามกัน ห้ามฆ่าผู้ส่งสารเด็ดขาด! นี่คือกฏแห่งเกียรติยศ!” นายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์พูดอย่างเย็นชา
กัสกัดฟันแน่น ที่เขาต้องมาโดนขัดขาเสียก่อน
นายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์พูดถูก หากผู้ส่งสารถูกสังหาร ผู้คนจะคิดว่าตระกูลเยตส์จากอเมริกาไม่มีแม้แต่มารยาทและความละอายใจขั้นพื้นฐานเลย
ในที่สุดสี่คนที่หามโลงศพเข้ามาก็ได้จากไป