ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1419
อาเวลหยิบกล่องไม้โบราณจากมือหนึ่งในลูกน้องของเขาขึ้นมา เขาเปิดมันต่อหน้าฮาร์วีย์ ข้างในกล่องมีอัญมณีสีแดงดุจเลือดอยู่เม็ดหนึ่ง
อัญมณีนั้นเป็นสีแดงก่ำ แต่มีริ้วเข้มข้างใน ดูมีค่าพอสมควร
“ซีอีโอยอร์กครับ อัญมณีเม็ดนี้คืออัญมณีของแม่ทัพในตำนาน ว่ากันว่าแม่ทัพโบราณถูกฝังไปพร้อมกับอัญมณีเม็ดงามเม็ดนี้ครับ”
“ผมได้ยินมาจากตาแก่ว่าคุณเชี่ยวชาญด้านการประเมินค่าวัตถุโบราณ ผมก็เลยเอาของขวัญชิ้นนี้มาให้คุณครับ ถือว่าเป็นคำอวยพรเล็ก ๆ จากผม”
ฮาร์วีย์ไม่ได้เอื้อมมือไปหยิบอัญมณีเลย แต่กลับจ้องมันอยู่ชั่วขณะใหญ่
“คุณเสียเงินให้เจ้านี่ไปมากเท่าไหร่?”
อาเวลยิ้มแล้วตอบกลับมา “ก็ไม่มากครับ ราคาประมาณ 1.5 ล้าน เงินขี้ประติ๋วมาก”
“1.5 ล้านเหรอ?”
ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างสงบนิ่ง
“ขอบคุณพระเจ้าที่ผมรู้ว่าคุณเป็นเจ้านายกลุ่มนักเลงที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับธุรกิจจริง ๆ ของตระกูลไนส์เวลล์”
“ไม่อย่างนั้นแล้ว ผมอาจจะบีบคอคุณจนตายไปพร้อมกับทั้งครอบครัวคุณเลยก็ได้”
อาเวลถึงกับช็อก
“ซีอีโอยอร์ก ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะครับ?”
“ผมซื้ออัญมณีนี้มาจากร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์ที่เพิ่งเปิดใหม่นะครับ! ร้านที่หนึ่งในตระกูลดังสี่ตระกูลของฮ่องกงอย่างตระกูลฟลินน์เป็นคนเปิด”
“ผมไปร้านนั้นมาหลายรอบแล้ว พวกเขาถึงยอมขายขุมทรัพย์ของร้านอย่างอัญมณีเม็ดนี้ให้ผม!”
“แล้วมันก็เป็นอัญมณีที่หายากด้วย ทั้ง ๆ ที่เป็นของแทนคำอวยพรแท้ ๆ แต่ทำไมถึง…?”
อาเวลรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย
“มันเป็นของปลอมเหรอครับ?”
ฮาร์วีย์ตอบต่ออย่างสงบ “คือต่อให้เป็นของปลอม ผมก็ไม่คิดอยากฆ่าล้างตระกูลคุณเพราะสาเหตุนั้นหรอก”
พอพูดจบ เขาก็คว้ากล่องไม้มาแล้วเขวี้ยงลงกับพื้น
กล่องไม้แตกกระจายพร้อมกับเสียงดังแกร๊ง อัญมณีข้างในกล่องแตกเป็นสองซีก
ภายในอัญมณีสีแดงโลหิตมีหินสีดำขนาดแตกต่างกันอัดอยู่ข้างใน ดูน่าขยะแขยงทีเดียว
“ซีอีโอยอร์กครับ นั่นมันอะไรกัน?”
อาเวลไม่ใช่คนโง่ เขาก็รู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างมันดูแปลก ๆ
“สิ่งนี้คือสารกัมมันตรังสีประเภทหนึ่ง ปกติแล้วคุณไม่ได้สิ่งนี้มาได้ง่าย ๆ แน่ สารกัมมันตรังสีเยอะขนาดนี้ราคา 1.5 ล้านก็คงไม่แปลก”
“พวกนี้จะปล่อยรังสีออกมาอย่างมหาศาลเลยล่ะ ถ้าเก็บอัญมณีนี้ไว้กับตัวนาน ๆ สักสิบถึงสิบห้าวัน ร่างของคนถือก็จะละลาย ถึงแก่ความตายในที่สุด”
“สรุปง่าย ๆ ก็คือ คุณจะมอบเจ้านี่เป็นของขวัญให้แก่คนที่คุณอยากให้ตายแค่นั้นแหละ”
อาเวลหลุดกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ร่างกายเขาสั่นสะท้านอย่างน่ากลัว
ถ้าฮาร์วีย์เข้าใจผิดแล้วคาดการณ์ว่าอาเวลอยากจะใช้อัญมณีฆ่าเขาแล้วล่ะก็ ทั้งตระกูลไนส์เวลล์คงจะลงเหวไปพร้อม ๆ กับอาเวลเป็นแน่
เหงื่อเย็น ๆ อาบหลังอาเวล เขาพยายามอธิบายสถานการณ์อย่างสุดความสามารถ
“ซีอีโอยอร์กครับ! ผมเพิ่งซื้ออัญมณีนี้มาเมื่อเช้านี้เอง แต่ผมไม่ได้วางแผนจะใช้มันทำร้ายคุณนะครับ!”
ฮาร์วีย์ยังคงใจเย็น “ผมรู้ คุณไม่ผิดหรอก”
“คนที่ขายเจ้านี่ให้คุณต่างหากที่มีจุดประสงค์ชั่วร้าย”
“พวกเขาคงจะรู้ว่าคุณจะเอาอัญมณีนี้มาให้ผม ก็เลยต้องลงทุนเตรียมตัวหาอัญมณีนี้มาในชั่วข้ามคืน เจ้านี่ก็มีราคามากพอสมควรด้วย…”
“ถ้าเป็นไปตามแผนพวกนั้นล่ะก็ ผมจะตายเพราะผมไม่รู้คุณสมบัติที่แท้จริงของอัญมณีนี้แล้วเก็บมันกลับบ้านไป”
“ถ้าผมรู้เรื่องอัญมณีแล้วติดต่อตระกูลไนส์เวลล์เรื่องนี้ แล้วผมคาดการณ์ว่าคุณพยายามจะฆ่าผม ตระกูลคุณทั้งตระกูลก็จะโดนถล่มจนหายไปเหมือนกัน”
“ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!”
สีหน้าของฮาร์วีย์ดูจะรื่นเริง
‘พวกเขาจะจัดการฉัน มีแผนใหญ่ซะด้วย น่าสนใจดีนี่!’
สีหน้าของอาเวลเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว ใบหน้าของเขาดูบิดเบี้ยว
ถ้าพูดตรง ๆ ก็คือ อาเวลถูกหลอกใช้
เขาหันหลังกลับไปคุยกับลูกน้อง แล้วแผดเสียงที่ปะทุจากความโกรธออกมา
“ไปเร็วพวกเรา ไปถล่มร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์!”