ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1422
ของปลอมในวงการวัตถุโบราณแทบจะไม่มีความหมายอะไร ในเมื่อทุกคนต่างก็ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ต่อให้พวกเขาถูกหลอก พวกเขาก็จะปล่อยเรื่องให้เลยตามเลย
การเสียเงินเปล่าไปในสายงานนี้หมายความว่าคน ๆ นั้นยังเก่งไม่มากพอ แทบจะโทษคนอื่น ๆ ไม่ได้เลย
แต่การซ่อนสารกัมมันตรังสีไปทำร้ายคนอื่นนี่มีค่าเท่ากับการดีดตัวเองออกนอกวงการ
ดวงตาของดาร์เรนกระตุก รอยยิ้มฝืน ๆ ฉายขึ้นมาบนใบหน้าของเขา เป็นรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ดั่งอัญมณีสีขาว
“นายน้อยไนส์เวลล์ครับ ต้องมีข้อผิดพลาดบางอย่างแน่นอน! ผมเป็นคนที่นำเจ้าอัญมณีนี้มาที่นี่เอง ผมถึงกับประเมินอัญมณีเองด้วยซ้ำ เพราะมันมีลักษณะพื้นผิวที่ดีมาก ถ้าหากมีอะไรผิดปกติแล้วล่ะก็ ผมไม่มีทางขายมันให้คุณแน่นอน…”
“เลิกพูดเรื่องไร้สาระสักที!”
อาเวลพูดตัดบทดาร์เรนในทันควัน
“พวกเราที่นี่ก็โตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว เข้าประเด็นเลยดีกว่า ในเมื่อแกพยายามจะพิสูจน์ว่าแกไม่ได้มีจุดประสงค์มุ่งร้าย งั้นก็ได้ กลืนเจ้านี่ลงไปให้หมดสิ นอกจากฉันจะเชื่อแกแล้ว ฉันจะยอมคุกเข่าขอโทษแกด้วย! ฉันจะยอมให้ร้านวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์เทคโอเวอร์ตลาดวัตถุโบราณทั้งหมดของบัควู้ดไปได้เลย!”
“แต่ถ้าแกไม่กล้าพอล่ะก็ ลองคิดหาวิธีมาสิว่าแกจะทำให้ฉันพอใจได้ยังไง”
สีหน้าของอาเวลเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาโบกมือขึ้นมา ลูกน้องของเขาก็เอาท่อแป๊ปเหล็กมาให้ พวกเขาเตรียมพร้อมจะพังทั้งร้านแล้ว
พอเห็นท่าทางของอาเวล ดาร์เรนจึงรู้ตัวว่าเขาไม่มีทางหนีพ้นจากปัญหานี้ได้แล้ว
แต่เขาไม่กลัวอาเวลหรอก รอยยิ้มของดาร์เรนเหือดหายไป เขาส่งเสียงขู่เย็นชาออกมา “อาเวล ทำเรื่องพวกนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก!”
“ในสายงานนี้ มันไม่มีการส่งของคืนแล้วขอรับเงินกลับแบบนั้นหรอก ในเมื่อนายตัดสินคุณภาพวัตถุโบราณผิดไปเอง ก็ยอมรับไปซะว่านายมันก็แค่โชคไม่ดี”
“ร้านขายวัตถุโบราณของฟลินน์จะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้นหลังซื้อวัตถุโบราณไปแล้ว!”
สีหน้าของดาร์เรนเปลี่ยนไปเป็นของคนที่อยู่เหนือกว่าในทันที ไม่เพียงแต่ทำให้ลูกค้าหวาดกลัวที่ได้เห็น แต่ยังทำให้ฮาร์วีย์รู้สึกสนใจอีกด้วย
ตระกูลไนส์เวลล์เป็นตระกูลทรงอำนาจตระกูลสุดท้ายแล้วในบัควู้ด พวกเขามีความสัมพันธ์อันดีกับสกาย คอร์ปอเรชันอีกด้วย เป็นตัวพ่อในพื้นที่อย่างแท้จริง
แล้วดาร์เรนไปเอาความมั่นใจจากไหนมายั่วโมโหอาเวลในบัควู้ดกันแน่?
เขาไม่กลัวเหรอว่าอาเวลจะฆ่าเขาได้จากการตบแค่ครั้งเดียว?
“ไอ้สารเลวไร้ความรับผิดชอบ!”
อาเวลหัวเราะประชด ตัวสั่นเทิ้มไปด้วยความโกรธ
“เรื่องที่ฉันตัดสินอัญมณีนั่นผิดไปฉันไม่มีอะไรจะแก้ตัว ฉันโชคไม่ดีเอง แต่แกเป็นคนที่พยายามหลอกฉันให้ฆ่าทั้งตัวเองและทั้งตระกูลของฉัน แล้วนี่แกยังกล้ามาบอกให้ฉันยอมรับว่าฉันโชคไม่ดีอีกเหรอ?!”
“แกไปเอาความกล้าจากไหนมาพูดหมา ๆ แบบนี้?!”
“มาเร็วทุกคน พังที่นี่ให้เละกันดีกว่า!”
“มัดไอ้ดาร์เรนแล้วจับมันไปถ่วงน้ำคืนนี้เลย!”
สีหน้าของอาเวลเย็นชา เขาโบกมือ คำพูดตัดสินชะตากรรมของดาร์เรนแล้ว
“หึ ไม่คิดว่าตระกูลชั้นบนจะเป็นพวกขาดศีลธรรมขนาดนี้ คิดจะมาพังที่ของนายน้อยฟลินน์ แล้วยังจับไปถ่วงน้ำอีกเหรอ…”
“อย่าว่าแต่นายเลยอาเวล ฉันคิดว่าแม้แต่เชน ไนส์เวลก็คงไม่กล้าทำอะไรแบบนี้หรอก”
หญิงสาวในชุดเดรสเดินออกมาอย่างใจเย็นจากทางด้านหลังร้าน
เธอช่างงดงามสะดุดตาเหลือเกิน ราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด พอมองดูใกล้ ๆ ก็พบว่าเธอหน้าตาเหมือนหญิงสาวที่เปี่ยมเสน่ห์ยั่วยวนและเล่ห์กล
แน่นอนว่าพวกผู้ชายต่างก็หลงใหลในตัวผู้หญิงเหล่านี้เอาง่าย ๆ
ท่าทางยั่วเย้าของเธอแฝงไปด้วยแววของความเหินห่างในที
เป็นองค์ประกอบสองอย่างที่ยิ่งทำให้ผู้ชายตกหลุมรักเธอหนักขึ้นไปอีก
เธอคือผลงานชิ้นโบแดง แต่ไม่ใช่คนที่ใคร ๆ จะเข้าไปคุยได้
พออาเวลเห็นเธอ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
“เฟย์ ก็อดดาร์ด…”