ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1424
เฟย์ส่งรอยยิ้มหยอกล้อให้อาเวล
“เอาล่ะ ฉันจะเข้าประเด็นเลยก็แล้วกัน นายเคยได้ยินหรือนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกง ใช่ไหมล่ะ?”
“ต่อให้ไม่เคย ก็ต้องเคยได้ยินเรื่องตระกูลใหญ่ทั้งสี่ในฮ่องกงมาบ้างแหละเนอะ?”
เฟย์ทำสีหน้าของคนมั่นใจว่าตัวเองกำลังชนะ
“ตระกูลใหญ่ทั้งสี่น่ะมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกัน คุณหนูทั้งสี่แห่งฮ่องกงก็สนิทกันเหมือนพี่น้องเลยล่ะ!”
“นายต้องเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนอยู่แล้วสิ”
สีหน้าของกลุ่มคนที่ฟังอยู่เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนั้น
ฮ่องกงไม่ใช่สถานที่ที่ความเจริญห่างจากบัควู้ดมาก มันเป็นเมืองใหญ่นานาชาติที่อยู่ในระดับเดียวกับโวลซิ่งและมอร์ดู
ที่ฮ่องกง ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ยืนอยู่จุดสูงสุดของเมือง
ข่าวลือว่ากันว่า แม้ในแต่ละตระกูลจะมีปากเสียงกัน แต่ถ้าหากเกิดศึกเมื่อไหร่ พวกเขาก็พร้อมจะร่วมมือกันได้ทุกเมื่อ
ตระกูลใหญ่ตระกูลเดียวอาจจะไม่น่ากลัวมาก
แต่ถ้าตระกูลใหญ่ทั้งสี่ตระกูลของฮ่องกงรวมพลังกัน ต่อให้เป็นตระกูลใหญ่สิบตระกูลในประเทศ H ก็ต้องกลัว
สำหรับเมืองอย่างบัควู้ดที่อยู่ใกล้กับฮ่องกงแล้ว ความแข็งแกร่งของทั้งสี่ตระกูลใหญ่ของฮ่องกงรวมกันนั้นเป็นอะไรที่มหาศาลมาก
ตอนนี้ ทุกคนต่างก็รู้แล้วว่าเฟย์เป็นส่วนหนึ่งของสี่ตระกูลใหญ่ของฮ่องกง เป็นส่วนหนึ่งของนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกง
คนที่ก่อนหน้านี้คิดไปว่าดาร์เรนจะจบเห่แล้ว ก็ตัวสั่น
อาเวลเป็นคนที่ทรงพลังมากก็จริง ถ้าเขาได้รับการสนับสนุนจากตระกูลไนส์เวลล์และเจ้าชายยอร์กเอง เขาก็บดขยี้ดาร์เรนได้โดยง่าย สบาย ๆ
อาเวลอาจจะมีโอกาสสู้กับทั้งตระกูลฟลินน์เลยก็ได้
แต่ถ้าตระกูลใหญ่ทั้งสี่ของฮ่องกงร่วมมือกัน อย่าว่าแต่อาเวลเลย ขนาดตัวเจ้าชายยอร์กเองยังต้องลำบากเลย
ฮาร์วีย์เข้าใจแล้วว่าทำไมดาร์เรนถึงได้กล้าอย่างนั้น
ดูเหมือนว่าร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์จะไม่ได้มีแค่ตระกูลฟลินน์คอยหนุนหลัง แต่เป็นทั้งสี่ตระกูลใหญ่แห่งฮ่องกงเลยต่างหาก
เฟย์เป็นเพียงแค่ตัวแทนกลุ่มคนเหล่านั้นเท่านั้นเอง
“นายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกงอย่างนั้นเหรอ?”
อาเวลส่งยิ้มให้เฟย์ขณะหรี่ตามอง
“เจ้าหญิงก็อดดาร์ด คุณกำลังจะบอกผมว่า มีคนอีกสี่คนเลยเหรอที่กำลังหนุนหลังร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์อยู่?”
“อย่างน้อยก็ดูเหมือนนายจะพอรู้เรื่องอยู่บ้าง คงไม่ใช่พวกโง่ไม่รู้ความเกินไปสินะ”
สีหน้าของคนที่คิดว่าตัวเองชนะแล้วของเฟย์ยังคงฉายอยู่
“ร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์เป็นธุรกิจของนายน้อยฟลินน์ก็จริง แต่เขายังมีนายน้อยอีกสามคนคอยร่วมกิจการด้วย!”
“จริง ๆ แล้วเจ้าของของร้านนี้คือนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกงยังไงล่ะ”
“คิดจะมาพยายามทำลายร้านนี้ สมองนายยังปกติดีหรือเปล่า?”
“ใครทำให้นายกล้าทำอะไรแบบนั้นกัน?”
“เชน ไนส์เวลล์เหรอ?”
“หรือคุณเจ้าชายยอร์กในตำนานคนนั้นกันล่ะ?”
เฟย์เผยรอยยิ้มเหยียดหยามผสมหยอกล้อให้อาเวล
น้ำเสียงของเธอฟังดูเย้ยหยันเป็นพิเศษตอนพูดถึงเจ้าชายยอร์ก บอกให้รู้ว่าเธอไม่ได้เคารพในตัวเขาเลยแม้แต่น้อย
เจ้าชายยอร์กเป็นคนที่มีอำนาจมากในเซาท์ไลท์ นับว่าเป็นตัวพ่อของเมืองได้เลย
แต่ถ้าต้องเผชิญกับตระกูลใหญ่ทั้งสี่แห่งฮ่องกง เขาจะทรงพลังได้แค่ไหนกันเชียว?
ถ้าต้องสู้กันหนึ่งต่อหนึ่ง ตระกูลใหญ่แต่ละตระกูลก็สู้กับสกาย คอร์ปอเรชั่นไม่ไหวหรอก
แต่ถ้าร่วมมือกันสู้ทั้งสี่ตระกูล พวกเขาสามารถบดขยี้สกาย คอร์ปอเรชั่นได้แน่นอน!
อีกอย่างคือ พวกเขาเล็งเป้าปืนไปที่เจ้าชายยอร์กและตระกูลไนส์เวลล์ตั้งแต่ต้นอยู่แล้วด้วย
เจ้าชายยอร์กก้าวขึ้นมามีพลังอำนาจไวเกินไป ควินตัน ยอร์ก ที่เพิ่งกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลใหญ่ทั้งสี่ได้ไม่นานเป็นคนคอยชักใยอยู่หลังฉากทั้งหมด ตอนเผชิญหน้ากับเจ้าชายยอร์ก ตระกูลทั้งสี่ก็ไม่กลัวสกาย คอร์ปอเรชั่น
การเผชิญหน้ากันวันนี้เป็นแค่บททดสอบเท่านั้น
ถ้าแผนเรื่องอัญมณีสำเร็จไปได้ก็คงจะดี แต่ถ้าแผนล้มเหลว ก็ไม่มีปัญหาอะไรตามมา
ดาร์เรนมองอาเวลที่สีหน้าเปลี่ยนไป มันดูเต็มไปด้วยความดูหมิ่น
ไม่ว่าอาเวลจะพยายามคุมอำนาจมากแค่ไหน เขาจะไปเทียบกับนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกงได้ยังไง
อาเวลหันไปส่งยิ้มให้ฮาร์วีย์ ตอนที่เขาพูดออกมา น้ำเสียงเขาดูใจเย็น “ปกติผมชอบรังแกคนด้วยพลังของตัวเอง ไม่คิดเลยว่าวันนี้ผมจะโดนคนทำแบบนั้นกลับบ้าง!”