ตอนที่ 426 : เล่นให้เด็กมันดู
“ไม่…”
“เขาจะซื้อจริงๆ หรอ?”
“เจ้าเด็กนี้เสียสติไปแล้วหรือที่กล้ายุ่งกับตระกูลหนานกง!?”
“จะดีมากถ้าเขาหันไปสนใจอย่างอื่นแทนเหล่าวังดาบ…” เสียงใครบางคนดังขึ้นเตือน “ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่ทําให้เหล่าคนจากวังดาบไม่พอใจ พวกเขามักพบกับจุดจบที่หน้าเศร้า ถ้าพวกเขาส่งเหล่าทาสไปตามตัวบุคคลไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่หยุดตามตัวจนกว่าบุคคลนั้นจะตาย!”
“ไป! ไปเดี๋ยวนี้….อยู่ไม่ได้แล้ว!”
ผู้คนที่หนาแน่นหน้าร้านสลายหายไปด้วยความรวดเร็ว…พวกเขาดูตื่นตนกราวกับว่าเกิดโรคระบาด
แม้แต่ชายชราเองก็รีบเดินทางออกจากเมืองในเวลากลางคืนหลังจากขายร้านให้เขาไป เขาไม่กล้าแม้แต่จะอยู่ในเมืองนี้ต่อไป
“หัวหน้าสมาคม” หลหลั่นเหลียวและคนอื่นๆ เดินเข้าไปในร้าน พวกเขามองรอบๆ ร้านค้าใกล้เคียงซึ่งเต็มไปด้วยลูกค้า จากนั้นก็หันกลับมามองร้านที่ว่างเปล่าของฟางฉี ด้วยสายตาสับสนมันดูราวกับว่าพื้นที่เล็กๆ ที่เงียบงันแห่งนี้เหมือนอยู่ในโลกอีกใบ
“ทําไมร้านเจ้าถึงไม่มีลูกค้า เอ่อ..มันค่อนข้างรกด้วยละ” หลหลั่นเหลียวกวาดตามองไปรอบๆ ถนนหน้าร้านเขาดูเลอะเทอะ
ฟางฉีชี้ไปที่ร้านและตอบกลับว่า “มาช่วยข้าทําความสะอาดสิ ยังเหลือเวลาอีกนานกว่าจะไปยังสํานักสวรรค์ เพราะงั้นมาช่วยข้าก่อน!”
หลี่หลั่นเหลียวพูดด้วยสีหน้าลังเล “ถ้าอย่างนั้นข้าจะ… ”
ขณะที่ฟางฉีกําลังทําความสะอาดอยู่นั้น “หรือเจ้าจะไปสํานักสวรรค์พร้อมเสี่ยวเย้หลัง จากนั้นก็กลับมาช่วยดูแลร้านก็ได้”
หลี่หลันเหลียวเอ่ยถาม “ใครคือเสี่ยวเย้!?”
“สาวน้อยข้าคิดว่าพวกเจ้าจะเข้ากันได้ดี”
“หืม? สาวน้อย” หลหลั่นเหลียวตัวแข็งไปพัก
เด็กน้อยสามารถเข้าไปเรียนในสํานักสวรรค์ได้? แถมยังกลับมาดูแลร้าน?
ในหัวของหลี่หลั่นเหลียวเต็มไปด้วยคําถาม
จากการช่วยเหลือของสมาชิกในตระกูลหลีในไม่ช้าร้านก็ดูสะอาดสะอ้าน เมืองมองไปรอบๆ แล้วก็พบว่าพื้นที่ที่นี่ดูกว้างกว่าที่เมืองครึ่งมากซึ่งสามารถรองรับคอมพิวเตอร์ได้ถึงสองร้อยเครื่องได้อย่างสบายๆ
โดยปกติแล้วหลหลั่นเหลียวพักอยู่กับเพื่อนชายหนึ่งคนเพื่อนสาวสองคนที่โรงแรมไท้หวัง ที่ร้านแห่งนี้มีถึงสามชั้นและขนาดใหญ่พอที่จะให้บริการหอพักสําหรับพนักงาน
ขณะนี้ทางร้านได้จัดเตรียมอาหารและหอพักให้กับพวกเขาเป็นที่เรียบร้อย แต่ยังไม่มี เงินเดือนและสวัสดิการใดๆ อื่น
เช้าวันต่อมาหลุหลันเหลียวดูหน้าซีดเซียวพลางเดินเข้ามาในร้าน
ฟางนี้เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “เป็นอะไรไป? อีกสองคนไปไหน?”
มีเพียงผู้อาวุโสหลวและเด็กสาวหน้ากลมราวๆ สิบเจ็ดปีเท่านั้นที่มาพร้อมกับเธอ หน้า ตาของเธอดูเป็นเล็กน้อย แต่ในทางกลับกันผู้อาวุโสมใบหน้าขรึมคล้ายว่ากําลังโกรธเคือง
หลหลั่นเหลียวพูดขึ้น “พวกเขาไม่ใช่สมาชิกของตระกูลหลีอีกต่อไป”
ฟางพูดเสียงเรียบว่า “ไม่สําคัญว่าพวกเขาจะจากไป ท้ายที่สุดพวกเขาไม่สามารถทําอะไรได้นอกจากทําเหมือนสิ่งที่เขาเคยทํากับตระกูลหลี่ก็คือรับใช้ต่อไป”
“อืม…” หลี่หลั่นเหลียวดูเศร้า แม้ว่าฟางจะพูดให้มันดูเป็นเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ
เขาเปิดประตูร้านและพบว่าการตกแต่งภายในได้ปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ เคาน์เตอร์ทํา ด้วยหินอ่อนสีดําเรียบและใส ประตูและผนังทําด้วยกระจกทั้งหมด คอมพิวเตอร์เตอร์มากกว่าสองร้อยเครื่องถูกตั้งไว้ทั้งชั้นแรกและชั้นสองมันถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ พร้อมด้วยจอแก้วขนาดใหญ่
หลังจากเดินเข้าไปก็พบจอแก้ว พวกเขาทําหน้างงวยแลสงสัยว่าจอแก้วนี้มีไว้เพื่ออะไร
หลี่หลั่นเหลียวมองด้วยความสงสัยในใจพลางคิดทบทวนว่าหรือว่าเธอจะมาผิดที่ “นี่ท่านหัวหน้าสมาคมเรามาทําอะไรกันที่นี่?”
เธอเคยคิดว่ามันเป็นร้ายที่ขายสมบัติหายาก แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอคิดผิดไปหลังจากได้เจอกับตัวเอง
เธอไม่รู้เลยว่าสิ่งที่อยู่ข้างหน้าเธอเหล่านี้คืออะไร!?
เธอรู้สึกราวกับว่าในร้านตอนนี้คล้ายกับโลกอีกใบหนึ่งซึ่งแตกต่างกับโลกที่เธออยู่โดนสิ้นเชิง
ฟางนี้หัวเราะเบาๆ “ยินดีต้อนรับสู่ร้านต้นกําเนิดอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ที่ทํางานของพวกเจ้าในอนาคต”
เขาชี้ไปที่กฏที่เขียนไว้บนกระดานดําและพูดว่า “จงอย่าแสดงความเมตตาต่อใครก็ตามที่ฝ่าฝืนกฏไม่ว่าพวกเขาจะมีภูมิหลังหรือเป็นใครก็ตาม”
คําพูดบนกระดานเล็กๆ อธิบายว่า [ผู้สร้างปัญหาจะถูกทําลายจุดแข็งในการฝึกฝนก่อนจะถูกโยนออกไป พวกเขาจะไม่ได้รับการต้อนรับอีก ถ้าอยากเล่นจงเล่นถ้าไม่เล่นก็ออกไป]
เด็กสาวทั้งสองปิดปากอ่านข้อความด้วยความตะลึงจนพูดไม่ออก
แม้แต่ผู้อาวุโสหลิวหยายังกล่าวเสียงสั่น “นี่ท่านหัวหน้าสมาคมกฏสมาคมเราไม่รุน แรงไปหน่อยหรอ?”
แต่ถึงอย่างนั้นเมืองที่พวกเขาอยู่นั้นเต็มไปด้วยผู้คนและกองกําลังสําคัญมากมายที่มีพลังเหนือจินตนาการ!
หากผู้ใดจากกองกําลังทําลายที่นี่พวกเขาจะถูกทําลายพลังภายในรวมไปถึงอาจถูกหักแขนหักขาอีกด้วย
“เราแก้ไขกฏไม่ได้?” หลี่หลั่นเหลียวรู้สึกว่าคนตรงหน้าเธอดูทรงพลังมากก็จริงแต่หากเทียบกับกองกําลังขนาดใหญ่แล้ว เขาอาจไม่ได้มั่นคงเท่าพวกเขาเหล่านั้น
ฟางฉีกล่าวว่า “นี่คือกฎของเรา เล่นหากต้องการ แต่ถ้าไม่ก็ออกไป ถ้าไม่พอใจในกฏก็ไม่ต้องมาแค่นั้น”
“…” หลี่หลั่นเหลี่ยวกลืนคําพูดกลับเข้าไป เธอชี้ไปที่ประตูและพูดด้วยเสียงแผ่วว่า “ข้ากลัวว่าจะไม่มีใครมา ”
ที่จริงไม่มีใครกล้าเข้ามาเพราะเข้าใจว่ามันร้าง หน้าร้านของเขาในตอนนี้ดูซอมซ่อร้าวกับว่าไม่มีคนอยู่
ฟางฉีตอบกลับว่า “ไม่สําคัญว่าจะมีใครมาหรือเปล่า เราเล่นเองก็ได้หากเป็นเช่นนั้น”
ร้านใหม่ในตอนนี้ทําได้เพียงแค่เล่นเกมออนไลน์เท่านั้น เกมใหม่ๆ จะตามมาหลังจากเปิดร้านได้สักพัก หนังและละครก็เช่นกัน
ฟางเปิดคอมพิวเตอร์ให้ตัวเอง
ขณะเดียวกันเขาได้ยินเสียงเตือนจากระบบ
“ปิ๊บ! การขายที่เฟื่องฟูเสร็จสมบูรณ์”
เป้าหมาย : จํานวนผู้เล่น GTAV 3,000 คน (เสร็จสมบูรณ์)
รางวัล : วงล้อรางวัลการเล่นเกม พร้อมหีบสมบัติอีกหนึ่งชิ้น
“งานนี้เสร็จแล้วหรอ!?” ฟางฉีเองก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เพียงเสี้ยววิ่งานใหม่ก็ได้ปรากฏขึ้น
ภารกิจใหม่ : เกมออนไลน์ใหม่
คําอธิบาย : เกมสามารถเปิดใช้งานได้โดยปลดล็อกมุมมองที่มากขึ้น
การปลดล็อก : ปลดล็อก โดยกระจายจากยอดขายของหนังเฉลี่ย 1,000 รายการ
รางวัล : เกมดันเจี้ยนไฟเตอร์เสมือนจริง หีบสมบัติหนึ่งชิ้น(ใหญ่)
“…”
เขารู้สึกประหลาดใจในงานใหม่ที่เพิ่งปรากฏขึ้น
อย่างไรก็ตามเขาเองยังเริ่มงานนี้ไม่ได้ เขาต้องหาโอกาสโปรโมทเกมและหนังเพื่อทํางานปลดล็อกมุมมองก่อน ตอนนี้เขากําลังคิดว่าควรหมุนวงล้อรางวัลและเปิดหีบสมบัติตอนไหนดี
อืม…ฟางฉีเปิดอินเทอร์เฟซระบบเพื่อหมุนวงล้อรางวัลทันที
(ปิ๊บ! คุณได้รับเกมใหม่ ~ เซียนกระบี่พิชิตมาร 3)