ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1429
ฮาร์วีย์ ยอร์กยังยืนอยู่ตรงกลางร้านอย่างไม่รู้หนาวรู้ร้อน ทำให้ผู้เชี่ยวชาญวัตถุโบราณและการประเมินสมบัติจากทั่วโลกที่อยู่ตรงนั้นต้องสั่นเทาไปตาม ๆ กัน
คนธรรมดาทำเรื่องอย่างนี้ได้ยังไงกัน?
นักประเมินบางคนที่ออกตัวว่าเป็นคนมีความสามารถกลับรู้สึกว่าตัวเองถูกดูหมิ่นเมื่อยืนอยู่ต่อหน้าฮาร์วีย์
ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ
มีเพียงสีหน้าของเฟย์ ก็อดดาร์ดและดาร์เรน ฟลินน์ที่บิดเบี้ยวเสียจนดูไม่ได้ ราวกับว่าพวกเขาเป็นฝ่ายทำพลาดเสียเอง
ก็พวกเขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะทำได้ขนาดนี้นี่นา!
กวาดขุมทรัพย์ไปอยู่ในการครอบครองของตัวเองได้มากมาย
ถึงพวกเขาจะได้เงินมามากพอ แต่ก็เป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับกำไรที่ฮาร์วีย์ได้ไปในการซื้อครั้งนี้
ฮาร์วีย์ค่อย ๆ ยกมือขึ้น เขาทำท่าทางบอกให้ฝูงชนเงียบเสียง จากนั้นก็เอ่ยออกมาด้วยเสียงต่ำ “ทุกคนครับ ผมขอบอกอะไรสักอย่างให้ฟัง ผมคัดเลือกวัตถุโบราณทั้งหมดเหล่านี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์มีความบกพร่องมากแค่ไหน”
“ของที่ผมไม่ได้ซื้อ ถ้าไม่เป็นขยะ ก็ไม่คุ้มค่ากับราคาที่ตั้งโชว์ไว้”
“ผมว่าผมไม่ต้องบอกทุกคนก็คงจะรู้นะครับ ว่าควรมาหรือไม่ควรมาซื้อวัตถุโบราณที่ร้านนี้หรือเปล่าในอนาคต จริงไหมครับ?”
ลูกค้าขาจรที่ยังช็อกอยู่ พอได้ยินคำนั้นเข้าก็ทำท่าทางเหมือนคนเพิ่งคิดอะไรได้ในทันที
ถ้าคนอื่นมาพูดอย่างนี้ ทุกคนอาจจะไม่มีใครเชื่อเลยก็ได้
แต่ฮาร์วีย์กลับเก็บอัญมณีดิบราวห้าสิบก้อนออกมาได้อย่างไม่คิดมาก แล้วแต่ละเม็ดที่กะเทาะออกมาก็กลายเป็นหยกคุณภาพสูงกันทั้งนั้น!
ถ้ามีสายตาเฉียบแหลม มองได้ทะลุปรุโปร่งขนาดนี้แล้ว ใครจะยังไม่เชื่อความสามารถของเขาอีกล่ะ?
ตอนนั้นเอง ที่ทุกคนหันกลับไปมองกองอัญมณีดิบที่เหลืออยู่ในร้านด้วยความรังเกียจ
พวกนี้มันก็แค่เศษขยะ ใครจะไปอยากโดนหลอกกัน?
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ วงการวัตถุโบราณมันไม่ได้ใหญ่มาก เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ก็จะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
จบเหตุการณ์นี้ ร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์ในเมืองอื่นคงไม่ต้องขายอัญมณีดิบอีกต่อไป
ทุกคนกลัวว่าพวกเขาจะซื้อขยะกลับบ้านไปแทน!
เรียกได้ว่ากลเม็ดวิธีที่ฮาร์วีย์ใช้นั้นสามารถชักจูงผู้คนได้จริง ๆ เพียงแค่คำพูดง่าย ๆ ก็ทำให้ธุรกิจอัญมณีดิบของร้านขายวัตถุโบราณจระกูลฟลินน์ที่สร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากเกิดการพังทลายจนหมดสิ้น
ความสูญเสียที่พวกเขาประสบ มันมากจนประเมินค่าไม่ได้!
พวกเขาจบเห่แล้ว!
ตอนนั้นเอง สีหน้าของเฟย์กับดาร์เรนก็แย่ลงเรื่อย ๆ
พวกเขาไม่แม้แต่จะถามว่าฮาร์วีย์มีความสามารถแบบนี้อยู่ตลอดได้ยังไง!
พวกเขารู้แค่ว่า ตอนนี้ร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์จบเห่แล้ว!
ต่อให้เป็นร้านขายวัตถุโบราณที่นายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกงเป็นเจ้าของ ธุรกิจอัญมณีดิบก็จบเห่อยู่ดี!
ผลกระทบของการล้มละลายครั้งนี้จะอยู่ไปอีกหลายปี หรืออาจจะหลายสิบปี
ซึ่งหมายความว่านายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกงจะต้องทิ้งธุรกิจอัญมณีดิบอันได้ผลกำไรดีนี้ทิ้งไป และพวกเขาก็จำเป็นต้องเอาขยะพวกนี้กลับไปด้วย
เฟย์กับดาร์เรนกัดฟันกรอด พอเห็นอาเวล ไนส์เวลล์ออกคำสั่งลูกน้องอย่างกระตือรือร้นให้เก็บพวกหยกกลับไป
พวกเขาทั้งคู่อยากจะคว้าเอาทุกอย่างขึ้นมา ณ ตอนนั้น
“ผมบอกแล้ว ว่าเราต้องเอาชนะคนให้ได้ด้วยสติปัญญาอย่างเดียว”
“ว่าไง? คุณเชื่อหรือยังล่ะ?”
ฮาร์วีย์ตอบด้วยสีหน้าสบาย ๆ
เฟย์จ้องเขาอย่างเย็นชา เธอกล่าวขึ้นว่า “นี่มันยังไม่จบหรอกนะยอร์ก! เราจะได้เห็นดีกัน!”
ดาร์เรนก็เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา “การทำให้ร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์โกรธก็มีค่าเท่ากับการทำให้นายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกงโกรธเหมือนกัน พวกนายไม่รอดแน่!”
“เหอะ นี่ตอนนี้ยังจะมาขู่ผมอีกเหรอ?”
ฮาร์วีย์เอ่ยด้วยเสียงไม่สนใจ
“เมื่อกี้พวกคุณยังปล่อยให้ผมซื้อของได้ตามใจอยู่เลยไม่ใช่รึ?”
“ตอนแรกผมก็ว่าจะปล่อยผ่านไปแล้วนะ แต่ถ้าพวกคุณยังแสดงท่าทางแบบนี้ พวกเราเล่นเกมต่อกันเลยดีไหมล่ะ?”
พอเห็นสีหน้าของเฟย์กับดาร์เรนซีดเผือด ฮาร์วีย์ก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรื่อย ๆ ว่า “นายน้อยไนส์เวลล์ ช่วยเอาวัตถุโบราณสักสองสามอย่างก่อนหน้านี้มาแล้วให้สองคนนี้ประเมินค่าที”