ตอนที่ 451 : การต่อสู้ของเหล่าอมตะ
ปรมาจารย์ค้นพบแล้วว่าเขาไม่สามารถเข้าถึงภูมิหลังของร้านโดยการคํานวณอย่างที่เคยทําได้เลย … นักรบเจ่ชุดดํากลับมามีสติอีกครั้ง
พวกเขาเตรียมตัวมาที่นี่และรู้ว่าเจ้าของร้านนี้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอนเพราะแม้แต่คัมภีร์ของสํานักสวรรค์ก็ไม่สามารถหาที่มาของร้านนี้ได้ แต่พวกเขาต้องตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินเรื่องราวของโลกอมตะที่กําลังต่อสู้กับจอมมาร
มันค่อนข้างไม่ออกนอกทะเลไปใช่มั้ย?
จะไปโลกอมตะง่ายเหมือนดื่มน้ําได้ยังไง!? พวกเขานั่งลงพลางคิดด้วยความสงสัย
ทันทีที่พวกเขานั่งลง กวางสีขาวก็ลุกเดินไปที่เคาน์เตอร์และกลับมาพร้อมกับชามทรงกลมที่ห้อยอยู่ตรงปากของมัน
ผู้มาใหม่จ้องไปที่หน้าจอใหญ่อย่างตั้งใจ “สถานที่นี้ดูเหมือน โลกอมตะ”
บนหน้าจอขนาดใหญ่ ปรากฏวังอันยิ่งใหญ่งดงามราวกับสวรรค์มันส่องประกายถึงแก่นแท้ที่ลอยอยู่รอบๆ
ขณะที่พวกเขากําลังดูอยู่นั้น กลิ่นหอมอบอวลชวนห้ามใจเตะจมูกพวกเขา พวกเขาสูดดมมันเข้าไปโดยไม่รู้ตัว หวังซีหันไปมองแหล่งที่มาของกลิ่น
“ทําจิตใจให้สงบระวังไว้” ชายชราเอ่ยเตือน
“อืม ..” หวังซีนั่งตัวตรงและหันกลับมาดูหน้าจอต่อ
ไม่กี่วิต่อมา ชายชุดเหลืองและชายในชุดเสื้อกล้ามเดินตามกันมานั่งข้างเจ้ากวางขาว “กระดิ่งน้อยวันนี้เจ้านายของเจ้าไม่มาที่นี่หรือ?”
พวกเขาเอ่ยถามพร้อมถ้วยบะหมีในมือ
“หม? นี่มันกลิ่นอะไร?” นักรบเต๋ชุดดําของสํานักสวรรค์ดมกลิ่นโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาพบว่ากลิ่นมันหอมชวนห้ามใจ
เขาชําเลืองมอง “อีก ” เขากลืนน้ําลายโดยไม่รู้ตัว
“ตั้งสมาติและเพิกเฉยต่อสิ่งรบกวน” ชายชรายังคงเอ่ยเตือน
“ทราบแล้วท่านอาจารย์” เขาหันกลับมาเพ่งที่หน้าจอทันที
สองคนบนหน้าจอยังไม่ได้เริ่มต้นการโจมตีใดๆ พื้นดินและท้องฟ้าในเวลานี้สั่นสะเทือนคล้ายว่าสินามิจะเข้า แต่ ทั้งคู่ไม่ไหวติง
ผู้ฝึกฝนหลายคนทยอยเดินมาจากเคาน์เตอร์ ในมือของพวกเขาถือถ้วยคนละถ้วย พวกเขานั่งลงอีกด้านหนึ่งของผู้มาใหม่
กลิ่นหอมนั้นเข้มข้นลอยเตะจมูกทั้งสามอีกครั้ง จากนั้นตามด้วยเด็กหญิงตัวเล็กพร้อม เพื่อนในมือของพวกเธอเต็มไปด้วยถ้วยและขนม พวกเธอนั่งข้างๆ กวางขาวตัวใหญ่
ซงรูเดินเข้ามาพร้อมกับทหารยาม.
คนเริ่มทยอยเดินเข้ามาในห้องรับแขกมากขึ้น
หวังซีและนักรบเชุดดําเหลือบมองพวกเขาอีกครั้ง
“อะแฮ่ม!” เสียงไอเตือนจากชายชรา
ทั้งสองมองหน้ากันและหันกลับมามองที่หน้าจออีกครั้ง พวกเขาได้ยินเสียงคนแก่กระซิบเบาๆว่า“เจ้าทั้งสองไปถามพวกเขาซิ ว่าพวกเขากินอะไร เรา .. จะไปกินบ้าง”
ด้วยความไม่เชื่อหูตัวเองพวกเขาหันควับกลับไปมองที่ชายชรา เขากําลังมันเมาสูดดมความหอมเข้าลึกๆ
ชายทั้งสองพูดไม่ออก
“ว้าว! การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!” นักรบเต๋ชุดดําจ้องมองด้วยแววตาตื่นเต้นพลางชู้ดเส้นบะ
ฟางฉีที่กําลังควบคุมจิงเทียนเขาเริ่มโจมตีก่อนที่คู่ต่อสู้ ลําแสงปรากฏขึ้น!
ดาบของเขาชนกับดาบในมือของชงหลิว พลังอันน่าสะพรึงกลัวกระจัดกระจายออกเป็นวงกว้างราวกับคลื่นสินามิ เสียงสั่นสะเทือนของเหล็กชนเหล็กก้องไปทั่ว
การโจมตีครั้งแรกนั้นรุนแรงชวนผู้ชมเวียนหัวตื่นตัวไปตามกัน
“สุดยอด!”
“เมื่อไรข้าจะแข็งแกร่งได้แบบนี้!”
นักเตชุดดําแห่งสํานักสวรรค์ชะงัก ชามบะหมีในมือเขาถึงกับสั่น “มีเพียงแค่อมตะแห่งสวรรค์เท่านั้นที่ทําได้ .. เขาเป็นอมตะที่แท้จริง!”
“นี่คือสิ่งที่พวกรุ่นน้องพูดถึงกันทุกวันใช่มั้ย?” หวังซีกล่าว
หลังจากที่ดาบของพวกเขาปะทะและแยกจากกัน แสงอันเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นมันสองประกายในมหาสมุทรประกายของมันตกลงมาคล้ายดาวตก พลังงานดาบแผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทางพวกเขาทิ้งรอยร้าวลึกไว้ในหมอกเมฆและพื้นที่รอบนอกของวังดาบ
ความเห็นบนหน้าจอปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง พวกเขารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ระหว่างเฟยเพ็งและชงหลิวอนาลีนในเลือดของแต่ละคนนั้นเดือดพล่าน การต่อสู้แบบนี้มันคุ้มค่าจริงๆมันคือความใฝ่ฝันของการต่อสู้อันสูงสุดของแต่ละคน ใครๆ ต่างปรารถนาที่จะไปยังจุดสูงสุดกันทั้งนั้น
พวกเขาทั้งคู่ต่างเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว ชิวหลงเองเขาสามารถควบคุมได้แทบทุกสิ่งบนโลกแม้แต่พลังอวกาศ!
ในส่วนของจิงเทียนเองเขาเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่ใช้พลังลมปรานในขอบเขตของความสามารถของมนุษย์ พวกเขาจึงกลายเป็นความน่ากลัวของกันและกัน
“เห้ย! เจ้าของร้านนั้นสู้อย่างดุเดือด” บนหน้าขอใหญ่ตอนนี้ฟางนี้ไม่ได้แสดงออกถึงความได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เขาใช้ความนิ่งในการควบคุมจิงเทียนเพื่อต่อสู้กับพิวหลงคล้ายถ้วยไวน์ปรากฏขึ้นในฝ่ามือ แสงแวบบนถ้วยไวน์ราวกับว่ามีพลังซ่อนอยู่
เขาโยนมันไปข้างหน้า ถ้วยไวน์ระเบิดออกต่อหน้าชงหลิวปรากฏเปลวไฟขนาดใหญ่ขึ้น
“เปลวเพลิงแห่งการทําลาย?” มีคนอุทาน
การโจมตียังไม่ได้จบลงง่ายๆ
บนหน้าจอจิงเทียนกําลังถอนดาบและร่ายคาถา
หลังจากที่เฟยเพิ่งกลับชาติมาเกิดเป็นจิงเทียน เขามีความรู้ในการใช้ดาบ!
ชิวหลงที่ยืนอยู่ตรงเปลวไฟเขาเริ่มโกรธ พลังของการโกรธส่งผลให้แผ่นดินสั่นสะเทือน
“แผ่นดินสะเทือน? เปลวไฟการทําลาย?”
“ชงหลิวแม้ว่าจะเป็นผู้ควบคุมแทบทุกสิ่งแต่เขาก็ไม่สามารถหลบหนีจากการโจมตีธรรมดาๆได้ถูกมั้ย?”
“ไร้ความเมตตาปราณี!”
การต่อสู้ยังคงดุเดือด ผู้ชมเริ่มมีอารมณ์พุ่งผ่าน พวกเขาแสดงความเห็นกันอย่างดุเดือดอย่างไรก็ตามในส่วนลึกของมหาสมุทรตอนนี้ปรากฏเปลวเพลิงขึ้น
แสงแห่งจิตวิญญาณวนเวียนรอบๆ ฟาง
และพุ่งกลับไปยังชงหลิวทันที
“นั่นอะไร?” ผู้ชมเอาปิดปิดปากไปตามๆ กัน ทําไมดูเหมือนว่าชงหลิวกําลังทําลายตัวเอง
“สุดยอด! เขาใจกระจอกสะท้อน”
นี่ถือเป็นหนึ่งในสมบัติจิตวิญญาณระดับสูง ฟางนี้ได้รับสมบัติจากโลกอมตะ คุณสมบัติของมันคือการสะท้อนพลังไม่ว่าจะแรงแค่ไหนมันก็จะสอนกลับไปเท่านั้น