ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1561
หลังจากได้ยินคำพูดของแฮนเดล ดวงตาของมิเชลก็กระตุกพร้อมกับคนอื่น ๆ อีกสองสามคนที่มองคนทั้งสอง
‘เขายอมแพ้?’
‘เขาเข้าใจแล้ว?’
‘นี่ใช่ฮันเดลคนที่เรารู้จักงั้นเหรอ!’
‘ชายผู้แข็งแกร่งคนนี้มาจากตระกูลสมิธแห่งมอร์ดู เขาคือผู้คุ้มกันของมิเชล!’
‘ก่อนหน้านี้เขาไม่ตอบโต้ เพราะเกรงใจอีวอนน์ ซาเวียร์ไม่ใช่หรือ?’
‘แล้วทำไมเขาถึงยอมรับความพ่ายแพ้แบบนั้น?’
มิเชลและคนอื่น ๆ รู้ดีถึงความแข็งแกร่งของฮันเดล
คนที่ทัดเทียมฮันเดลยังหาได้ยาก ไม่ใช่แค่ในตระกูลสมิธเท่านั้น ยังรวมไปถึงมอร์ดูด้วย
แต่คนยิ่งใหญ่อย่างเขาหลังโดนฮาร์วีย์ ยอร์กตบไปมาหลายหนกลับบวมอย่างกับหมูและยังร้องขอความเมตตาอีก!
สายตานั้นดูเครียดแค้น ทุกคนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็น
ครั้งแรกฮันเดลโดนโจมตีเพราะเขาประมาท
แต่หลังจากโดนโจมตีติดต่อกันถึงห้าครั้ง มันก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของฮาร์วีย์
เมื่อรู้เรื่องนี้ ใบหน้าของมิเชลก็เปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว
เธอจ้องมองฮันเดลอย่างเย็นชาและตวาดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “โสโครก! คุณมันไร้ประโยชน์!”
ฮันเดลแสดงสีหน้าสยดสยอง เขาไม่กล้าแม้แต่จะเอามือกุมใบหน้าตัวเอง
เขาไม่คิดแม้แต่ร้องขอความเมตตา!
แต่ถ้าไม่ทำ เขาอาจถูกตบจนตาย
การตบของฮาร์วีย์รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกครั้ง ฮันเดลรู้ว่าแม้เขาจะรอดชีวิตจากการตบอีกสองสามครั้งอย่างน้อยเขาจะต้องกลายเป็นอัมพาตได้เลยทีเดียว
“เป็นเรื่องดีที่คุณเข้าใจ”
ฮาร์วีย์มองไปที่ฮันเดลด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นบนใบหน้า จากนั้นเขาก็หันกลับไปมองมิเชลซึ่งกำลังทำตัวหยิ่งผยองและทรงพลังอยู่ในขณะนี้
ฮาร์วีย์ยืนอยู่ด้วยท่าทางสบาย ๆ แต่รัศมีที่แผ่ออกมารอบตัวเมื่อเทียบกับผู้คนรอบ ๆ แล้วกลับให้ความรู้สึกเหนือกว่าเขา
“คุณป้า ผมแสดงให้คุณป้าเห็นแล้วว่าผมสามารถปกป้องอีวอนน์ได้ยังไงบ้าง”
“ได้โปรดอย่าทำให้เธอลำบากไปมากกว่านี้เลย!”
น้ำเสียงของฮาร์วีย์สงบแต่เต็มไปด้วยอำนาจ
“เธอไม่ใช่แค่เลขาของผม แต่เธอยังเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของผมด้วย! เธอเป็นคนอันเป็นที่รักของผมด้วย!”
“นั่นเป็นเหตุผลที่ในโลกนี้ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ทำให้เธอรู้สึกผิดหรือไม่มีความสุขได้ ต่อให้พวกเขาจะเป็นคนในตระกูลของเธอก็ตาม”
“อีกอย่าง ตระกูลสมิธยังเป็นหนึ่งในตระกูลสิบอันดับแรกของมอร์ดู และจาเดน สมิธก็ยังเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในกังนัมอีกด้วย”
“ตระกูลสมิธมีปัญหาใหญ่ถึงเพียงไหน ถึงได้แก้ไขไม่ได้จนถึงจุดที่คุณต้องให้อีวอนน์เสียสละตัวเอง”
“สำหรับผมแล้วนี่ดูเหมือนเป็นแค่ข้ออ้าง ผมจะไม่ยอมให้ตระกูลสมิธทำลายชีวิตทั้งชีวิตของอีวอนน์เพียงเพราะข้ออ้างโง่ ๆ นี่!”
“ไม่ใช่แค่กับคุณป้าหรอต่อให้จาเดนจะอยู่ที่นี่ตอนนี้ ผมก็จะพูดแบบนี้เหมือนเดิม!”
น้ำเสียงของฮาร์วีย์สงบ แต่ออร่าของเขายังคงลุกโชน!
มิเชลถูกบีบให้ถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว เพราะถูกอำนาจที่เหนือกว่าของฮาร์วีย์ผลักดัน
มิเชลไม่พอใจ เธอเคยรู้สึกถึงอำนาจแบบนี้จากชนชั้นสูงของสิบตระกูลชั้นนำเท่านั้น
แต่รัศมีของฮาร์วีย์ในขณะนี้แข็งแกร่งกว่าพ่อของเธอไปนิดหน่อย
มิเชลเริ่มสงสัยในตัวตนของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอในขณะนี้
เธอต้องยอมรับว่าฮาร์วีย์ ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอคนนี้นั้นช่างน่าค้นหา!
หลังจากพินิจฮาร์วีย์อยู่พักหนึ่ง มิเชลก็พูดอย่างใจเย็นว่า “พ่อหนุ่ม นายมีฝีมือ ฉันยอมรับว่าครั้งนี้ฉันอาจมองนายผิดไป!”
“แต่นายก็ควรรู้ว่ามีคนที่แข็งแกร่งกว่านายเสมอ!”
“นายคงคิดว่าแค่นายเอาชนะฮันเดลได้แล้วก็ถือว่าน่าประทับใจสินะ”
“แต่นายควรรู้ว่าในสถานที่อย่างมอร์ดู ฮันเดลยังเทียบกับคนอื่น ๆ ไม่ได้ด้วยซ้ำ!”
ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็นว่า “ไม่ว่าใครจะมาหาผมก็ไม่ต่างกันหรอก สำหรับผมแล้ว พวกมืออาชีพก็ไม่ต่างจากขยะไร้ประโยชน์”