ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1622
ฝูงชนเงียบกริบหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทุกคนต่างตกตะลึงในขณะที่มองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์ก
“ฮาร์วีย์ นายหมายความว่ายังไง?”
คิ้วของจูน ลีขมวดมุ่น เธอโกรธมาก
“สตีเว่น วอล์คเกอร์ให้เกียรติจับมือกับนาย เป็นโอกาสสำหรับนาย ถ้านายไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร แต่นายกลับมาบอกว่าเขาไม่มีสิทธิ์จับมือนายงั้นเหรอ?”
“นายบอกว่าเขามีสถานะ ความสามารถ และตัวตนต่ำต้อยเกินไป?”
“แถมยังไม่คู่ควรที่จะจับมือนายเหรอ?”
“นายคิดว่านายเป็นใคร?”
“รองหัวหน้าสาขาหลงเหมินรึไง?”
เฮเซล มาโลนตกตะลึงเมื่อเธอจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยความประหลาดใจ
แต่ในไม่ช้าเธอก็เข้าใจว่าฮาร์วีย์ลูกเขยแต่งเข้าบ้านต้องมาที่มอร์ดูเพื่อมาเป็นลูกเขยของตระกูลมาโลน ชายผู้น่าสงสารคนนี้คงจะวางแผนที่จะกอบโกยเงินทองใส่ตัวอยู่แล้วแน่!
เมื่อเห็นว่าเฮเซลและสตีเว่นมาด้วยกันต้องทำให้ฮาร์วีย์อิจฉาแน่ ๆ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาหาเรื่องสตีเว่น
ในขณะนี้ เฮเซลได้หมายหัวไปแล้วว่าฮาร์วีย์เป็นคนใจแคบ
เคลลี่ มาโลนตัวสั่น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะพูดอะไรแบบนั้น เขาพยายามไกล่เกลี่ยสถานการณ์และพูดว่า “นายน้อยวอล์คเกอร์ ฮาร์วีย์ไม่ได้หมายความอย่างนั้น เขาหมายความว่าเขาเองต่างหากเป็นคนที่ไม่คู่ควร”
สตีเว่นไม่สนใจเคลลี่และจ้องมองฮาร์วีย์
“ผมไม่คู่ควรที่จะจับมือคุณเหรอ?”
“ตัวตน สถานะ และความสามารถของผมต่ำต้อยเกินไปสำหรับคุณหรือ?”
“ไอ้ส*รเลว คุณเสียสติไปแล้วรึไง?”
“ผมจะให้โอกาสคุณขอโทษเพื่อเห็นแก่เฮเซลและพ่อแม่ของเธอ! ไม่อย่างนั้น คุณรับผลที่จะตามมาไม่ได้หรอก!
“ไม่ใช่แค่โอกาสในการทำงานเท่านั้น คุณจะไม่มีแม้แต่หลังคาให้หลบฝนด้วยซ้ำ ถ้าผมยื่นคำขาดออกไป!”
สตีเว่นกอดอกในขณะที่จ้องมองฮาร์วีย์อย่างเหยียดหยาม
จูนแสดงสีหน้าเคร่งขรึมและอุทานเบา ๆ ว่า “ฮาร์วีย์ ยอร์ก ขอโทษนายน้อยวอล์คเกอร์เดี๋ยวนี้!”
“คนอย่างนายน้อยวอล์คเกอร์ไม่ใช่คนที่นายจะไปดูถูกเขาได้ เขาไม่ใช่คนที่นายจะยั่วโมโหได้!”
“ตระกูลวอล์คเกอร์เป็นสิ่งมีชีวิตที่นายไม่มีวันยั่วโมโหพวกเขาได้!
“ไม่ใช่แค่พวกเรา แม้แต่ผู้บังคับบัญชาสูงสุดเองก็ไม่อาจช่วยนายได้ ถ้าคุณชายวอล์คเกอร์ไม่ยกโทษให้นาย!
“เร็วเข้า! คุกเข่าขอโทษ!”
จูนทวงความเป็นธรรม สตีเว่นต้องการให้ฮาร์วีย์ขอโทษ แต่จูนกลับเรียกร้องให้ฮาร์วีย์คุกเข่าในทันที
แขกคนอื่น ๆ กำลังมองฮาร์วีย์อย่างนึกสนุกราวกับว่าพวกเขากำลังดูการแสดงตลก
ในสายตาของพวก เขาฮาร์วีย์กล้าที่จะแกว่งเท้าหาเสี้ยนใส่สตีเว่น ทั้งที่เขาเป็นเพียงแค่ยาจกที่คิดจะสูบเลือดสูบเนื้อเคลลี่
เขามันรนหาที่ตาย!
“ผมเป็นหัวหน้าสาขาของหลงเหมิน แน่นอนว่าคุณไม่มีสิทธิ์จับมือผม”
ฮาร์วีย์พูดอย่างเมินเฉย
‘อะไรนะ?!’
‘เขาเป็นหัวหน้าสาขาของหลงเหมิน?!’
ฝูงชนจ้องมองฮาร์วีย์โดยไม่รู้ตัวอยู่ครู่หนึ่ง…
“พรูด!”
“เคลลี่ คุณจ้างชายคนนี้มาแสดงเดี่ยวไมโครโฟนเหรอ? เขาอ้างว่าเขาเป็นหัวหน้าสาขาของหลงเหมิน จริงหรือ?!”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า นี่มันตลกมาก! ถ้าเขาเป็นหัวหน้าสาขาของหลงเหมิน ฉันก็จะเป็นผู้บัญชาการสูงสุดเอง!”
เมื่อพวกเธอมองไปที่ฮาร์วีย์ จูนและเฮเซลต่างพากันตกตะลึง พวกเธอไม่คาดคิดเลยว่าว่าเขาจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา
เคลลี่ตัวแข็งทื่อ ก่อนหน้านี้เขายังพอช่วยฮาร์วีย์ได้ แต่หลังจากที่ฮาร์วีย์พูดออกมาเช่นนี้ เขาก็หมดหนทางจะช่วยเหลือแล้ว
‘ฮาร์วีย์เป็นหัวหน้าสาขาของหลงเหมิน?! เป็นไปได้อย่างไร?!’
“หัวหน้าสาขาหลงเหมิน?!”
ความเย้ยหยันเด่นชัดบนใบหน้าของสตีเว่น
“ระวังปากหน่อยไอ้ส*รเลว ตอนนี้ยังไม่มีหัวหน้าสาขาหลงเหมินในมอร์ดู ถึงมีก็คงไม่ใช่คนบ้านนอกอย่างนาย!”
“ยังดีนะที่ฉันเป็นคนได้ยินเรื่องนี้! นายเชื่อไหมว่าถ้ามีใครจากหลงเหมินได้ยินเข้า นายได้กลายเป็นอาหารปลาแน่?!”
ในสายตาของสตีเว่น ในตอนนี้เขาไม่สนใจที่จะเหยียบย่ำฮาร์วีย์อีกต่อไปแล้ว
สตีเว่นรู้สึกเหมือนกำลังลดคุณค่าตัวเองที่ไปเหยียบย่ำปลาซิวปลาสร้อยแบบนี้
ฮาร์วีย์จิบชาและตอบอย่างใจเย็นว่า “สาขาหลงเหมินในมอร์ดูไม่มีหัวหน้าสาขาจริง ๆ”
“แต่ตอนที่ฉันอยู่ที่นี่ พวกเขามีหัวหน้าแล้ว”