ตอนที่ 443 : จะยืมหยกสื่อสารหรอ?
หมอกยังคงหนาขึ้นเรื่อยๆ
ดูเหมือนว่าพื้นผิวของปาในตอนนี้จะเต็มไปด้วยความขึ้น
ภายใต้หมวกไม้ไผ่หญิงสาวในชุดขาวหยุดเดินสายตาอันเย็นชาของเธอกวาดมองไปข้างหน้า ในมือของเธอมีดาบยาวอยู่เต็มหนึ่ง
ข้างหน้าเธอคือเด็กหญิงสองคน คนหนึ่งตัวเล็กอยู่ในชุดขาวและอีกคนหนึ่งในชุดน้ําเงิน ที่กําลังเดินเอื้อยแจ้วเข้าไปในหมอกบางๆ
“เป็นอะไรไป?” ทหารและคนบนเรือลาดตระเวณบนท้องฟ้าลุกขึ้นยืนมองเหตุการณ์ด้านล่าง ข้างล่างนั้นเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดแม้ว่าหมอกจะหนาแต่คาถาจิตวิญญาณต่างๆ เปล่งออกมาอย่างชัดเจน
หมอกยังคงหนาขึ้นชวนให้บรรยากาศขมุกขมัว ในที่สุดมันก็พลางตาจนแทบไม่เห็นอะไรแล้วนับประสาอะไรกับผู้คนในหมอก นี่มันตาบอดชัดๆ!
“เขาวงกตเกิดอะไรขึ้น? ที่นี่จํากัดการป้องกันของเกราะหรอ?” ปรมาจารย์เปาผิงสงสัย “ใครเป็นผู้กําหนด?”
“ไม่!” เฟิงซีกล่าวว่า “พื้นที่สอบทั้งหมดเรากําหนดขอบเขตของเกราะเพื่อรับมือไว้ทุกอย่างเภท ยกเว้น .. เขาวงกต”
เขาวงกตนี้ถือเป็นอีกที่หนึ่งที่อันตรายและพวกเขามองว่าการใส่เกราะป้องกันที่นี่จะทําให้การสอบยืดออกไปอีกมันจึงเป็นการเสียเวลา
คําอธิบายเพียงอย่างเดียวของการสอบคือทําการหาสมบัติโดยให้ระวังตัวแต่หากต้องการความช่วยเหลือ หรือได้รับบาดเจ็บสามารถส่งสัญญาณได้ทันที แต่เขาไม่ได้กล่าวว่าข้อจํากัดอยู่ที่ใด เขาวงกตเองก็อยู่ในพื้นที่แทบๆนี้เช่นกัน
ขณะเดียวกันเจียงเสี่ยวหยุเพิ่งส่งข้อความไปในกลุ่มคิวคิว หลังข้อความยังคงหมุนเป็นวงกลมๆ หลังส่งออกไปได้สักพัก .. สัญญาณที่มุมขวาหน้าจอหายไปแล้ว
“ไม่มีสัญญาณ!?” เจียงเสี่ยวหยูตะโกน
เธอกําลังสนุกและคุยอย่างออกรสกับผู้คนในคาเฟ แต่จู่ๆสัญญาณทั้งหมดก็หายไป!
“ดูเหมือนว่าพวกเราจะเข้ามาในจุดทึบสัญญาณ” หลี่หลันเหลียวเอ่ยพลางมองไปรอบๆอย่างระแวดระวัง
เหนือท้องฟ้าไปกว่าห้าร้อยเมตรหนานกงชูวยืนมองมือของเขาด้วยสายตาเย่อหยิ่ง เขามองลงมาเห็นหมอกหนาปกคลุมอยู่
“นายท่าน” ผู้รับใช้เอ่ยเรียก “พวกเขาเข้าไปในอาณาเขตเรียบร้อยแล้ว”
หนานกงชูวมองลงมาด้วยความเครียดแค้นนัยตาของเขาไม่สามารถบ่งบอกถึงความคิดในหัวได้เลย แน่นอนว่าตอนนี้เจียงเสี่ยวหยูและหลี่หลันเหลี่ยวได้เข้าไปในที่ที่ไม่มีสัญญาณเป็นที่เรียบร้อย
“เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้เล่นหยกสื่อวารของเธอมาตลอดทาง” ลูกศิษย์ตระกูลหนานกงกล่าว “เธอไม่ได้สนใจพวกเราแม้แต่น้อย”
เขาพูดด้วยความตื่นเต้น “ตอนนี้พลังเกราะถูกตัดสัญญาณออกทั้งหมด ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะเล่นมันต่อยังไง”
เวลาเดียวกันเจียงเสี่ยวหยูยังคงให้ความสนใจกับหยกสื่อวานไม่เลิกเธอเขย่าหยกสื่อ วานของเธอด้วยความโกรธก็ยังไม่มีสัญญาณ
“เข้าใจแล้ว!” เธอกลอกตาไปมาราวกับว่าความคิดผุดในหัวเธอ เธอหยิบกล่องเล็กๆ แปลกๆออกมาจากกระเป๋าและเสียบมันเข้ากับหยกสื่อสาร เธอแตะที่ตัวรับสัญญาณและปรับเลือกคลื่นความถี่สูง
ในไม่ช้าจากสัญญาณไม่มีก็เพิ่มขึ้นมาสองขีด
เธอรีบเข้าคิวคิวทันที [การเชื่อมต่อไม่เสถียร ขาดการเชื่อมต่อ] เธอกลับมาใช้หยกสื่อสารได้อีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่ามีบางอย่างกําลังขัดสัญญาณการเชื่อมต่อ
เธอส่งรูปถ่ายที่เพิ่งในรูปมีทั้งคนในตระกูลซูและซวนนอนกระจัดกระจายอยู่บนพื้น (ฮ่าๆ ข้าล้มคู่แข่งไปตั้งสองสามคน]
ซูเทียนจิ [ขาดการเชื่อมต่อ? เกิดขึ้นได้ยังไง?]
เจียงเสี่ยวหยู ข้าก็ไม่รู้ ตอนนี้ข้าถูกล้อมรอบด้วยหมอกหนาทึบ มีคนสร้างเกราะกําบังที่นี่
บนท้องฟ้าเหล่าสาวกของตระกูลหนานกงเฝ้ามองดูเพื่อรอคําสั่ง “สาวน้อยคนนี้ยังไม่เลิกใช้หยกสื่อสารของเธออีกหรอ?”
“ข้าควร ” เขาพูดด้วยน้ําเสียงไม่พอใจ “ข้าควรไปแย่งหยกจากเธอดีมั้ย?”
พวกเขาตัดการสื่อสารทั้งหมดกับโลกภายนอกด้วยการล้อมหมอก แต่เด็กหญิงคนนี้ยังเล่นกับหยกได้หน้าตาปกติ!
“ไม่จําเป็น เธอคงไม่สร้างปัญหาอะไรให้เราเท่าไร” หนานกงชูวกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “เธอก็แค่เด็กหญิงตัวเล็กๆ อย่าไปตกหลุมพลางเสียเวลา”
“นายท่านพูดถูกเธอก็แค่เด็กตัวเล็กๆ” สาวกพยักหน้าเห็นด้วย
“อย่าเสียเวลาทําร้ายนางในตอนนี้เลย เราไม่จําเป็นต้องเป็นปฏิปักษ์กับตระกูลนั้น”
“ถูก!”
“นายท่าน คนของสํานักกําลังมา!” ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งพูดขึ้น
“จัดการ!” หนานกงชูวเปลี่ยนสีหน้า “เราต้องเคลื่อนตัวเดี๋ยวนี้เร็วเข้า!”
“องค์หญิงตัวน้อยของตระกูลเจียง” เจียงเสี่ยวหยูที่กําลังบ่นเรื่องสัญญาณไม่ดี หันไปตามเสียงร่างหนึ่งกําลังร่อนลงมาจากท้องฟ้า หนานกงชูวไขว้มือด้านหลังเอ่ยเสียงเย็นชาทักทาย “เจอกันอีกแล้วนะ”
การปรากฏตัวครั้งนี้ของเขาดูทรงพลังกว่าที่ผ่านมา อาจเพราะใกล้ชิดและสัมผัสได้ถึงความ แข็งแกร่งที่มากกว่าผู้ฝึกฝนทั่วไป หลี่หลั่นเหลียวถูกบังคับให้ต้องก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว “เจ้าเป็นสมาชิกของตระกูลหนานกงหรือ?”
“เจ้าอีกแล้วหรอ?” เจียงเสี่ยวหยูพูดด้วยน้ําเสียงไม่พอใจ “เจ้าต้องการอะไร!?”
“มอบหยกสื่อสารของท่านและคนในตระกูลหลีให้ข้า” หนานกงชูวกล่าว “แล้วกลับไปตั้งใจสอบเถอะองค์หญิง เราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านทํา”
“เจ้าจะยืมหยกสื่อสารของข้าหรอ!?” เธอตะโกนด้วยความโกรธ
สาวกของตระกูลหนานกงที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาหัวเราะเยาะ “องค์หญิง ข้าขอแนะนําให้ท่านมอบหยกสื่อสารของท่านและหญิงข้างๆมาเถอะ อย่าบังคับให้เราต้องใช้กําลังเลย”
“ใช้กําลังหรอ? น่าเกียจ!” เจียงเสี่ยวหยูมองบน “ทําไมพวกเจ้าใจแคบ”
“ถ้านั่นคือสิ่งที่เจ้าต้องการ” หนานกงชูวทําหน้าไร้อารมณ์สุดๆ เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับคําปฏิเสธอย่างโจ่งแจ้ง “ข้าจะสอนบทเรียนให้เจ้า!”
เมฆดําก่อตัวขึ้นต่อหน้าพวกเธอพร้อมกับหนานกงชูวที่เอื้อมมือขวาไปจับเธอทั้งสองด้วยความดุร้าย