ตอนที่ 455 : ดูด้วย!
“หัวข้อย่อย?” ฟางฉีเหลือบมองไปที่หน้าจอและเห็นไปคอน “…”
ในไม่ช้าไอคอนสี่เหลื่อมสีน้ำเงินก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง
นี่เป็นตัวโปรแกรมพื้นฐานที่มีตัวต่อมาจากคิวคิวและการพูดคุยเสมือนจริง มันถูกปลดล็อคโดยระบบ มันจึงปรากฏบนหน้าจอ ส่วนอีกรางวัลที่ถูกปลดล็อคคือหนังเรื่องเดอะแมททริกซ์ซึ่งนี่ถือเป็นสิทธิ์ของฟางฉี เขาสามารถเลือกได้ว่าจะปลดล็อคเมื่อไร
สําหรับลูกค้าร้านเก่าคงเข้าใจในความหมายหรือเนื้อเรื่องของหนักมากกว่าลูกค้าในร้านใหม่ พวกเขาไม่มีความมีความรู้เรื่องอินเตอร์เน็ตและความล้ำหน้าของโลกแม้แต่น้อยและความสนุกของเซียนกระบี่พิชิตมารสามคือสิ่งเดียวที่พวกเขามาที่นี่
เนื่องจากคนเหล่านี้ยังไม่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีมากนัก เขาจึงมองว่าหากเขาปล่อยเดอะแมททริกซ์ตอนนี้พวกเขาคงไม่ตื่นเต้นและไม่อยากดูเป็นแน่
ดังนั้นฟางฉีจึงตัดสินใจรอเวลาดูสถานการณ์ก่อนที่จะปล่อยหนังเรื่องใหม่ อย่างน้อยลูกค้าใหม่ก็ต้องมีแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับความล้ำหน้า ความเสมือนจริงและความเข้าใจด้านเทคโนโลยี
ผู้เล่นใหม่หลายคนเริ่มต้นเล่นเกมนี้ด้วยตัวเองและเขาแลกเปลี่ยนความรู้ในแวดวงเล็กๆ พวกเขายังเข้าไม่ถึงคิวคิวและการพักผ่อนในคิวโซน พวกเขาไม่รู้เลยว่ามีผู้คนอีกกลุ่มก็เล่นเกมนี้เช่นกัน พวกเขาอยู่กลางออกไปไกลแสนไกล
อย่างไรก็ตามสิ่งต่างๆ เริ่มเปลี่ยนไปหลังจากหัวข้อย่อยปรากฏขึ้น ฟางฉีสร้างแถบชื่อ “เซียนกระบี่พิชิตมารสาม”
ขณะนี้ฟางฉีเห็นคนทยอยเข้ามา
ซูเทียนจิ [ทําไมข้าถึงมีรายการใหม่อีก?]
[เจ้ารอคอยความแปลกใหม่อยู่ทุกวันหรือเปล่า?] ฟางฉีทําหน้ามึน
อย่างไรก็ตามในฐานะเจ้าของร้าน เขาเป็นคนเดียวที่รู้จักวิธีใช้สิ่งนี้
[การสนทนา : การรวบรวมคาถาจิตวิญญาณทั้งห้า]
[วิธีได้รับ : คาถาทางจิตวิญญาณทั้งห้า]
“จิตวิญญาณทั้งห้า!?” ซูเทียนจิและคนในร้านที่จิวหัวตาโต เธออุทานออกมาขณะที่มือถือชานม “เจ้าของร้านกําลังจะเผยวิธีเก็บคาถาทางจิตวิญญาณทั้งห้า!”
แตกต่างจากเวอร์ชั่นเดิม เวอร์ชั่นนี้ของระบบมีสมบัติน้อยชิ้นมากที่จะสามารถป้องกันคาถาจากชงหลิว
ในหัวข้อย่อยนั้นจะไม่วุ่นวายเท่ากับกลุ่มพูดคุย เพราะหัวข้อจะแบ่งแยกเฉพาะหัวเรื่อง
[กลุ่มพูดคุยเซียนกระบี่พิชิตมารกําลังเปิดรับสมาชิกเข้ากลุ่มคิวคิว หมายเลขกลุ่มคือ ..]
สามวันต่อมา ฟางฉีเหลือบไปเห็นการเปิดใช้งานของเซียนกระบี่พิชิตมารเพิ่มขึ้นและในตอนนี้มันมีจํานวนเกินกว่าสามพันครั้ง
[ข้าจะสู้กับชงหลิว] นาหลันหมิงชื่อโพสต์ภาพลงกลุ่มซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าเธอกําลังเดินทางไปยังโลกอมตะ
[ทําไมพวกเจ้าถึงไปไวมาก?] หวังชีหยุดนิ่งเมื่อเห็นการพูดคุยกันคืบหน้าในกลุ่ม
[ทําไมเจ้าถึงได้ไปไว?] หวังปูเต่สงสัย [ข้าเล่นแปดช่วงโมงต่อวันยังเข้าไม่ถึงโลกอมตะสักที แต่ถึงอย่างนั้นบอกเลยว่าดาบปีศาจนั้นทรงพลังมาก!]
ข้าจะโพสต์ให้ดูหลังจากผ่านมันไปได้
[รอชม!] ฟางฉี
[เขาไม่ตอบข้าเดาว่าการต่อสู้กําลังเริ่มต้นขึ้นแล้วแหง] ซงฉิงเฟิง
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ..
โอ้ย
ข้าถูกทุบตีโดยไร้มนุษยธรรม!] นาหลันหมิงซื่อ
เจียงเสี่ยวหยู [ข้ายังไปไม่ถึงนั่น]
ซงฉิงเฟิง [พี่ชงหลิวนั้นทรงพลังมาก ข้าเดาว่าข้าเองก็คงมีสภาพไม่ต่างกัน]
รูปโปรไฟล์ของซูโมคือรูปชุดดําของชงหลิว “เพราะเขาคือจอมมาร!”
ขณะเดียวกันผู้เล่นในเมืองครึ่งและจิวหัว พวกเขาแทบจะรู้จักันหมดทุกคนผ่านการต่อสู้ร่วมกัน ความสัมพันธ์ระหว่างร้านค้าใหม่และเก่านั้นสนิทสนมกันมาก พวกเขากระชับมิตรโดยการเล่นเกมออนไลน์ร่วมกัน
การแข่งขันน้อยลงจากเมื่อก่อนมาก แต่พวกเขายังคงพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
ฟางฉีเพิ่มชื่อหนังเดอะแมททริกซ์บนกระดานดําโดยไร้การเปิดตัว
เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแม้หยวนหยางจะถูกสร้างขึ้นบนทําเลยอดเขาจิตวิญญาณแต่สภาพอาการก็เปลี่ยนไปตามเวลาสภาพอากาศที่นี่นั้นรุนแรงมากหากเทียบกับจิวหัวแต่หนาวน้อยกว่าเมืองครึ่ง
ที่สํานักสวรรค์ช่วงนี้ไม่ค่อยมีการเรียนการสอนเนื่องจากผู้อาวุโสของสํานักสวรรค์นั้นติดเกม เขาจึงให้อาจารย์ผู้น้อยเป็นผู้นําทางการสอนแทนเขาแต่อาจารย์ผู้น้อยเลือกที่จะให้เหล่าสาวกฝึกฝนด้วยตัวเอง และนั้นเป็นเหตุให้เหล่าสาวกมีเวลามากมาย
บางคนถึงกับออกไปสัมผัสโลกภายนอก
“พี่หลันเหลียวข้าทําได้”
หลี่หลันเหลียวเตรียมบะหมี่และชานมให้เพื่อนและตัวเองก่อนจะไปเรียน
ครอบครัวหลี่มีสมาชิกไม่กี่คน เธอคือหนึ่งในคนที่มีความสามารถมากที่สุดในครอบครัว ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผู้อาวุโสหลี่รู่หนาและซินเอ๋อหวังกับเธอไว้มาก เธอมักจะกลับมาช่วยพวกเขาทุกวันหลังจากเรียนเสร็จ
หลี่หลั่นเหลียวเดินผ่านกระดานดําไปมาสายตาเหลือบไปเห็นหนังชื่อแปลกๆ “เดอะแมททริกซ์”
เธอรู้ว่ามันคือหนังเพราะเธอเคยดูภูเขาตามคําแนะนําของเจียงเสี่ยวหยูมาก่อน
ลูกค้าหลายคนมักจะมาที่นี่เพื่อเล่นเกมและนั่งพักผ่อนกินขนม ซงวูก็เช่นกันเขาคือผู้บังคับบัญชาหากวันไหนไม่เจอเขาในร้านนั่นแปลว่าวันนั้นมีงานหนัก
อย่างไรก็ตามคนที่ว่างก็มักจะมารวมตัวกันที่นี่
“ท่านอาจารย์ระวังด้วย!”
หวังซีพยุงอาจารย์กูถึงหยุนเข้าไปในร้าน
กูถึงหยุนเกษียนจากการเป็นอาจารย์ที่สํานักสวรรค์มานานแล้วตอนนี้ในช่วงสุดท้ายของชีวิตงานเดียวของเขาคือสอนเหล่าสาวก
ส่วนหวังซีนั้นงานเดียวของเขาคือการศึกษาคัมภีร์ของสํานักสวรรค์ แต่เนื่องจากอาจารย์ของเขามาที่นี่เพื่อเล่นเกม เขาจึงไม่จําเป็นต้องเข้าเรียนเลย
อาจารย์และลูกศิษย์เป็นกลุ่มแรกและกลุ่มสุดท้ายในร้านเกือบทุกวัน
“พวกเขากําลังทําอะไรกันอยู่แถวเคาน์เตอร์” กูถึงหยุนหรี่ตามอง
เขาได้ยินเสียงเงี้ยวจ้าวของเสี่ยวหยู “เจ้านายจะดูเดอะแมททริกซ์มั้ย?”
“แน่นอน เจ้าจะทําไม?”
“เช่นนั้นข้าก็จะดูด้วย!”
“เดอะแมททริกซ์” หวังซีและกูถึงหยุนมองหน้ากัน “มันคืออะไร?