ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1736
ในสายตาของสตีเว่น วอล์คเกอร์นั้นเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
ฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกระจอก ๆ ที่พอมีฝีมือ แต่แล้วไงล่ะ?
สุดท้ายก็ยังต้องหาเงินเลี้ยงชีพอยู่วันยันค่ำ
ตราบใดที่ฮาร์วีย์ทำงานในไคเซ็น กรุ๊ป เขาก็สามารถฆ่าหมอนี่ได้ทุกวิถีทาง!
ในความเห็นของสตีเว่น แม้ไบรอัน โฮลท์จะใช้คนของหลงเหมิน เขาก็ยังจัดการกับฮาร์วีย์ไม่ได้
หลังจากคุกเข่าในครอบครัววอล์คเกอร์ทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดเขาก็เข้าใจเรื่องนี้
การใช้กำลังบดขยี้ผู้คนเป็นวิธีที่ทรงพลังที่สุด
พนักงานสาวสวยสองสามคนเหลือบมองสัญญาโดยอัตโนมัติ จากนั้นทุกคนก็ยกมือขึ้นป้องปากด้วยความประหลาดใจ
หลังจากนั้น สีหน้าที่พวกเธอมองไปที่ฮาร์วีย์ก็เต็มไปด้วยความขมขื่น
ลูกค้าสองคนนี้จัดการได้ยากมาก
แม้แต่สตีเว่นก็ไม่อาตจัดการพวกเธอได้ด้วยตัวเอง แต่เขากลับต้องการให้ฮาร์วีย์จัดการเรื่องนี้ภายในสามวัน แน่นอนว่าเขาคิดจะใช้เรื่องนี้ทำให้ฮาร์วีย์ต้องเดินออกไปจากที่นี่ด้วยตัวเขาเอง!
เฮเซลพูดขึ้นโดยไม่ต้องคิดว่า “ผู้จัดการวอล์คเกอร์ ฮาร์วีย์เป็นพนักงานใหม่และไม่คุ้นเคยกับรายละเอียดปลีกย่อยของธุรกิจ คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม ให้เขา…”
สตีเว่นมองฮาร์วีย์อย่างเฉยเมยและพูดเหน็บแนมว่า “เฮเซล อย่าประเมินญาติผู้น่าสงสารของคุณต่ำไปนักสิ เขามีความสามารถออก!”
“ยิ่งไปกว่านั้น เขามาทำงานนะ ไม่ได้มาตีกับใคร!”
“งั้นเขาก็ต้องดูส่วนนั้นด้วย!
“ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ หรอก ถ้าคุณไม่ทำงาน คุณก็ไม่ได้เงิน!”
“ถ้ามาอยู่ที่นี่แล้วไม่ตั้งใจทำงาน ก็กลับบ้านไปเลี้ยงวัวเลี้ยงควายก็ได้นี่!”
เฮเซลเงียบไปครู่หนึ่ง เนื่องจากสตีเว่นใช้เหตุผลนี้ เธอจึงไม่รู้ว่าจะช่วยฮาร์วีย์จัดการกับเรื่องดังกล่าวได้ยังไง
นอกจากนี้ ถ้าไม่ใช่เพื่อให้พ่อแม่ของเธอหยุดทะเลาะกัน เฮเซลก็คงไม่คิดจะช่วยให้ฮาร์วีย์เข้ามาทำงานที่ไคเซ็น กรุ๊ปด้วยซ้ำ
ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไรอีก เธอมองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความสงสัย
ฮาร์วีย์ยิ้ม ก่อนหยิบเอกสารสองฉบับขึ้นมาดูอย่างตั้งใจ
จากนั้นเขาก็พูดอย่างหน้าตาเฉยว่า “นายน้อยวอล์คเกอร์ถ้าผมทำให้ให้สองคนนี้เซ็นสัญญาได้ ผมก็จะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานอย่างเป็นทางการใช่ไหม?”
“ถูกต้อง! หากคุณได้ลายเซ็นของพวกเธอมาภายในสามวัน คุณจะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำ แถมผมจะให้ค่าคอมมิชชั่น 20 เปอร์เซ็นต์สำหรับสัญญาทั้งสองฉบับนี้ด้วย!
“แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ คุณต้องออกไปจากที่นี่ทันที!”
“คุณเข้าใจไหม?”
สตีเว่นก้าวไปข้างหน้าและจ้องมองฮาร์วีย์
“สามวันเหรอ? ใช้เวลาไม่นานขนาดนั้นหรอก” ฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมย “สำหรับผม แค่สามสิบนาทีก็พอแล้ว”
ฮาร์วีย์หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดโทรออก “เฮลีย์ เธอกับแอนนามาเซ็นสัญญาฉันที่ไคเซ็น กรุ๊ป ภายในครึ่งชั่วโมงด้วย…”
หลังจากที่สตีเว่นตะลึงงันไปเล็กน้อยเมื่อเห็นปฏิกิริยาของฮาร์วีย์ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ฮาร์วีย์ ผมอยากให้คุณบรรลุตกลงกับลูกค้าสองคนนี้ ไม่ใช่ขอให้คุณอวดเก่งแบบนี้!”
“คุณอย่าโทรหาญาติจนๆของตัวเองในเรื่องทางธุรกิจสิ!”
“คนธรรมดา ๆ ไม่มีปัญญาซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทเราได้หรอก!”
“อีกอย่าง ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาไม่ถึงสองพันแปดร้อยดอลลาร์ เราก็ไม่ขายมัน!”
เมื่อพูดจบประโยค ความดูถูกเหยียดหยามบนใบหน้าของสตีเว่นก็ยิ่งชัดเจนขึ้น
ฮาร์วีย์วางสายและพูดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่า “ผมเพิ่งโทรหาเฮลีย์ สมิธและแอนนา วินทัวร์”
“ผู้หญิงสองคนนี้ไม่ใช่ลูกค้าใหม่ของคุณเหรอ?”
“ไม่ต้องห่วงน่า พวกเธอจะมาที่นี่และเซ็นสัญญาในไม่ช้านี้”
“ฮาร์วีย์! พอได้แล้ว!” ใบหน้าของสตีเว่นมืดลง “อะไรของคุณ? ที่นี่มันบริษัทนะ! ไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะมาทำตัวโอ้อวดเสแสร้งไปวัน ๆ!”
“คุณรู้หรือว่าเฮลีย์ สมิธและแอนนา วินทัวร์เป็นใคร?”
“เฮลีย์ สมิธเป็นสมาชิกของตระกูลสมิธ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบตระกูลชั้นนำ สำหรับแอนนา วินทัวร์เธอมีทรัพย์สินมูลค่าสุทธิหลายล้านดอลล่าห์!”
“คุณจะนัดเจอกับคนระดับนี้ง่าย ๆ ได้ยังไง?!”
“แม้แต่ฉันเองก็ยังรับมือกับสองคนนี้ไม่ได้ แค่โทรศัพท์กริ๊งเดียวของคุณจะทำได้ยังไง?”
“คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร? คุณเป็นซีอีโอของไคเซ็น กรุ๊ปหรือไง?”