ตอนที่ 432 : ชานม
แม้ว่าเรื่องราวของเซียนกระบี่เทพพิชิตมาร 3 จะไม่ค่อยมีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องในภาค 1 เท่าไรนัก แต่ยังได้รับความนิยมจากทั้งลูกค้าเก่าและใหม่อย่างต่อเนื่อง
คาถาทางจิตวิญญาณและเทคนิคขั้นสูงสุดของตัวละครทั้งสองตัวอย่างจิงเทียนและซูฉางชิงนั้นแต่งต่างไปจากหลี่เสี่ยวเหยา
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็อย่างเช่น ซูฉางชิงเค้ามักจะใช้คาถารูนเป็นหลัก ส่วนจิงเทียนใจหลักของเขาคือการใช้เทคนิคดาบพลังปีศาจในการควบคุมและต่อสู้
จุดแข็งของจิงเทียนคือความเข้าใจถึงพลังอันน่าอัศจรรย์ของดาบเต๋า เพราะนั่นคือตัวตนของเขาก่อนที่เขาจะกลับชาติมาเกิด
ผู้เล่นสามารถสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของเขาภายในเกม
เริ่มแรกของเนื้อเรื่องอาจจะเริ่มต้นจากความลําบาก เนื่องจากความแข็งแรงของจิงเทียนนั้นอยู่ในช่วงต้นถึงปานกลางยังไม่ได้แข็งแกร่งมาก แม้ว่าฟางจะมีความชํานาญระดับสูงแต่เขายังคง รู้สึกเงอะงะในขณะใช้เทคนิคดาบปีศาจ เรื่องราวยังคงดําเนินต่อไปในไม่ช้า เขาก็ได้รับแรงบรรดาลใจและความรู้มากมายจากวิชาดาบปีศาจของจิงเทียน
เซียนกระบี่เทพพิชิตมาร 1 กับ 3 นั้นมีตัวละครหลักและเนื้อเรื่องที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ซึ่งทําให้ผู้เล่นพอจะเดาทางออก การเล่าเนื้อเรื่องจะเป็นการเล่าในรูปแบบของแต่ละมุมการเรียนรู้ และการอาศัยอยู่ของพวกเขาตอนมีชีวิตอยู่ในโลกนั้นๆ นอกจากนี้ผู้เล่นยังได้เรียนรู้วิชาเพิ่มเติม จากการใช้เทคนิคของพวกเขาตอนมีชีวิตอยู่ก่อนกลับชาติมาเกิด
ในส่วนของเซียนกระบี่พิชิตมาร 3 นั้นจะมุ่งเน้นไปที่การกลับชาติมาเกิดเเป็นการเล่าเรื่องราวการเกิดใหม่ของซูฉางชิงและชี้ชวนที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง เมื่อผู้เล่นเดินทางเข้าสู่โลก เสมือนจริงของพวกเขาพวกเขาจะเข้าใจมากขึ้นว่าลึกๆของการกลับชาติมาเกิดคืออะไร
ขณะเดียวกันโครงเรื่องของจิงเทียนนั้นกลับถูกแบ่งเป็นสองส่วน คนหนึ่งให้ความสําคัญกับคนในตระกูลถัง ซึ่งเธอทั้งน่ารักและสดใส ส่วนอีกคนหนึ่งคือหลงกุย น้องสาวของจิงเทียนที่มีชีวิตมาแล้วพันปีเนื่องจากเธอหลับไหลไปกับดาบปีศาจ
ผู้คนสัมผัสได้ถึงน้ําหนักของความรักที่มีมายาวนานนับพันปี มันสร้างความประทับใจให้กับผู้เล่นส่วนใหญ่ทั้งลูกค้าใหม่และเก่า อย่างเช่นหลี่หลันเหลียวในตอนนี้เธอรู้สึกตื่นเต้นและเข้าถึงเรื่องราวเป็นอย่างมาก
เนื่องจากตอนนี้ร้านใหม่นั้นยังไม่มีลูกค้า พวกเขาจึงเล่นเกมและดูหนังจนลืมไปว่าตัวเองนั้น เป็นพนักงานคนหนึ่ง กลุ่มเซียนกระบี่พิชิตมารพูดคุยกันอย่างครึกครัก
หลี่หลันเหลียวค่อยๆ แทรกซึมและเข้าร่วมสนทนาในหัวข้อต่างๆจากตัวละครหญิงที่เขาชื่นชอบไปจนถึงตัวละครชายอันหล่อเหล่าที่สุด ข้อความในคิวคิวยังคงเด้งรัว
นอกเนื้อจากเซียนกระบี่พิชิตมารแล้วพวกเขายังพูดคุยเกี่ยวกระบี่เทพสังหารและเทคนิคขั้นสูงของเกมแต่ละเกมอีกด้วย
ที่บริเวณห้องนั่งเล่นใกล้ทางเข้าเสี่ยวหยูนั่งบนโซฟาพร้อมกับกวางขาวตัวใหญ่คู่ใจของเธอ เจ้ากวางตัวร้ายของเธอถือถ้วยชานมด้วยกีบหน้าของมัน เธอกับจ้ากระดิ่งกําลังดื่มและเพลิดเพลินกับการจิบชา
“ ฮ่าาาาา” เจ้ากระดิ่งส่งเสียงมันทําท่าทางเหมือนเด็กกําลังดีใจที่ได้กินชานมแสนอร่อย
“มันอร่อยใช่มั้ยล่า ” เจียงเสี่ยวหยูพูดด้วยใบหน้าอารมณ์ดี “ข้าเคยกินอาหารในร้านนี้ทุกวัน”
เธอพูดอวดมัน “ฮ่าาาาาา ” มันยังคงร่าเริงไม่ลดลง
ขณะเดียวกันชายรุ่นเยาว์รูปหล่ออายุราวๆยี่สิบปีเขาเดินเข้ามาในร้านพร้อมผู้รับใช้ที่มีท่าทางก้าวร้าว ชายหนุ่มคนนี้อยู่ในชุดคลุมสีดําสนิท
“ท่านผู้น้อย” เสมียนจากร้านข้างๆพยายามจะหยุดพวกเขา “ท่านเข้าไปที่นี้ไม่ได้หรอก เจ้าของร้าน ”
“อ๊ะ!” เขาตะโกน
“ออกไป!” ผู้รับใช้ไล่เสมียนราวกับหมูกับหมา “เจ้ารู้ไหมว่าเขาเป็นใคร? ข้าไม่สนใจอะไร หากนายน้อยข้าอยากได้หรืออยากไปไหนเข้าจะต้องได้ตามที่ต้องการ
หนุ่มน้อยโบกพัดและเหลือบมองรอบๆ “ร้านนี้แหละ ดูจากการออกแบบพื้นนั้น”
ผู้รับใช้โค้งคับนับและพูดว่า “เสมียนของร้านนั้นรายงานมาว่าเจ้าของร้านนี้ทําให้คนจากตระกูลหนานกงโกรธเคือง ”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ใช่เราซะหน่อยที่มีปัญหา” หนุ่มน้อยพูดด้วยเสียงเย็นชา “คนในตระกูลหนานกงนั้นหยิ่งยโสและไม่เป็นที่ชอบของหลายคน เข้าไปข้างในดีกว่า”
“ใช่ ใช่!”
เมื่อก้าวเท้าเข้าไปยังไม่ทันจะปิดประตู “ท่าน ” ผู้รับใช้ตะโกน
เขากลืนคําพูดของเขาลงคอไปแล้วชี้ไปที่เด็กสาวที่นั่งเล่นพร้อมกวางคู่ใจที่อยู่ในห้องนั่งเล่น “นี่นี่” น้ําเสียงของเขาตะกุกตะกัก
“หืม ?” ชายหนุ่มยืนแข็งที่อ “เธอคือองค์หญิงตัวน้อยของตระกูลเจียงไม่ใช่หรอ?”
เขาเดินไปตรงนั้นทันที “ข้าประหลดาใจยิ่งนักที่พบกับองค์หญิงของตระกูลเจียงที่นี่ ช่างเป็นเกียรติอย่างยิ่ง!”
“เสี่ยวหยู เขาเป็นเพื่อนเจ้าหรือ?” ฟางฉีมองไปที่หนุ่มชุดดําด้วยความงุนงง
“ฉันถังหยวน” ชายหนุ่มป้องมือขึ้นและกล่าว “ตระกูลถังของข้ามีความสามารถในเรื่องของการประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณและเครื่องทางจิตวิญญาณ เราเห็นผู้คนเดินทางเข้ามา เมืองโดยใช้พาหนะทางจิตวิญญาณทางพื้นดิน จากความเร็วที่ข้าได้เห็นข้าจึงเดินทางมาเพื่อเยี่ยม เยียน”
“” ใบหน้าของฟางฉีกระตุกเล็กน้อย “แล้วเจ้าเก่งหรือไม่?”
“ ชายหนุ่มปลายตาไปที่ฟางฉี “พี่ชายท่านไม่รู้หรือว่าตระกูลถังของข้าผสมผสานเครื่องจักรและนําสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณเข้าไปด้วยเสมอ เจ้าแยกพวกเขาออกจากกันหรือ?”
“เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าเห็นสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณของท่านวิ่งบนพื้นดินด้วยความเร็วสูง ซึ่งไร้การผันผวนของการรบกวนใดๆ ข้ารู้สึกประหลาดใจที่ได้พบคนแวดวงเดียวกันในเมืองนี้” ชายหนุ่มกล่าว
ฟางฉีเงียบฟัง
“ข้ารู้ว่าข้าเป็นคนอวดดี .. แต่” ชายหนุ่มถาม “ข้าขอท่านดูสิ่งประดิษฐ์ของท่านหน่อยได้มั้ย” หนุ่มน้อยเอ่ยขึ้น
ฟางฉียืนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ได้ แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้น อ้อ ห้ามสัมผัสมันนะ”
จากนั้นเขาก็นรูปออกมาจากที่เก็บอุปกรณ์ของเขา
เมื่อมองไปที่สิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาฯบนพื้นดินนี้แล้ว” มันมีรูปร่างแปลกประหลาดแต่ดูสมบูรณ์แบบและเข้ากันดี ถังหยวนอุทานอย่างชื่นชม “สมบูรณ์แบบ มันสมบูรณ์แบบจริงๆ ทุกอย่างดูเข้าการและเชื่อยมโยงกันเป็นอย่างดี รูปแบบของมันได้รับการออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนของลมเมื่อมันวิ่ง … มันเกิดขึ้นด้วยความสมบูรณ์แบบ!”
เขามองดูด้วยสายตาชื่นชมท่าทางของเขานั้นดูอยากจะเข้าไปข้างในใจจะขาด
ใบหน้าของฟางฉีกระตุก เขามองไปที่ชายคนนี้เห็นได้ชัดว่าเขาอยากจะขับรถล้ําค่าคันงามคันนี้อย่างมาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ารถของเขาจะสร้างความสนใจขนาดนี้
ขณะเดียวกันผู้คนจากไต้หวังก็ได้รับข้อความจากสํานักสวรรค์ [การสอบของสํานักสวรรค์จะเริ่มต้นในอีกไม่ช้า ผู้เข้าร่วมต้องมาเจตรียมตัวการภายในสามวัน!]