ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1833
อีเลียสยักไหล่และตอบอย่างใจเย็น “ถ้าอย่างนั้นคุณอยากได้อะไรล่ะ”
ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็นว่า “ผมไม่มักมากเท่าคุณหรอก ถ้าคุณแพ้ คุณจะต้องมาเป็นน้องชายคนเล็กของผมนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
“ในฐานะพี่ใหญ่ของคุณ ผมจะเป็นคนตัดสินว่าคุณจะอยู่หรือตาย”
อีเลียสมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาที่เล็กลงอยู่นานสองนาน จากนั้นเขาก็ตบมือเป็นสัญญาณให้พนักงานก้าวออกมาข้างหน้า
“งั้นก็มาทำสัญญากัน”
เลขาสาวสวยเดินก้าวออกมาด้านหน้า ใบหน้าของเธอซีดเผือดราวกับกระดาษ เธอเริ่มทำสัญญาโอนกรรมสิทธิ์ในทันที
สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างสาหัสเมื่อเธอได้อ่านเงื่อนไขของสัญญา เธอไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เธอกำลังอ่านอยู่
เจ้าชายพาเทล หนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดูกำลังทำการเดิมพันเช่นนี้กับชายบ้านนอกนี่
ถึงอย่างนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาเช่นเธอก็ไม่มีอำนาจอะไรจะไม่หยุดเรื่องนี้ได้
หลังจากทำสัญญาลุล่วง อีเลียสก็ลงนามในสัญญาทันทีและประทับลายมือของเขาลงไปโดยไม่คิดจะอ่านเนื้อหา
เขาโบกมือขวาส่งสัญญาไปยังฮาร์วีย์
ฮาร์วีย์เขียนชื่อของตัวเองลงในสัญญาอย่างใจเย็นและโยนมันกลับไปให้เลขาคนเดิม
เมื่อพิจารณาจากตัวตนของอีเลียสและฮาร์วีย์แล้ว พวกเขาจะปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาตั้งแต่ลงนามอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นแล้ว เพราะเขาก็คงไม่รู้ว่าจะต้องเอาหน้าไปไว้ที่ไหนในอนาคต
หลังจากก้าวเข้ามาในสังเวียน ฮาร์วีย์ถามอย่างไร้อารมณ์ว่า “น้องพาเทล คุณจะใช้อาวุธอะไรหรอ? มีดโคลสตีล? หรือปืน? คุณจะใช้อะไรก็ได้ เพราะยังไงซะผมก็ไม่มีวันพ่ายแพ้อยู่แล้ว”
เมื่อได้ยินชื่อเล่นที่ฮาร์วีย์ตั้งให้ ดวงตาของอีเลียสก็กระตุก
ตลอดชีวิต เขาเคยจะเจอคนหยิ่งยโสมาไม่น้อย แต่แม้จะเทียบกับเจ้าชายแห่งมอร์ดูอีกห้าคน ความเย่อหยิ่งของฮาร์วีย์ก็ส่งถึงพวกนั้นเทียบไม่ติด
เมื่อพิจารณาถึงธรรมชาติของอีเลียสแล้ว เขาจะต่อสู้ด้วยมือเปล่าอย่างแน่นอน เนื่องจากฮาร์วีย์ก็ทำเช่นเดียวกันกับเขา อีเลียสกระโจนไปข้างหน้าในทันที สายตาเล็งพร้อมกระทุ้งเข้าที่ใบหน้าของฮาร์วีย์
ร่างกายของเขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสง กำปั้นของเขาเคลื่อนไหวได้รวดเร็วราวกับเงา ภาพนั้นทำให้หน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เฝ้าดูเกิดความงุนงง
“วิชาไท่เก็ก”
ความสนใจของฮาร์วีย์นั้นถูกจุดประกาย การได้เห็นว่ามีคนฝึกศิลปะการต่อสู้เน่ยเจียอย่างไท่เก็ก ในยุคแห่งสันติภาพเช่นนี้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของอีเลียสได้แล้ว
แต่ฮาร์วีย์ก็ไม่คิดที่จะออมมือให้เขาเช่นกัน เขาก้าวไปข้างหน้าและเหวี่ยงหมัดออกไป
นับเป็นเรื่องปกติที่เขาเลือกจะต่อสู้กับอีเลียสแบบตัวต่อตัวเช่นกัน
ตู้ม!
หมัดทั้งสองไขว้กัน และแรงกระแทกของทั้งสองหมัดก็ทำให้เกิดแรงกระแทที่ดังสนั่นหวั่นไหว
ฮาร์วีย์โอนเอนไปมาเล็กน้อยในขณะที่ยังคงยืนอยู่ที่จุดเดิม เขาไม่ถอยไปแม้แต่ก้าวเดียว
กลับกันอีเลียสถูกบังคับให้ล่าถอยไปสามก้าวเพื่อลดทอนพลังที่ดันเขาออกมา
“เจ้าชายยอร์ก การพยายามควบคุมตัวเองแบบนั้นแค่เพราะห่วงเรื่องศักดิ์ศรีของตัวเองมันไม่เข้าท่าอะไรสักนิด
“ศิลปะการต่อสู้ใช้เพื่อฆ่า ไม่ใช่เพื่อการโอ้อวด หากคุณไม่เข้าใจเรื่องนั้น คุณจะเป็นคู่ต่อสู้ของผมได้ยังไง?”
อีเลียสสันนิษฐานว่าฮาร์วีย์แค่พยายามวางมากและรักษาความจองหองด้วยการทำตัวอวดเก่ง
สำหรับเขาแล้ว ฮาร์วีย์คงฝืนไม่ให้ตัวเองกระอักเลือดออกมาอย่างหนักเลยทีเดียว
ฮาร์วีย์ไม่ใส่ใจที่จะตอบตรง ๆ และพูดอย่างใจเย็นว่า “ผมบอกคุณแล้วเจ้าชายพาเทล ผมมันอยู่ยงคงกระพัน ดังนั้นคุณจะใช้อาวุธอะไรก็ได้”
“อวดดีจริง ๆ!”
อีเลียสชูนิ้วหัวแม่มือให้ฮาร์วีย์
“ผมเคยท้าทายปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้โบราณมามากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นคนหยิ่งยโสอย่างคุณ!
“ถ้าอย่างนั้นผมจะไม่ออมมือแล้วนะ!”
อีเลียสก้าวไปข้างหน้าและปรากฏตัวต่อหน้าฮาร์วีย์ในทันที เขาเหวี่ยงกำปั้นทั้งสองไปที่ใบหน้าของฮาร์วีย์ ราวกับกำลังใช้หอกยาวอยู่
ผลักคลื่นเข้าหาฝั่ง!
ผู้สูงอายุที่ฝึกไท่เก็กในสวนสาธารณะทำถ้าดังกล่าวได้อ่อนปวกเปียกมาก
แต่ในขณะนี้ อีเลียสได้เปลี่ยนการเคลื่อนไหวที่อ่อนปวกเปียกเหล่านี้ให้กลายเป็นการโจมตีที่ทรงพลัง