ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1862
สีหน้าของฮาร์วีย์ ยอร์กสงบนิ่ง
จัสติน วอล์คเกอร์เป็นคนหยิ่งยโสที่พยายามข่มฮาร์วีย์อยู่ตลอดเวลาเพียงเพราะเขาเป็นรองหัวหน้าหลงเหมินสาขามอร์ดูที่มีคนอื่นคอยหนุนหลังอยู่
ในครั้งนี้จัสตินยังขอให้หัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์มาช่วย เป้าหมายของเขานั้นชัดเจนมาก: การครอบครองฮาร์วีย์อย่างสมบูรณ์
ฮาร์วีย์กำลังเตรียมการที่จะทำให้เขาต้องสูญเสียครั้งใหญ่เพราะเหตุนี้
เรื่องการได้เป็นหัวหน้าสาขาของหลงเหมินสาขามอร์ดู เขาจะไม่มีโอกาสเลย
ที่ฮาร์วีย์ยังไม่รับตำแหน่งหัวหน้าสาขาในตอนนี้ก็เพียงเพราะเขาต้องการเห็นกองกำลังที่จะปรากฏตัวเพื่อครองตำแหน่งนั้นเป็นของตนเอง
นอกเหนือจากนั้นเขายังต้องการแก้ไขสถานการณ์โดยให้มีผู้บาดเจ็บน้อยที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้หลงเหมินสาขามอร์ดูพังทลายลงโดยสิ้นเชิง
ถ้าไม่ใช่เพราะทั้งหมดนี้ ฮาร์วีย์คงจะตบจัสตินจนตายไปแล้ว
ไคท์ไม่อาจเข้าใจได้ว่าฮาร์วีย์กำลังคิดอะไรอยู่ในใจ เธอตอบอย่างเป็นกังวลว่า “ฮาร์วีย์ ฉันเชื่อทุกสิ่งที่คุณพูดนะ
“แต่ฉันรู้จักพ่อและแองเจลิน่า จอห์นเป็นอย่างดี!
“สองคนนี้จะไม่ยอมพ่ายแพ้ง่าย ๆ !”
“พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าพวกเขาจะทำอะไรถ้าพวกเขาหมดความอดทนขึ้นมา”
ไคท์กังวลใจเป็นอย่างมาก
หลังจากที่อยู่กับฮาร์วีย์ได้ไม่กี่วัน ไคท์ก็ค่อนข้างที่จะมั่นใจในความสามารถของฮาร์วีย์
แต่ถึงอย่างนั้นฮาร์วีย์ก็เป็นเพียงคนใหญ่คนโตจากที่อื่น
แม้แต่คนที่ทรงพลังก็จะไม่สามารถเอาชนะงูพิษในถิ่นของตัวเองได้ คำพูดนี้ไม่ใช่แค่คำขู่เปล่า ๆ เท่านั้น
ไม่เพียงแค่ตระกูลจอห์น และแม้ว่าตระกูลวอล์คเกอร์จะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสิบตระกูลแรก แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นตระกูลอันดับต้น ๆ ในมอร์ดู ตระกูลนี้หยั่งรากลึกมานานจนอิทธิพลของพวกเขาขยายไปทั่วทิศ
ไม่ว่าฮาร์วีย์จะแข็งแกร่งแค่ไหน โอกาสที่เขาจะเอาชนะครอบครัวแบบนี้ได้ก็มีน้อยมาก
เพราะในมอร์ดู ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็ทำงานให้พวกเขา
แม้แต่ขอทานตามท้องถนนก็อาจเป็นหนึ่งในพวกเขา
ภายใต้สถานการณ์เหล่านั้น การต่อต้านจัสตินจะไม่ส่งผลดีต่อฮาร์วีย์เลย
“ไม่ต้องห่วง”
ฮาร์วีย์ยิ้ม
“หนึ่งเลย ผมไม่กลัวว่าพวกเขาจะมาแก้แค้นหรอก”
“และสอง ผมจะทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะยอมจำนนอย่างเชื่อฟัง
“เพราะนอกจากผมแล้วก็ไม่มีใครที่จะสามารถรักษาแองเจลิน่าจากอาการแปลกประหลาดของเธอได้แล้ว”
“และแม้ว่าจะมี คนคนนั้นก็จะไม่สามารถถูกเชิญมาที่นี่ในเวลาอันสั้นได้
“เว้นแต่ว่าแองเจลิน่าจะเต็มใจที่จะเปื่อยเป็นผัก…
“ถ้าไม่ พวกเขาก็จะยอมเอง”
ไคท์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากที่ได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ เธอรู้ว่าฮาร์วีย์พูดถูก
แม้ว่าแองเจลีน่าจะเป็นแม่เลี้ยงของไคท์ แต่เธอก็แก่กว่าไคท์เพียงไม่กี่ปี
ผู้หญิงในวัยสามสิบจะยอมละทิ้งความเยาว์วัยและเกียรติยศและความร่ำรวยหลายสิบปีของเธอเพื่อกลายเป็นผักเพียงเพราะความหยิ่งของเธอได้อย่างไร?
ดังที่ฮาร์วีย์กล่าวไว้ จัสตินและแองเจลิน่าจะต้องยอมจำนนอย่างแน่นอน
จากนั้นไคท์ก็ถามอย่างไม่คิดทบทวนด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ฮาร์วีย์ คุณจะรักษาโรคของแองเจลิน่าจริง ๆ เหรอถ้าพ่อของฉันยอมรับเงื่อนไขของคุณ?”
ไคท์เพียงแต่ต้องการอยากจะรู้ว่าฮารืวีย์จะเป็นคนแบบไหน
ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็นว่า “แน่นอน สุภาพบุรุษไม่เคยกลับคำ เมื่อผมตกลงตามเงื่อนไข ผมก็จะรักษาเธอตามคำสัญญาแน่นอน
“ถ้าผมไม่ทำ เธอจะออกมาสร้างปัญหาในอนาคตได้ยังไงล่ะ?”
แองเจลิน่าคือตัวประกันของจัสติน แม้ว่าโอกาสที่จะได้ใช้เธอนั้นน้อยมาก แต่ฮาร์วีย์ก็ไม่กลัวที่จะลองเสี่ยง