ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1953
อีวอนน์ก้าวถอยหลังในขณะที่พูดอย่างเป็นกังวลว่า “ซีอีโอ คุณก็ควรจะออกมาจากที่นั่นเหมือนกัน! นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน ศัตรูอาจมีเล่ห์เหลี่ยมมากกว่านี้อีก!”
ฮาร์วีย์พยักหน้าเห็นด้วย
“ออกไปก่อน ผมจะตามหลังไปทันที!”
ฮาร์วีย์คว้าตัวเมซี่และอุ้มเธอขึ้นพลางถอยกลับ
เมซี่ฟื้นคืนสติอย่างช้า ๆ แต่เธอก็ยังจำฮาร์วีย์ไม่ได้ เธอกัดฟันและตะโกนต่อไปว่า “ฉันจะฆ่าพวกมัน! ฉันจะฆ่าพวกชาวเกาะทุกคน!
“พวกมันฆ่าครอบครัวของฉัน!
“พวกมันสมควรตาย!
“ใครก็จะเปลี่ยนใจฉันไม่ได้!”
ฮาร์วีย์ถอยหลังไปอีกก้าวและเริ่มตำหนิเมซี่
“ถ้าเธอเอาชนะพวกมันได้จริง ๆ เธอคงจะไม่ลงเอยแบบนี้ตั้งแต่แรกหรอก!
“และนอกจากนี้ การทำงานกับพวกชาวเกาะไม่ใช่เรื่องที่ดีอยู่แล้ว! ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พิจารณาจากสารรูปของเธอในตอนนี้ เธอน่าจะสมควรได้ลงเอยแบบนี้แล้วล่ะ!”
ด้วยคำพูดที่รุนแรงของฮาร์วีย์ร่างกายของเมซี่ก็สั่นสะท้าน น้ำตาเริ่มไหลลงใบหน้าของเธอ
เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถโทษคนอื่นสำหรับเหตุการณ์นี้ได้
ก่อนหน้านี้เธอถูกความชื่นชมที่เธอมีต่อเจ้าชายลูคัสครอบงำจนตาบอดและถูกหลอกให้ไปทำงานกับชาวเกาะ
ในฐานะลูกน้องของเจ้าชาย เธอไม่แม้แต่จะพยายามหยุดสิ่งนี้ไม่ให้เกิดขึ้นด้วยซ้ำ
เมื่อฮาร์วียืเห็นว่าเมซี่ไม่ได้ดิ้นอีกต่อไปเขาก็เร่งฝีเท้าขึ้น
วินาทีที่ฮาร์วีย์กลับไปรวมกลุ่มกับอีวอนน์และคนอื่น ๆ หลังจากที่ห่างออกมาสามสิบฟุต หมอกสีดำจาง ๆ ก็สั่นอย่างรุนแรง สีของมันดูจางลงเล็กน้อยและเริ่มพุ่งเข้าหาฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนจะมีกลิ่นเหม็นคาวโชยออกมาจากหมอก ถ้าใครได้สูดดมก็จะตกอยู่ในภวังค์ทันที
ตุ้บ!
บอดี้การ์ดอีกสองคนของอีวอนน์ทรุดตัวลงหลังจากที่สูดหมอกเข้าไปเล็กน้อย ร่างกายของพวกเขาเริ่มสั่นอย่างบ้าคลั่ง
“ลงมือเลย!”
อีวอนน์ออกคำสั่ง สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นเย็นชาเมื่อเห็นบอดี้การ์ดสองคนล้มลง แม้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะถูกจัดฉาก แต่เธอก็รู้ดีว่าพวกเขาทั้งหมดจะต้องตายที่นี่หากพวกเขาไม่พยายามหลบหนีการโจมตีครั้งนี้อย่างสุดความสามารถ
บอดี้การ์ดที่เหลืออีกสี่คนรวมทั้งคนขับชักปืนออกมาและเริ่มยิงเข้าไปในหมอกอย่างสุ่ม ๆ
กระสุนตกลงมาในหมอก แต่ไม่มีเสียงออกมาจากข้างในหมอกอย่างที่พวกเขาคิดเอาไว้เลย
ในไม่ช้ากระสุนก็หมด พวกเขาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง หรือไม่กระสุนก็อาจจะไปโดนต้นไม้หรือพื้นบริเวณใกล้เคียง ความพยายามของพวกเขาไร้ความหมาย
ในความเป็นจริงดูเหมือนว่ากระสุนของพวกเขาจะไม่ได้ผลกับหมอกหนานั้นเลย แม้ว่าพวกเขาจะได้เปรียบด้านกำลังคนแต่พวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้
“ช่างไร้เดียงสา! ถ้าปืนสามารถฆ่าฉันได้…
“การฝึกฝนตลอดหลายปีของฉันก็คงไร้ค่า”
สำเนียงแปลก ๆ นั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง
“พวกมนุษย์โง่เขลา! พวกแกไม่รู้เรื่องวิธีของพวกเราชาวเกาะผู้ทรงพลังเลย!
“คุกเข่าซะ!
“คุกเข่าและสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อจักรพรรดิแห่งประเทศหมู่เกาะ แล้วฉันอาจจะไว้ชีวิตพวกแก!”
ฮาร์วีย์ไม่ได้หวาดกลัวน้ำเสียงอันเย่อหยิ่งของศัตรู แต่เขาไม่ได้คิดว่ามันจะตลกด้วย เขาหรี่ตาลงและพยายามมองภาพตรงหน้า น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถบอกได้ว่าศัตรูอยู่ตรงไหน
“นินจาจากประเทศหมู่เกาะเหรอ?”
ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว เมื่อพิจารณาจากกลยุทธ์ของศัตรูแล้ว เขาไม่ใช่นักดาบ องเมียวจิ นักมายากล หรืออะไรทำนองนั้น มีโอกาสสูงที่ศัตรูจะเป็นนินจาจากประเทศหมู่เกาะ
ว่ากันว่ากลวิธีของเหล่านินจาจากประเทศหมู่เกาะนั้นร้ายกาจและชั่วร้ายเมื่อพวกเขาทำทุกวิธีทางเพื่อสังหารเป้าหมายและทำภารกิจให้สำเร็จ
ยาพิษที่คนส่วนใหญ่เกลียด เป็นหนึ่งในผลงานที่น่าประทับใจของพวกเขา
“ถ้ากล้าก็มาปรากฏตัวสิ!”
อีวอนน์เริ่มวิตกกังวลมากขึ้น
“ลูกผู้ชายที่ไหนจะเล่นเป็นพระเจ้าแบบนี้!”