ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 212
“เพื่อนของผม ส่งมันมาให้ผม” ฮาร์วีย์อธิบายอย่างคลุมเครือจากนั้นพูดต่อว่า “ยังไงเราก็จะได้รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้แล้วเราก็จะออกไปอย่างปลอดภัย อย่างอื่นมันไม่สำคัญ โอเคไหม?”
แมนดี้เม้มริมฝีปากแน่น แต่ไม่พูดอะไร แม้ว่าวิดีโอนั่นจะทำให้เธอสับสน แต่เธอก็แค่อยากจะออกไปเพราะเธอกลัวที่นี่
สีหน้าของโควีย์เปลี่ยนไปและหลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “ฉันจะตกลงกับแกก็ได้ แต่ฉันต้องการยืนยันความจริงของเรื่องนี้ก่อนที่จะปล่อยแกไป
ฮาร์วีย์ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ ฉันจะยังอยู่ แต่แกต้องปล่อยภรรยาของฉันไปก่อน ฉันจะบอกคุณหลังจากที่เธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย”
โควีย์ดูไม่พอใจและจ้องไปที่ฮาร์วีย์แต่ไม่พูดอะไร
ฮาร์วีย์พูดอย่างไม่ทุกข์ร้อน “มิสเตอร์แชด ฉันยังอยู่ที่นี่ นายจะยังกังวลว่าฉันจะไม่บอกนายอีกหรือไง? นอกจากนี้นายรอจนกว่านายสามารถยืนยันความจริงก่อนที่จะบอกฉันว่าใครอยู่เบื้องหลังก็ได้ แต่ให้ภรรยาของฉันไปก่อนเพื่อที่ฉันจะได้สบายใจ ไม่อย่างนั้นฉันไม่เชื่อนาย”
โควีย์เงียบแล้วหลังจากนั้นก็หัวเราะ “ตกลง ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันจะให้พี่สะใภ้ออกไปก่อน!”
แม้ว่าโควีย์จะเคยมืดมนจากความคิดชั่วร้ายมาก่อนและวิธีที่เขาจัดการสิ่งต่าง ๆ นั้นค่อนข้างรุนแรง แต่ตอนนี้เขาก็สงบลงแล้ว
สำหรับเขาตอนนี้ข้อมูลของฮาร์วีย์มีความสำคัญมากกว่า หากเขาไม่ตกลงเขาอาจจะลงเอยเหมือนเลียม สถานะ อำนาจ และผู้หญิง เขารู้ว่าสิ่งไหนที่เขาควรจัดลำดับความสำคัญอย่างไร
“ออกไปซะ!” โควีย์โบกมือส่งสัญญาณให้ลูกน้องของเขา
ลูกน้องของเขามองหน้ากันแล้วรีบเปิดประตู
“ฮาร์วีย์ คุณ…” แมนดี้ตะลึง ทำไมเขาถึงปล่อยเธอไปหลังจากที่ฮาร์วีย์พูดอะไรบางอย่างกับเขา? ฮาร์วีย์จะทำอะไรถ้าเธอออกไปแล้ว?
“กลับบ้านไปก่อนนะครับ ไม่ต้องกังวล ผมจะรีบกลับ ขับรถระวังนะครับ” ฮาร์วีย์ยิ้มและพูดอย่างอ่อนโยน จากนั้นเขาก็ส่งกุญแจรถให้แมนดี้
แมนดี้เม้มริมฝีปากของเธอและปฏิเสธที่จะไป
“ถ้าคุณอยู่ที่นี่มันจะเป็นปัญหาสำหรับผมแม้ว่าผมจะอยากหนีไปตอนหลังที่มีโอกาสก็ตาม จำไว้ว่าโทรหาผมเมื่อคุณกลับถึงบ้าน เชื่อผม ตกลงไหม?” ฮาร์วีย์พูดเบา ๆ
แมนดี้ลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะปล่อยมือจากแขนเสื้อและกระซิบว่า “ระวังตัวด้วย ฉันจะรีบกลับไปขอความช่วยเหลือ…”
“อย่า อย่าลืมโทรหาผมและรอฟังข่าวจากผม” ฮาร์วีย์พูดอย่างหนักแน่น หลังจากนั้นแมนดี้ก็ออกไปขึ้นรถปอร์เช่และขับออกไปอย่างรวดเร็ว
แมนดี้โทรหาเขาประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ฮาร์วีย์ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเธอบอกว่ากลับถึงบ้านแล้ว
เขารู้ดีว่าภารกิจในวันนี้จะไม่ง่าย แต่เขาไม่คิดว่าโควีย์จะเป็นฝ่ายยุ่งเกี่ยวกับพวกเขา
โควีย์พูดอย่างไม่สบอารมณ์หลังจากที่ฮาร์วีย์วางสาย “เฮ้ ฉันปล่อยภรรยาของแกไปตามที่ตกลงกันแล้ว บอกฉันทีว่าใครฆ่าเลียม”
แม้ว่าโควีย์จะเป็นคนใจร้อน แต่เขาก็ค่อนข้างประหม่าเช่นกัน เขาเคยถามเรื่องนี้ผ่านแหล่งข่าวก่อนหน้านี้และแม้ว่าสถานการณ์จะค่อนข้างตึงเครียดมาก แต่เขาก็มั่นใจว่าเลียมถูกฆ่าตายแล้ว
โควีย์แค่แสร้งทำเป็นสงบ
“นายรู้อยู่แล้วว่าข่าวนั้นเป็นความจริง นายจะกลัวอะไร? ฉันจะบอกนายแน่นอน” ฮาร์วีย์ยิ้ม จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดปุ่มบันทึก “นายบอกฉันได้ไหมว่าใครสั่งให้นายมาก่อควานวุ่นวายตระกูลซิมเมอร์? มันเป็นใคร? เหตุผลของพวกเขาคืออะไร?”
“ฮาร์วีย์ อย่ามาล้อฉันเล่น! ฉันให้เวลากับนายมากพอแล้ว!” สีหน้าของโควีย์มืดลง “ฉันจะให้แกอีกหน่อย ถ้าแกยังไม่พูดอะไร ฉันจะจัดการกับแกจนกว่าแกจะพูดออกมา!”
“รีบร้อนไปทำไม? ฉันบอกนายเหรอว่าจะไม่บอกนาย? ฮาร์วีย์ยิ้มแล้วปรบมือเป็นสัยญาณเบา ๆ
เสียงฝีเท้าดังมาจากทุกทิศทางทันที
ผู้คนหลายร้อยคนมาถึงและพื้นที่ก็ดูแน่นขนัดไปในทันที
แม้ว่าโควีย์จะมีลูกน้องมากกว่ายี่สิบคน แต่ก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับคนหลายร้อยคนได้
โควีย์ตะลึง คนเหล่านี้มาจากไหน? วันนี้ยังปั่นป่วนไม่จบสิ้นอีกงั้นเหรอ? เหตุใดจึงมีผู้คนจำนวนมากมาที่นี่?
ในขณะนั้นไทสันค่อย ๆ เดินออกมาจากฝูงชน
สีหน้าของโควีย์เปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นใบหน้าของไทสัน “ไทสัน วูดส์ นี่หมายความว่าไง? พวกนี้เป็นลูกน้องของนายงั้นเหรอ?”
“โควีย์ เกิดอะไรกับนาย? นายกล้ายั่วโมโหเขาได้ยังไง” ไทสันแสยะยิ้มเล็กน้อย
“นายหมายถึงอะไร?” โควีย์รู้สึกสับสน เขาตามระรานตระกูลซิมเมอร์เพราะแซ็คขอให้เขาทำ เป็นไปได้ไหมที่แซ็คและไทสันกำลังร่วมมือกันกำจัดเขา? อย่างไรก็ตามแซ็คจะไม่ได้อะไรจากเรื่องนี้