Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ – ตอนที่ 110

ตอนที่ 110

หลังจากนั้นทางตำรวจได้เดินทางมาถึง

พวกเขาได้พบเศษกระจกกันกระสุนที่ถูกทำลาย พวกเขารีบเข้าไปในสำนักงานทันที แต่พวกได้ชะงักเพราะพวกเขาได้กลิ่นเลือดลอยไปทั่ว

 

“ยกมือขึ้น!!” ตำรวจหยิบปืนขึ้นมาเล็งไปที่เกาเผิง เพราะเขาเป็นคนเดียวที่ยังรอดชีวิต

“อย่าขยับ”

“เอามือวางไว้ที่หัวและก้มหน้าลงไป”

 

เกาเผิงปฏิบัติตามแต่โดยดี ขณะที่เขากำลังหมอบอยู่ เขาก็พูดขึ้นว่า

“ผมคือเกาเผิงที่โทรแจ้งพวกคุณ สามารถตรวจสอบเรื่องนี้ได้นะครับ” ระหว่างที่เขาพูด เขาสั่งให้สตีปี้ทำตัวนิ่งๆใจเย็นๆเข้าไว้

“ตำรวจอย่างพวกคุณคงไม่ทำร้ายพลเมืองหรอกใช่มั้ย” เกาเผิงพูดขณะกำลังหมอบอยู่ แต่เขาก็รู้แปลกมือของมันรู้เหนียวๆ เมื่อเขาเอามือมาดูก็พบว่าเป็นเลือดของเขาที่ไหลออกมาจากบาดแผล

 

หลังจากที่พวกเขายืนยันตัวเกาเผิงได้แล้ว พวกเขาก็รีบปฐมพยาบาลเกาเผิงทันที

พวกตำรวจได้สำรวจสถานณ์ที่เกิดเหตุ พบศพชายสองคนที่ติดอยู่กับใยแมงมุม บริเวณศีรษะกับลำตัวถูกเจาะไปหลายแห่ง มีเลือด เครื่องในและเศษสมองไหลออกไปทั่ว เป็นภาพที่ดูน่ากลัวมาก

 

‘ศพยังอุ่นๆอยู่เลย’

 

ที่อยู่ข้างพวกเขามีศพของสัตว์อสูรที่เป็นตะขาบขนาดเท่าแขน ถูกฉีกกระชากเป็นสองส่วนและก็มีสัตว์อสูรอีกตัวหนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายดินน้ำมันได้ส่งเสียงออกมาและเคลื่อนไหวช้าๆ

 

“ที่เกิดเหตุเคลียร์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บช่วยส่งรถพยาบาลมาที่นี่ที” ตำรวจได้รายงานผ่ายวิทยุสื่อสารของพวกเขา

……..

 

ในห้องสืบสวน

เจ้าหน้าที่ได้สอบถามเกาเผิงว่า “ทำไมคุณถึงฆ่าพวกเขา”

 

“ผมก็แค่ป้องกันตัว” เกาเผิงศีรษะของเขาพันด้วยผ้าพันแผล

 

เมื่อเห็นท่าทีที่สงบของเกาเผิงจึงทำให้เจ้าหน้าต้องขมวดคิ้ว

“จากการตรวจสอบ พวกเขาถูกพันด้วยใยแมงมุมทำให้พวกเขาไม่อาจทำอะไรคุณได้แล้ว”

 

“ก็ผมไม่รู้หรอกนะว่า พวกเขาจะสู้ได้หรือไม่ได้ พวกเขาได้เอาค้อนทุบไปที่หัวผมไปแล้ว” แผลที่ศีรษะของเกาเผิงไม่มีทางเองได้หลังจากที่เขาฆ่าชายที่ถือค้อนไปแล้ว

 

“จะยังก็เถอะ พวกเขาได้ติดใยแมงมุมและถูกฆ่าโดยสัตว์อสูรของคุณ คุณต้องส่งสัตว์อสูรของคุณมาให้ทางตำรวจตรวจสอบ”

 

เกาเผิงนิ่งเงียบไป

 

‘ก็โจรสองคนนั้นต้องฆ่าเขานี่ แล้วทำไมเขาต้องปล่อยให้พวกเขามีชีวิตรอดออกไปล่ะ’

 

แต่ถ้าหากเขาจับพวกเขาไว้ พวกเขาจะโดนตั้งข้อบุกรุกในยามวิกาลและพยายามฆ่าอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องลงมือรุนแรงขนาดนี้

เขาได้แต่ถอนหายใจ เขาไม่ใช่คนดีเท่าไหร่นัก ที่จะปล่อยคนพวกนี้รอดไปได้ เกาเผิงให้โอกาสโจรทั้งสองได้หนีไปแล้ว แต่พวกเขากับปัดโอกาสนี้ทิ้ง

 

“ที่สัตว์อสูรของผมฆ่าสองคนนั้นเพราะว่ามันโกรธที่เห็นผมโดนทำร้าย”

 

เจ้าหน้าที่ขมวดคิ้วไม่พอใจกับตำตอบที่ได้รับ ขณะที่เขาจะถามต่อ ก็มีเสียงประตูขัดจังหวะขึ้นมาพอดี

*ก๊อก ก๊อก*

มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามา เขาเห็นผู้กำกับยืนอยู่กับชายวัยกลางคนที่เขาไม่รู้จักอยู่ข้างนอก

 

“ผลการสอบสวนออกมาว่า ชายสองคนนี้ได้บุกรุกเข้ามาและพยายามฆ่าคนที่อยู่ข้างใน เขาทำเพื่อป้องกันตัวเอง” ผู้กำกับที่เดินเข้ามาได้กล่าว

 

เจ้าหน้าที่คนนั้นรู้สึกแปลกๆ คดีบุกรุกแค่นี้นี้ ถึงกับทำไห้ผู้กำกับต้องมาออกหน้าด้วยตัวเองเลยเหรอ แสดงว่าพื้นหลังของเด็กคนนี้คงจะไม่ธรรมดา เขาพยักหน้ายอมรับก่อนจะเก็บของและออกจากห้องสอบสวน

 

“ลุงหลิว?”

 

เกาเผิงจำชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างผู้กำกับได้ทันที เขาไม่คิดว่าลุงหลิวจะมีปรากฏตัวที่นี่

แม้เขาจะไม่รู้ว่าลุงหลิวจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างไร แต่เขาก็ไม่คิดว่าลุงหลิวจะมีพาวเว่อร์มากขนาดไปคุยกับท่านผู้กำกับได้

 

“เรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว งั้นพวกเรากลับกันเถอะ” ลุงหลิวพูดกับเกาเผิงด้วยรอยยิ้ม

 

เกาเผิงเดินตามลุงหลิวอย่างเงียบๆ เขาเก็บคำถามมากมายไว้ในใจ รอให้ออกจากสถานีตำรวจก่อนถึงจะเริ่มถามเขา

แต่เกาเผิงไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี

ทำให้บรรยากาศระหว่างสองคนนี้เต็มไปด้วยความอึดอัด

 

“ฉันได้รับการมอบหมายจากใครบางคนให้มาปกป้องเธอ” ลุงหลิวพูดพูดเรื่องนี้ขึ้นมาระหว่างกำลังจะลงบันได

 

เกาเผิงตกใจและหันไปมองลุงหลิว

 

ลุงหลิวเผยรอยยิ้มออกมาอย่างสดใส “เธอไม่อยากรู้หรอว่าคนๆนั้นเป็นใคร”

 

เกาเผิงมองไปที่ลุงหลิวและถามอย่างสงสัยว่า “เป็นคุณตาของผมใช่มั้ย”

 

‘นี่เขาเดาไปง่ายๆขนาดนี้เลยเหรอ’ รอยยิ้มของลุงหลิวก็แข็งค้างทันที

 

“คนปกติที่ไหนจะมานั่งปกป้องเด็กกำพร้าด้วยล่ะ” ตอนนี้จิตใจของเขาเริ่มสงบแล้วหลังจากผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงมามาดๆ

“ตั้งแต่เกิดมหาภัยพิบัติ คุณตาของฉันก็ได้หายตัวไป ไม่รู้ว่าเขาจะประสบอุบัติรึเปล่า แต่เขาเป็นคนเดียวที่ผมนึกออกว่า คนที่ต้องการปกป้องผมมากขนาดนี้นั้นคือใคร” เกาเผิงพูด

 

ลุงหลิวไม่ตอบเขาแต่ท่าทางของเขาก็เหมือนเฉลยไปแล้ว

 

เกาเผิงถอนหายใจ ตอนนี้เขารู้สึกสับสนมาก “คุณตายังแข็งแรงมั้ยครับ”

 

ยังไงเลือดก็ข้นกว่าน้ำ

 

ที่คุณตาที่ไม่เคยมาหาเขาก็คงมีเหตุผลบางอย่าง

ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งคนมาปกป้องเขามาเป็นเวลานานหรอก

 

“ตาเฒ่านั่นแข็งแรงจะตาย ยังอยู๋ได้อีกเป็นสิบๆปี” ลุงหลิวหัวเราะเบาๆ “มีเรื่องวุ่นวายที่บริษัทของตาเฒ่านั่นจึงไม่สามารถมาหาหลานของเขาได้น่ะ แต่เขาใกล้จะสะสางปัญหาเสร็จแล้ว เธอรู้มั้ยเกาเผิง ตาแก่นั่นโกรธมากที่รู้ว่าเธอถูกจับส่งเข้าโรงพักน่ะ ฉันไม่เคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้มาก่อนเลย ขนาดคนรู้ว่ามีคนต้องการจะฮุบบริษัทของเขา เขายังไม่โกรธขนาดนี้เลย”

 

“คะ ครับ” เกาเผิงตอบรับอย่างเงียบๆ “หวังว่าเขาจะสะสางปัญหาเสร็จเร็วๆนี้น่ะครับ”

 

หลังจากที่รู้ว่าคุณตายังมีชีวิตอยู่ ทำให้จิตใจของเกาเผิงตอนนี้ว้าวุ่นมาก แม้ภายนอกจะดูนิ่งๆเหมือนผืนน้ำก็ตาม

ลุงหลิวรู้ว่าคงต้องให้เวลากับเกาเผิงในเรื่องนี้สักพัก

 

เมื่อเกาเผิงกลับมาที่อพาร์ทเม้นท์ เกาเผิงดูเหม่อลอยมากถึงขนาดเผลอทำมีดบาดนิ้วตอนหั่นผักเลย

ทำให้ต้าซื่อสะดุ้งตื่นทันที

 

‘มีใครมาตีขาเค้าเนี่ย’

‘ใครกันน้า’

‘ใครกันน้า’

 

ต้าซื่อลุกขึ้นและคลานไปทั่วห้องนั่งเล่น

เกาเผิงถอยหายใจมองไปที่ผักที่หั่นแบบหยาบไม่ประณีต เขาเลยเอาผักพวกนี้ใส่หม้อและเริ่มทำอาหาร

 

วันนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมายมีคนมาบุกปล้นที่สำนักงานในระหว่างที่ยกระดับสตีปี้และที่สำคัญเขาได้รู้ว่าคุณตาของเขายังมีชีวิตอยู่และส่งคนมาดูแลอย่างลับๆในตลอดหลายปีที่ผ่านมา

Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์

Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

เมื่อ3ปีก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง เหล่าสรรพสัตว์และต้นไม้นานาพันธุ์ เกิดการกลายพันธุ์อย่างบ้าคลั่ง

ยังไม่รวมถึงสิ่งมีชีวิตจากมิติอื่นบุกเข้ามายังโลกมนุษย์แห่งนี้ แม้พวกมันจะเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายแต่มนุษย์ยังสามารถมาเลี้ยงดู ฝึกสอน

และนำมาต่อกรกับสัตว์อสูรที่อยู่ภายนอกได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่ ยุคสมัย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท