Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ – ตอนที่ 126

ตอนที่ 126

เกาเผิงวางซุปปลาไว้บนโต๊ะอาหารจากนั้นหันหลังไปหยิบช้อนออกมา

เมื่อเขาหันกลับมาเขาก็เห็นเฟลมยืนอยู่ใกล้ๆพร้อมชามซุปปลาและมันรู้ตัวว่าเกาเผิงเห็นมัน มันจึงกึ่งเดินกึ่งบินหนีไป

 

เขาอึ้งถึงกับพูดไม่ออกเลย ‘ไม่ใช่ว่ามันยังไม่อยากกินไม่ใช่เหรอ’

 

เกาเผิงเดินมาที่ชามของเขากับพบว่า ปลาในชามหายไปหมดไม่เหลือแม้แต่ชิ้น

 

“หนอย! เฟลมมี่!!”

 

สุดท้ายมื้อของเขาก็จบด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

 

หลังจากทานเสร็จ เขาทำความสะอาดจานชามและเครื่องครัว จนเสร็จ แล้วเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อดูข่าวสารต่างๆในช่วงนี้

เกาเผิงเปิดไปเจอฟอรั่มอันหนึ่งที่ทำให้เขารู้โกรธมาก แบบที่ไม่เคยโกรธใครมาก่อน

 

เนื้อหาของในกล่าวชายคนหนึ่งที่ขี่แมงมุมและบังคับให้คนอื่นสวมหมวกสีเขียวที่แสบตา มีคนจำคนๆนี้ได้และบอกว่าเขาคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในการสอบรอบแรกของเมืองฉางอาน นั่นยิ่งทำให้ฟอรั่มนี้ร้อนแรงขึ้นไปอีก

เรื่องนี้เป็นที่ดังและพูดถึงเยอะมากในเมืองฉางอาน ดังจนเมืองข้างๆก็สนใจเรื่องนี้ด้วย

 

“ฉันงงมาก ทำไมนักข่าวสาวนั่นถึงต้องใส่หมวกงี่เง่านั่นบนกลางท้องถนนด้วย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“พี่ชายที่ขี่แมงมุมช่างดูน่าสนใจมาก”

 

เกาเผิงไล่ดูหัวข้อต่างๆในบอร์ดสนทนาพบว่าแทบทุกหัวข้อพูดถึงเรื่องนี้ทั้งหมด

เขารู้สึกไม่โอเคกับเรื่องนี้ ครั้นจะไปเถียงพวกเขาก็ไม่มีทางชนะอีก โชคดีที่เรื่องนี้อยู่แค่ในบอร์ดเท่านั้น คงจะไม่เป็นไรมั้ง

แต่เดี๋ยวก่อนนะ ฟอรั่มนี้มีวิดีโอแนบมาด้วย

เกาเผิงเปิดวิดีโอทันที เป็นภาพที่ถ่ายไว้โดยสถานีฉางอาน ที่มีนักข่าวสาวคอยรายงานบรรยากาศภายนอกของสนามสอบ เนื้อหาก็รราบรื่นดีไม่มีอะไรสุดขัด

จนเกาเผิงที่นั่งบนหลังสตีปี้เดินเข้ามา

ถึงเกาเผิงจะรู้สึกไม่ค่อยดีแต่ก็ต้องชมเชยตากล้องที่ถ่ายเขาออกมาได้มุมที่โอเคมากจนต้องยกนิ้วให้เขา

ท่าทีที่ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ของเขาก็ดูดีมาก จนกระทั่งหลังจากที่เขาเดินออกไป เรื่องถึงเกิดขึ้น แมงกะพรุนสีเขียวได้ลอยไปที่ศีรษะของนักข่าวสาวแสนสวย

ในวิดีโอท่าทีนักข่าวสาวเปลี่ยนไปทันที มือของเธอสั่นเทา เธอไม่รู้ว่าอะไรอยู่บนศีรษะของเธอ เธอมองกล้องและถามว่า

 

“ที่หัวของมีอะไรอยู่งั้นเหรอ”

“นั่นคือมงกุฎ”

 

ด้วยประโยคเหล่านี้ทำให้เกิดไวรัลขึ้นมานับไม่ถ้วน ยกตัวอย่างเช่น

 

“กวนอูที่หัวของฉันมีอะไรอยู่”

“ที่อยู่บนหัวของพี่นั่นคือพลังอำนาจไงล่ะ”

 

สีหน้าของนักข่าวสาวเปลี่ยนไปมาแต่เธอต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ เธอฉีกยิ้มเดินไปหาเกาเผิงเพื่อไปคือหมวกให้กับเขา

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้เธอได้รับฉายา ควีนออฟคราวน์ ราชินีแห่งมงกุฎ

เกาเผิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดไปขนาดนี้ เขารู้สึกเสียใจและอยากจะขอโทษเธอเป็นอย่างมาก เขาปิดคอมทันที เขาไม่อยากจะรับรู้เรื่องพวกนี้อีกแล้ว

…….

 

หลังจากที่ดัมมี่ได้ขึ้นสู่ชนชั้นนักรบแล้ว เกาเผิงก็รู้สึกว่าร่างกายของเขามีอะไรบางอย่างที่เพิ่มมากขึ้น เขาไม่รู้มันคืออะไรแต่มันให้ความรู้สึกที่คล้ายกับ ทักษะลับ เคลื่อนดารา ของเขา

เกาเผิงเลยหลับตาและเรียกพันธะสัญญาเลือดของเขาภายในจิตใต้สำนึกของออกมา

มีเงา 5เงาที่รูปร่างคล้ายกับสัตว์อสูรทั้ง 5ของเขา หลังจากเสร็จสอบบางอย่างเสร็จเขาก็ลืมตาขึ้นมา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก

จากการตรวจสอบมา หากสัตว์อสูรบางตัวสามารถเลเวลอัพและเลื่อนขั้นชนชั้น ในทุกๆครั้งที่เลื่อนชนชั้น ผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรจะได้รับทักษะช่วยชีวิตจากสัตว์อสูรที่เลื่อนชนชั้นมา 1อย่าง

มีข้อความบางอย่างได้ปรากฏขึ้นมาในพันธะสัญญาเลือด

 

“การต่อสู่ระหว่างสัตว์อสูร ผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรควรอยู่ด้านหลังและเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ”

 

ข้อความนี้ ทำให้เกาเผิงรู้แปลกๆขึ้นมา

ทักษะเอาตัวรอดอันใหม่ที่เกาเผิงได้รับคือ “บาเรียธาตุ” ทักษะนี้จะใช้พลังงานจากสัตว์อสูร มาสร้างบาเรียมาป้องกันผู้ฝึกสอนสัตว์อสูร ทักษะนี้ไม่ใช่ของหายาก ผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรหลายคนก็มีทักษะนี้ใช้กัน เกาเผิงจำได้ว่าเขาเคยเห็นทักษะนี้ในการสอบรอบแรกด้วย

แต่ทักษะพวกนี้ถูกผูกติดกับวิญญาณไม่สามารถนำมาสอนใช้คนอื่นรู้ได้ และของพวกนี้ใครหลายๆคนก็เก็บไว้เป็นความลับบอกต่อแค่ในครอบครัวเท่านั้น

ทำให้เขานึกถึงลุงหลิวที่ตอนนั้นเขาดูซีเรียสมากในตอนที่มอบทักษะ เคลื่อนดารา ให้แก่เขา มันจะต้องวุ่นวายแน่ๆหากเรื่องนี้หลุดออกไป

ไม่ว่าใครก็อยากมีสิ่งที่ทำให้สามารถเอาชีวิตรอดในโลกที่มีแต่อันตรายในทุกๆอย่างก้าวแบบนี้

เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงการสอบเข้าวิทยาลัยสัตว์อสูร จึงทำให้เนื้อหาบนโลกออนไลน์แทบทุกคนพูดถึงเรื่องนี้กันแทบทุกคน

มีการต่อสู่ของสัตว์อสูรมากมายที่ถูกบันทึกไว้และอัปโหลดลงอินเทอร์เน็ต เกาเผิงดูวิดีโอพวกนั้นด้วยความเพลิดเพลิน

หลังจากดูวิดีโอได้สักพักเขาก็ปิดคอม

เกาเผิงลูกขึ้นและเรียกสัตว์อสูรของเขาที่นอนพักอยู่ในห้องนั่งเล่น

 

“พวกแกพักมามากพอแล้ว หลังจากกินเสร็จต้องออกกำลังกายกัน ไม่อย่างนั้นจะอ้วนแบบสตีปี้เข้าใจมั้ย?”

 

“เอ๋??” สตีปี้ตกใจ

 

เกาเผิงนำพวกเด็กๆ มาฝึกที่สวนหลังบ้าน จากนั้นเขาก็นั่งตรงม้านั่งเปิดแล็ปท็อปและจิบชา เขาพลางมองพวกสัตว์อสูรที่กำลังฝึกฝนอย่างขะมักเขม้น

 

ต้าซื่อกับสตีปี้ทั้งสองจับคู่กันเพื่อต่อสู้กับดัมมี่ พวกมันต่อสู้กันอย่างดุเดือด

ภาพที่ออกมาดุเดือดมากแต่ความเป็นจริง ดัมมี่ได้ออกมือไว้เพื่อทั้งสองสามารถสู้กับดัมมี่ได้

นอกจากการฝึกทางกายแล้วยังมีการทางจิตใจด้วย

 

ซิลลี่ที่ขี้ขลาดขี้กลัวขนาดนี้ เขาจับมันมัดกับต้นไม้เพื่อไม่หนีไปไหนได้ เกาเผิงไม่ได้ลงโทษอะไรมันนะแค่ฝึกให้มันจิตใจกล้าแกร่งเฉยๆ

 

ในต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากซิลลี่ เฟลมมี่ได้ตีปีกระดมจิกต้นไม้อย่างต่อเนื่อง มันโจมตีอย่างหนักและรุนแรง ที่จงอยปากของันเริ่มมีเลือดไหลออกมา

 

เกาเผิงได้แต่ถอนหายใจ เฟลมมี่ในตอนนี้มีแต่ความโกรธความเกลียดชังเขาไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี

ที่มันฝึกหนักแบบนี้เพื่อในสักวันหนึ่งมันจะไปแก้แค้นให้แม่ของมัน

ด้วยการฝึกที่รุนแรงของเฟลมมี่ทำให้ซิลลี่หลบอยู่หลังต้นไม้และตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์

Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

เมื่อ3ปีก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง เหล่าสรรพสัตว์และต้นไม้นานาพันธุ์ เกิดการกลายพันธุ์อย่างบ้าคลั่ง

ยังไม่รวมถึงสิ่งมีชีวิตจากมิติอื่นบุกเข้ามายังโลกมนุษย์แห่งนี้ แม้พวกมันจะเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายแต่มนุษย์ยังสามารถมาเลี้ยงดู ฝึกสอน

และนำมาต่อกรกับสัตว์อสูรที่อยู่ภายนอกได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่ ยุคสมัย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท