Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ – ตอนที่ 121

ตอนที่ 121

ด้วยสายพันธุ์ของมันไม่ใช่สัตว์อสูรที่ฉลาดมากอยู่แล้ว แต่เจ้าตัวนี้กลับมีสติปัญญามากถึงขนาดนี้ มันค่อนข้างหายากมาก ถึงเกาเผิงอยากจะจับมันแต่ก็คงทำไม่ได้

เพราะสัตว์อสูรพวกนี้ไม่ใช้พวกที่อยู่ในป่าและไม่มีกฏที่ระบุไว้ว่าสามารถนำสัตว์อสูรที่ตัวเองสู้เสร็จกลับบ้านได้

 

ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างกระตือรือร้น มันเคลื่อนที่อย่างระมัดระวัง มันพบว่าสตีปี้ไม่ค่อยจะแข็งแกร่งเท่าไหร่นัก

ดวงตาของตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งเป็นประกาย สิ่งที่มันชอบที่สุดก็คือการที่ได้กลั่นแกล้งคนอื่น

 

แต่อย่างไรก็ตามสตีปี้ยังคงยกขาหน้าขึ้นมาตั้งการ์ด มันมองตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งอย่างระวัง

 

จากนั้นตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งเริ่มทำการขู่สตีปี้

มันขยายเคียวที่แขนของมันฟันฉับไปมา เคลื่อนที่ราวกับเต้นรำ ที่เคียวของมันมียางเหนียวๆสีเหลืองอยู่ ทำให้ดูเหมือนพังพืดขนาดใหญ่

ที่มันทำแบบนี้ก็เพราะว่ามันจะได้ดูตัวใหญ่เพื่อข่มขู่ศัตรูและก็เหยื่อ

 

สตีปี้ยืนมองอย่างงงๆ ‘นี่มันกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย’

 

ตัวสตีปี้นั้นเป็นแมงมุมที่อาศัยอยู่แต่ในเมือง มันจึงไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน สตีปี้คิดว่าสิ่งที่ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งทำนั้นดูน่าเกลียด มันจึงถอยหลังออกมา

 

แต่ทำให้ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งคิดว่าการขู่ของมันได้ผล ก็ยิ่งทำให้มันลำพองใจขึ้นมาอีก จึงดำเนินเต้นแปลกๆข่มขู่สตีปี้ออกไป

มันค่อยๆส่ายตัวซ้ายทีขวาที ขณะที่เต้นไปก็จ้องสตีปี้อย่างดุร้าย ก่อนจะเคลื่อนที่ไปหาสตีปี้

 

‘หรือว่าเจ้าตั๊กแตนมันกำลังจะ…’ สตีปี้คิด

 

ทันใดนั้นสตีปี้ก็ผ่อนคลายและวางการ์ดลง ทำให้ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งประหลาดใจกับปฏิกิริยานี้

 

ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งคิดว่าการขู่ของมันได้ได้ผลแน่ๆ เจ้าแมงมุมตัวนี้ต้องหาทางโจมตีมันแน่ๆ

 

แต่สิ่งที่สตีปี้ทำไม่ใช่อย่างที่ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งคิด มันชูขาหน้าของมันขึ้นและโยกไปมา ทำให้มันดูเหมือนการเต้นที่ดูแปลกๆ

 

‘มันทำบ้าไรเนี่ย’

ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งตกตะลึง ‘มันกำลังเตรียมการโจมตีงั้นเหรอ’

 

ในมุมมองของสตีปี้ที่เห็นตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งกำลังท่าทางแปลกๆนั้น มันนึกถึงการเต้นในพลาซ่า มันคิดว่าตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งอยากจะเต้นรำกับมัน มันจึงเลียนแบบท่าทางของตั๊กแตนและเต้นตาม

 

‘มันต้องเข้าใจอะไรผิดๆแน่ๆ ยิ่งไม่ค่อยจะฉลาดอยู่ด้วย’ เกาเผิงคิด

“สตีปี้ที่มันทำท่าแบบนี้ก็เพราะว่ามันจะขู่แก เพื่อหาโอกาสโจมตีใส่แก ดังนั้นแกต้องเปิดฉากโจมตีมันได้แล้ว” เกาเผิงบอกสตีปี้ผ่านพันธะสัญญา

 

หลังจากที่เกาเผิงได้บอกไป ทำให้สตีปี้หยุดเต้นทันที

 

‘อ้าวตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งไม่ได้อยากเล่นกับฉันเหรอ’ สตีปี้มีท่าทีเสียดาย

 

ในตอนนั้นเอง ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งก็เปิดฉากพุ่งไปหาสตีปี้

มันเคลื่อนที่หาสตีปี้อย่างรวดเร็วมันเคียวของมันฟัดไปที่สตีปี้ เคียวอันหนึ่งฟันไปที่หัวส่วนอีกอันฟาดไปที่หลังของมัน เสียงของการโจมตีดังสนั่นไปทั่ว

*ฉัวะ*

มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น

ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งได้บินกลับไปยังที่ที่มันยืนอยู่ก่อนจะพุ่งมา เคียวทั้งสองข้างของมันได้สั่นเบาๆ

มีรอบถากๆสีขาวที่ตัวของสตีปี้ มันไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งจ้องที่ไปสตีปี้ด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ

 

‘ทำไมมันถึงได้ถึกขนาดนี้’

 

เจ้าตั๊กแตนคิดว่ามันไม่อาจเอาชนะสตีปี้ได้ เกิดมากมันไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ที่มันเอาชนะไม่ได้มาก่อน แต่ที่มันถูกจับมาเพราะหมาป่าจันทราสีเงินนั้นไม่นับเพราะมันถูกรุม

มันกางปีกเพื่อจะปีกอ้อมไปที่หลังมันและจัดการมันซะ

ขณะที่ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งบินขึ้นไป มันได้ถูกใยแมงมุมสีขาวพ่นใส่มันทำให้มันร่วงลงมาพื้นสนามประลอง ใยมันเหนียวมากจนกางปีกไม่ได้เลย มันรู้สึกไม่โอเคอย่างมาก

ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งมองดูสตีปี้อย่างงงวย มันไม่คิดว่าผลการต่อสู้จะออกมาเป็นแบบนี้

 

‘ทำไมฉันถึงได้แพ้มันล่ะ’

 

ส่วนสตีปี้ก็ตกตะลึงมันไม่คิดว่าตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งที่ดูหยิ่งทนงและน่ากลัวจะอ่อนแอแบบนี้ มันเข้าไปดูตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งใกล้ๆ

ด้วยความต่างของระดับปกติกับสมบูรณ์ที่มากเกินไป ทำให้ผลลัพธ์การต่อสู้นี้ไม่ต่างจากที่เกาเผิงคิดเท่าไหร่

ถึงแม้ว่าธาตุดินของสตีปี้จะแพ้ทางธาตุไม้ของตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้ง แต่หากทั้งสองยังเลเวลไม่ถึงที่จะเปลี่ยนเป็นชนชั้นนักรบ เรื่องแพ้ธาตุยังไม่มีผลในชนชั้นขุนนางนี้

 

ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งมองไปสตีปี้ด้วยสายที่สิ้นหวัง ส่วนสตีปี้ก็เดินเข้ามาใกล้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทำให้เจ้าตั๊กแตนรู้สึกว่ามันกำลังถูกทำให้เป็นของเล่น

ตอนนี้ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งลุกขึ้นยืนได้แล้วถึงมันจะกางปีกไม่ได้แต่มันก็จะเดินหน้าสู้ต่อ

 

สตีปี้หลบเคียวที่ฟันลงมาซ้ายขวาอย่างง่ายดายเพราะใยแมงมุมของมันที่ด้วยทำให้การเคลื่อนของตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งช้าลง

ถึงสตีปี้จะโดนฟัน มันก็ไม่เจ็บเลยแค่คันๆเท่านั้น

สตีปี้ได้ใช้ขาหน้าของมันผลักเคียวของตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งออก จากนั้นมันก็ใช้ขาที่แหลมคมแทงตัวของตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้ง1ครั้ง 2ครั้ง และ3ครั้ง

ฉึก

ฉึก

ฉึก

ตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถสู้ต่อได้แล้ว ดวงตาที่เป็นทรงกลมมองไปที่สตีปี้

ที่ตอนนี้ขาของมันเต็มไปด้วยเลือดของตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้ง

 

“การสอบได้สิ้นสุดลงแล้ว” เจ้าหน้าที่คุมสอบได้กล่าวพลางเดินมาหาเกาเผิง เขายื่นบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบคืนให้เกาเผิง

 

เกาเผิงรับบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบพร้อมกับขอบคุณคุณเจ้าหน้าที่

 

“หากคุณไม่มีธุระอะไรที่นี่แล้ว ช่วยออกจากสถานที่สอบด้วยนะครับ” เจ้าหน้าที่กล่าว

 

เกาเผิงพยักหน้า

ในที่สุดการสอบเอนทรานซ์รอบแรกก็สิ้นสุดลงซะที เกาเผิงได้นำสัตว์อสูรทั้งหมดของเขาออกจากสถานที่สอบ

เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาไม่รู้ว่าจะสอบผ่านรอบแรกได้มั้ย เพราะสนาม A มีผู้เข้าสอบแค่ 8คนเอง

หลังจากเดินออกมาได้สักพัก เกาเผิงจึงเปิดกระเป๋าเอาซิลลี่ออกมา

ซิลลี่โกรธเกาเผิงมากที่เขาขังมันไว้ในกระเป๋าเป็นเวลานาน แต่ก่อนที่มันจะโวยวายเกาเผิง เขาได้ตัดชิงพูดก่อนซิลลี่ว่า

 

“เดี๋ยวฉันให้ดื่นน้ำผลไม้นะ”

 

เมื่อซิลลี่ได้ยินอย่างนั้นท่าทีของมันก็เปลี่ยนไปทันที เรื่องแค่นี้มันโกรธเกาเผิงได้ไม่นานหรอก

สาเหตุที่เขาจำเป็นต้องขังซิลลี่ไว้ให้กระเป๋าก็เพราะว่า มันต้องมาอยู่บนศีรษะของเขาอย่างแน่นอน

เขาไม่อยากถูกโดรนที่อยู่บนสนามถ่ายภาพที่เขากำลังใส่หมวกสีเขียวแสบตานี้ออกอากาศไปทั่งประเทศหรอกนะ

Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์

Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

เมื่อ3ปีก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง เหล่าสรรพสัตว์และต้นไม้นานาพันธุ์ เกิดการกลายพันธุ์อย่างบ้าคลั่ง

ยังไม่รวมถึงสิ่งมีชีวิตจากมิติอื่นบุกเข้ามายังโลกมนุษย์แห่งนี้ แม้พวกมันจะเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายแต่มนุษย์ยังสามารถมาเลี้ยงดู ฝึกสอน

และนำมาต่อกรกับสัตว์อสูรที่อยู่ภายนอกได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่ ยุคสมัย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท