ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 2555
“อย่าดูถูกนายน้อยยอร์ก หัวหน้าสาขาหลงเหมินเลย แคร์รี่” เอลเมอร์ อีแวนส์กล่าว
เขาชะงักเล็กน้อยหลังจากที่เห็นฮาร์วีย์ ยอร์ก และเลสลี่ คลาร์ก และจำใบหน้าของพวกเขาได้
แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาเจอกัน แต่แน่นอนว่าเขาได้อ่านเอกสารของฮาร์วีย์มาแล้วเนื่องจากเขาอยู่ที่นั่นเพื่อสนับสนุนไฮเดอร์ บาวเออร์ เขาจึงรู้ว่าปรมาจารย์ที่แท้จริงมาถึงแล้ว
เอลเมอร์ยิ้มอย่างอบอุ่นขณะที่มองฮาร์วีย์
“ชายผู้นี้คือหัวหน้าสาขายอร์กในตำนาน ว่ากันว่าเขาเป็นเจ้าชายแห่งเซาท์ไลท์หรืออะไรทำนองนั้น เขาน่านับถือทีเดียวเลยนะ!
“คนอย่างเขาไม่ใช่คนที่คนจากกองบังคับคดีแห่งหลงเหมินอย่างพวกคุณจะท้าทายได้!”
ดูเหมือนว่าเอลเมอร์กำลังตำหนิแคร์รี่ แต่ก็ไม่ใช่ แถมน้ำเสียงของเขายังฟังดูแปลก ๆ เล็กน้อย
ถึงแม้ว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนของอาร์วีย์ แต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะเคารพฮาร์วีย์แต่อย่างใด
สำหรับเขาแล้ว ตำแหน่งเจ้าชายแห่งเซาท์ไลท์หรือหัวหน้าหลงเหมินสาขามอร์ดูนั้นไม่ได้น่าประทับใจเลย
ในสถานที่อย่างฮ่องกง แม้แต่คนที่ทรงพลังก็ยังต้องคุกเข่าต่อหน้าประชาชน
หลังจากที่ได้ยินว่าคนตรงหน้าเป็นเป้าหมาย สายตาของไฮเดอร์ก็จับจ้องไปที่ฮาร์วีย์
เขาได้ยินข้อกล่าวหาทั้งน้ำตาของแคร์รี่ เห็นภาพ และได้อ่านเอกสารด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกว่าฮาร์วีย์ดูธรรมดาเกินไปหลังจากที่ได้เห็นเขาด้วยตัวเอง
ทั้งเครื่องแต่งกายและออร่าของเขาดูจืดชืด
เมื่อเทียบกับวินซ์ ยอร์ก มันต่างกันราวกับฟ้าและดิน
ไฮเดอร์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือชายผู้ซึ่งฆ่าทั้งตระกูลทาเคอิต่อหน้าแคร์รี่เพียงลำพัง
ไฮเดอร์พูดอย่างใจเย็นโดยไม่คิดว่า “รีบขอโทษหัวหน้าสาขายอร์กซะแคร์รี่! ถ้าเขาตัดสินใจจะปลิดชีวิตเธอก่อนการเจรจา ชายชราอย่างฉันก็คงจะไม่สามารถปกป้องเธอได้!
“เธอพูดถูก หัวหน้าสาขายอร์กเป็นคนที่กล้าหาญมาโดยตลอด! ไม่แปลกเลยที่เขาจะฆ่าต่อหน้าเธอ!”
เอลเมอร์จ้องฮาร์วีย์ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ
“ฉันต้องขอโทษนายด้วยนะหัวหน้าสาขายอร์ก
“ฉันขอโทษจริง ๆ ได้โปรดอย่าฆ่าฉันต่อหน้าคนพวกนี้เลย
“ฉันกลัวความตายเหลือเกิน”
คำพูดของเธอเต็มไปด้วยน้ำเสียงประชดประชัน เห็นได้ชัดว่าในนั้นไม่ได้มีความจริงใจเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของแคร์รี่ สาวกกองบังคับคดีของหลงเหมินคนอื่น ๆ ก็เริ่มจ้องมาที่ฮาร์วีย์
‘เขาอวดเก่งทั้ง ๆ ที่สารรูปแบบนี้เหรอ?’
‘จะไร้ยางอายไปถึงไหน?’
“ถ้าอยากจะขอโทษจริง ๆ ก็คุกเข่าซะ”
ฮาร์วีย์เดินไปข้างหน้าอย่างเฉยเมย
“เธอก็รู้ว่าฉันทำงานยังไง ฉันจะไม่เถียงกับเด็กที่ไม่รู้ประสาอะไรอย่างเธอเพื่อผลประโยชน์ของตัวเธอเอง
“คราวหน้าก่อนจะขอโทษใครก็อย่าลืมคุกเข่าก่อนซะล่ะ”
จากนั้นฮาร์วีย์ก็ละสายตาไปที่ไฮเดอร์และเอลเมอร์
“สำหรับคนหยาบคายที่เอาแต่พูดเรื่องไร้สาระ ถ้าไม่อยากตายก็คุกเข่าซะ เข้าใจใลช่ไหม?” เขาพูดอย่างใจเย็น
ฮาร์วีย์ไม่แยแสในขณะที่สื่อถึงความหมายที่แตกต่างออกไปเบื้องหลังคำพูดของเขา
“คุกเข่าและขอโทษงั้นเหรอ?!”
เอลเมอร์หัวเราะด้วยความโกรธ
“ใครให้สิทธิ์แกพูดแบบนั้นฮาร์วีย์?!”
ไฮเดอร์แสดงสีหน้าเย็นชา
“แกพูดว่าอะไรนะ? แน่จริงลองพูดอีกครั้งสิ!” ไฮเดอร์พูดอย่างโหดเหี้ยม
“เรื่องนั้นปล่อยไว้ก่อนเถอะผู้อาวุโสบาวเออร์ เรามีเรื่องสำคัญต้องคุยกัน”
เอลเมอร์หยุดไฮเดอร์ทันทีที่เห็นเขาโกรธจัด
“จัดการเรื่องสำคัญก่อน เสร็จธุระแล้วเราค่อยจัดการเขา”