ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 2572
“เรากำลังจะเดินทางไปยังงานประมูลที่จัดขึ้นที่โรงแรม ทรี ซีซั่นเป็นจุดหมายต่อไป
“เลิกมาทำตัวน่ารังเกียจที่นี่เสียที ไสหัวไปได้แล้ว!”
เมอร์ฟี่ค่อนข้างหัวเสียและเหลือบมองเรือนร่างที่สวยงามของเลสลี่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหันหลังกลับและกำลังจะจากไปพร้อมกับชารอน
ช่วยไม่ได้ การเป็นชนชั้นสูงของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินและการได้รับโอกาสในการสืบสันตติวงศ์คือความฝันอันสูงสุดของเขา
แม้ว่าจุดที่เขาอยู่จะห่างไกลจากสิทธิ์ในการสืบสันตติวงศ์ แต่เขาก็ยังมีความสุขมาก
ฮาร์วีย์หรี่ตามองไปยังเมอร์ฟีอย่างคุมตัวเองไม่ได้ เขาเอ่ยปากขู่อย่างเย็นชา “นี่ คุณอีแวนส์ คุณไม่รู้หรอว่ากลิ่นปากตัวเองเหม็นขนาดไหน?”
ใบหน้าของเมอร์ฟีบิดเบี้ยวด้วยความโกรธที่ฮาร์วีย์ดูแคลน
ถึงอย่างนั้นเลสลี่ก็ไม่ต้องการให้ฮาร์วีย์เอาตัวเข้าไปอยู่ในปัญหา เธอดึงฮาร์วีย์ไว้ทันทีและรีบแนะนำเขาว่า “นายน้อยยอร์ก ช่างมันเถอะ ไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจผู้ชายอย่างเขาหรอก”
“สุดท้ายแล้วเขานั่นแหละที่เราต้องเป็นคนมาคุกเข่าอ้อนวอนฉัน”
เมื่อเห็นท่าทีที่แน่วแน่ของเลสลี่ ฮาร์วีย์ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกหลังจากนั้น สุดท้ายแล้วนี่เป็นปัญหาส่วนตัวของเธอ ถ้าเขาเข้าไปยุ่งยากมากเกินไปคงไม่ดีนะ
ทันใดนั้นเอง การเอ่ยชื่อฮาร์วีย์ทำให้เมอร์ฟีตะลึงเล็กน้อย เขาโพล่งออกมาโดยไม่ทันคิดว่า “เดี๋ยวก่อน นายคือแมงดาไร้มารยาทที่ทำตัวกักขฬะในฮ่องกงที่คิดไปเองว่าตระกูลดอนจะสนับสนุนนายใช่หรือเปล่า? นายคือฮาร์วีย์ใช่ไหม?”
“แมงดา?” ฮาร์วีย์มองเมอร์ฟีด้วยท่าทางเฉยเมย รู้สึกไม่พอใจ เขาไม่แน่ใจว่าทำไมเมอร์ฟีถึงพูดกับเขาแบบนี้
“ก็นายเป็นแมงดาไม่ใช่เหรอ?”
เมอร์ฟีส่งสายตาเหยียดหยามฮาร์วีย์
“เพียงเพราะตระกูลดอนหนุนหลังนายอยู่ นายถึงได้กล้าทำร้ายแขกกิตติมศักดิ์จากประเทศหมู่เกาะและอดีตผู้ว่าการฮ่องกง!”
“นายไม่ได้มีอำนาจเป็นของตัวเองเลยแม้แต่น้อย แต่นายก็ยังกล้าอวดเบ่งตัวเองไปทั่วอยากจะเป็นคนใหญ่คนโต!”
“นายน่ะมันเป็นพวกไม่มีสมองแน่ ๆ!”
“คิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญจริง ๆ หรือไง?”
ฮาร์วีย์ไม่แยแสต่อคำเสียดแทงของเมอร์ฟี “ทำไม? นายไม่พอใจที่ฉันตบหน้าผู้อาวุโสของนายเหรอ?”
เมอร์ฟีคำรามอย่างเย็นชา “ฉันไม่เคยพูดว่านายทำให้ฉันไม่พอใจ ไม่ว่านายจะสมควรได้รับมันหรือไม่ก็ตาม!
“แต่นายเป็นแขกกิตติมศักดิ์ของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน ปู่ของฉันจะยอมให้นายตบแก้มขวาของเขาหลังจากตกแก้มซ้ายแล้วอย่างแน่นอน!
“แต่นายมันก็เป็นแค่ประชาชนคนธรรมดา! ใช้ความสามารถของตัวเองในการกำจัดคนอื่นและก่อกวนสุภาพบุรุษจากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน แม้ว่าเขาจะไม่ตอบโต้ก็ตาม!
“นายมันเดนมนุษย์!
“ถ้าพวกตะวันตกรู้พฤติกรรมลักษณะนี้ของนาย เพราะเขาก็จะเกลียดนายทั้งนั้นแหละ!
“ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะฆ่าตัวตายทันที!
“ช่างอัปยศจริง ๆ!”
เมอร์ฟีคิดว่าตัวเองเป็นคนชอบธรรมและวางตัวให้บริสุทธิ์กว่าคนอื่น ๆ “ฉันจะบอกนายให้เอาบุญ! เหตุผลที่ประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่ตามโลกไม่ทันก็เพราะมีคนแบบนายมากเกินไปไงล่ะ!
“นายไม่มีความรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนและไม่มีมารยาท นายเป็นพวกไร้อารยะ!
“บางครั้ง ฉันล่ะรู้สึกละอายใจจริง ๆ ที่รู้ว่าตัวเองมีสายเลือดของประเทศ H อันเกรียงไกรอยู่ในตัว!”
ฮาร์วีย์ส่งรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตาให้เมอร์ฟี “ถ้านายรู้สึกละอายใจขนาดนั้น ทำไมไม่ฆ่าตัวตายให้รู้แล้วรู้รอดไปล่ะ?”
“ชาติหน้าเกิดมาจะได้ไปเกิดเป็นคนของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน นั่นน่าจะดีสำหรับนายมากกว่านะ?”
“แก…!”
เมอร์ฟี่โกรธมากกับคำพูดเย้ยหยันของฮาร์วีย์ เขาแทบจะกระอักเลือดออกมาด้วยซ้ำ
“นายไม่รู้อะไรเลย! ไม่รู้หรือว่าหากฆ่าตัวตาย พระเจ้าจะลงโทษให้ต้องตกนรก?
“การต้องเสวนากับคนตามโลกไม่ทันอย่างนายนี่ช่างสิ้นเปลืองพลังงานของฉันซะจริง ๆ!
“ฉันหวังว่านายจะเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและค้นหาดูว่าโลกภายนอกนั้นกว้างใหญ่เพียงใด อย่ามัวแต่ยึดติดกับอารยธรรมแคบ ๆ ของประเทศ H ที่ไม่รู้จักโลกของความจริงเลยสักนิด!”
เมอร์ฟี่มีท่าทีเย่อหยิ่งและวางตัวราวกับว่าเขากำลังสอนบทเรียนอันมีค่าให้แก่ฮาร์วีย์
สำหรับเขาแล้ว โลกตะวันตกคือประภาคารสว่างไสวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอารยธรรม
เขาเลือกที่จะเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงที่ว่าแท้จริงแล้วเขาก็เป็นแค่แมงดาที่เกาะติดท่านหญิงเพิร์ลเพื่อหวังจะใช้อำนาจที่เธอมี
สำหรับเขาแล้ว การเลียแข้งเลียขาเธอถือเป็นความสามารถอันล้ำค่าที่เขาภาคภูมิใจ