ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 260
แมนดี้รู้สึกสับสนเล็กน้อยที่เห็นเลียม สโตน ให้เกียรติเธอ เธอคิดไม่ออกว่าทำไมเลียมถึงปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพอย่างนี้ อาจเป็นเพราะฮาร์วีย์ใช่ไหม?
แต่เลียมไม่ได้ปฏิบัติต่อฮาร์วีย์ด้วยอะไรเป็นพิเศษ เธอคิดว่าเธอแค่คิดมากไป
เลียมต้องทำแบบนี้เพราะตระกูลซิมเมอร์
ในขณะที่แมนดี้ยังคงครุ่นคิดถึงสถานการณ์ตรงหน้า ฮาร์วีย์ก็พูดอย่างเย็นชาว่า “มีคนทำร้ายภรรยาของฉัน และยังคิดที่จะสร้างความหายนะให้กับภรรยาและเพื่อนของเธอ คน ๆ นี้ยังต้องการให้ฉันคุกเข่าและคลานออกไปจากที่นี่…”
เสียงอื้ออึงดังออกมาจากฝูงชน
ฮาร์วีย์พูดแบบเรียบนิ่งและไม่ไยดี เลียมกำลังจะคุกเข่า แต่ไม่กล้าทำเช่นนั้นเมื่อเขาเห็นคำเตือนผ่านแววตาของฮาร์วีย์ เขาจำคำสั่งของไทสันได้ ฮาร์วีย์เป็นคนทำตัวเงียบ ๆ ไม่เปิดเผยตัวตน ถ้าเขากล้าเปิดเผยตัวตนของฮาร์วีย์นั่นเท่ากับว่าเขากำลังรนหาที่ตาย
หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ เลียมก็พูดเสียงเบาว่า “มิสเตอร์ยอร์ก มิสซิมเมอร์ ไม่ต้องกังวล ครั้งนี้เป็นความผิดของผมเอง ผมจะอธิบาย…”
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนหลังจากพูดและจ้องมองเคนและเจมี่ เขาพูดอย่างเยือกเย็น “แกทั้งสองคลานออกไปจากที่นี่ ถ้าแกกล้าที่จะยืนขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน พวกแกตาย…”
เคนและเจมี่สั่นสะท้านกับคำพูดของเขา พวกเขาไม่กล้าที่จะขยับตัว
เลียมเตะพวกเขาทั้งสองจนแนบไปกับพื้นและพูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ?”
แววตาของเคนเย็นยะเยือก เขาไม่พูดอะไรสักคำ ได้แต่ก้มหน้าลง ค่อย ๆ คลานเข่าออกมา เขารู้ว่าคืนนี้เขาเหมือนตายทั้งเป็น การกระทำนี้เพื่อให้เขาเกิดความละอาย
ตรงกันข้ามเจมี่กลับจ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความขุ่นเคือง และพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแค้นว่า “ฮาร์วีย์ แมนดี้ ฉันจะไม่ปล่อยพวกแกไปแน่! ฉันจะแก้แค้นพวกแกทั้งสองคนสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้!”
เขาไม่กล้าที่จะแก้แค้นกับเลียม แต่เขามีความมั่นใจที่จะทำเช่นนั้นกับฮาร์วีย์
ฮาร์วีย์หัวเราะ “ตระกูลบรู๊คน่าทึ่งมาก”
เหอะ!
เลียมทำหน้าไม่สบอารมรณ์และเดินไปเตะเจมี่จากทางด้านหลัง ความโกรธปรากฎขึ้นทั่วใบหน้าของเขา “คำพูดของแกทำให้ตระกูลกระเด็นออกไปจากเมืองนิอัมมี่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
ฮาร์วีย์ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรสักคำ แต่เลียมก็เห็นได้ชัดว่าตระกูลบรู๊คถึงคราวเคราะห์แล้วในวันนี้ ฮาร์วีย์ไม่จำเป็นต้องยกนิ้วให้ เขาแค่เพียงต้องรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นกับไทสัน และเขาก็จะเตรียมการที่จำเป็นเพื่อกำจัดตระกูลบรู๊คออกไป
การทำลายตระกูลชนชั้นสองแบบนี้ สำหรับนายน้อยฮาร์วีย์นั้นง่ายเพียงแค่ดีดนิ้ว
ในตอนนี้เลียมเห็นความแน่วแน่ในดวงตาของฮาร์วีย์ ชายคนนี้ทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจ แต่เขาก็ดูน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน
“สำหรับเธอ ผู้หญิงหน้าไม่อาย…” เลียมลากนีอาโดยกระชากผมของเธอ “ฉันจะสอนบทเรียนให้เธอเอง”
ฮาร์วีย์ปิดปากเงียบขณะดูฉากตรงหน้า เขาไม่ตองใส่ใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับนีอา
“ฮาร์วีย์ ฉันอยากจะไปโรงพยาบาล เราต้องไปตรวจร่างกายด้วย…” จิตใจของแมนดี้อ่อนแรงลง เธอฉลาดและรู้ว่าอะไรจะเกิดอะไรขึ้นในอีกไม่ช้า แต่เธอไม่ต้องการเฝ้าดูต่อไป
ดวงตาที่เย็นยะเยือกของฮาร์วีย์เปลี่ยนเป็นอบอุ่นและพูดว่า “ได้สิ ไปหาหมอที่มีความเชี่ยวชาญที่ดีที่สุด ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย”
จากนั้นฮาร์วีย์ก็พยุงแมนดี้ออกจากห้องจัดงานเลี้ยงออกไป เขาไม่หันกลับไปมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้านหลังของเขา
เซซิเลียและแองเจิลมองหน้ากันและรีบเดินตามเขาไป พวกหล่อนรู้สึกปลอดภัยเพียงแค่ตามหลังฮาร์วีย์
หลังจากมองฮาร์วีย์ออกไปแล้ว เลียมก็กดหัวของนีอาลง
สายตาของเลียมกวาดตามองคนอื่น ๆ ในบริเวณนั้นและพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้ามีใครกล้าพูดอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่วันนี้ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนสิ่งที่ตามมาที่พวกคุณจะต้องแบกรับ!”
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบงัน พวกเขาไม่กล้าที่จะต่อต้านคนอย่างเลียม
ทุกคนไม่คิดว่าตระกูลซิมเมอร์จะก้าวหน้าไปถึงระดับที่น่าประทับใจขนาดที่นายใหญ่แก๊งอันธพาลจะให้ความเคารพต่อพวกเขา
เครื่องสำอางบนใบหน้าของนีอาเลอะเทอะ มีความขุ่นเคืองฝังลึกอยู่ในแววตาของเธอ แต่เธอไม่กล้าที่จะเปิดเผยมัน
***
ในขณะเดียวกันฮาร์วีย์ก็เร่งความเร็วรถของเขาและในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลนิอัมมี่
คนที่ปฏิบัติหน้าที่ในห้องฉุกเฉินในวันนี้คือ เอลล่า เกรฟส์ ซึ่งตอนนี้เป็นรองประธานของโรงพยาบาล
เอลล่าค่อนข้างเหม่อลอยและดูเงอะงะตลอดในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เธอเสียใจที่ไม่ได้ขอเบอร์ของฮาร์วีย์ในวันนั้น
ในตอนแรกเธอมีแค่ความรู้ทางวิชาการอยู่ในหัวเท่านั้น แต่ตอนนี้ฮาร์วีย์ได้ครอบครองทุกส่วนในหัวใจของเธอโดยไม่รู้ตัว
เมื่อฮาร์วีย์พาแมนดี้เข้าห้องฉุกเฉิน เอลล่าก็มาถึง เธอตกตะลึงเล็กน้อยและไม่สามารถตอบสนองอะไรออกไปได้
“ด็อกเตอร์เกรฟส์…” ฮาร์วีย์รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและโบกมือไปมาตรงหน้าเธอ
แมนดี้เริ่มสงสัย ฮาร์วีย์รู้จักหมอหญิงที่ดูเหมือนเพิ่งมีรักแรกพบได้อย่างไร? เธอไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงผู้หญิงคนนี้มาก่อน
