Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ – ตอนที่ 122

ตอนที่ 122

ขณะที่เกาเผิงกำลังเดินออกมา เขาได้เห็นว่ามีคนกำลังต่อแถวยาวเพื่อรอสอบอีกเป็นจำนวนมาก

พวกเขาชะเง้อรอเข้าสอบอย่างใจจดใจจ่อ

 

เกาเผิงได้ขึ้นไปนั่งบนหลังของสตีปี้ ขนของมายาวมากมันทิ่มก้นของเขาทุกครั้งที่ขึ้นไปนั่ง

 

“ซิลลี่มานี่สิ” เกาเผิงเรียกซิลลี่ที่นั่งอยู่บนไหล่ของเขา

 

เกาเผิงคว้าซิลลี่และหยิบเบาะรองนั่งจากตัวของมัน เขานำมันมาวางใต้ก้นของเขา

 

‘อืม ค่อยยังชั่วหน่อย’ เกาเผิงวางเบาะให้นั่งสบายมากขึ้น ระหว่างเดินทางกลับ เขาฮัมเพลงอย่างมีความสุข เพราะการสอบผ่านไปอย่างราบรื่นมากจึงทำให้เขาอารมณ์ดี

 

เกาเผิงเดินทางมาถึงคฤหาสน์ของเขาที่อยู่แถบชานเมืองเรียบร้อยแล้ว ที่นี่มีบ้านของลุงหลิวสร้างอยู่ในฝั่งตรงข้าม ตอนนี้บ้านของลุงสร้างเสร็จแล้ว ด้วยการใช้การก่อสร้างแบบญี่ปุ่นที่ประกอบตัวบ้านแบบตัวต่อ หากเตรียมวัสดุไว้ไว้พร้อม การก่อสร้างจึงใช้เวลาสร้างไม่นาน บ้านจึงเสร็จเรียบร้อยพร้อมอยู่อาศัย

ที่ด้านหน้าบ้านลุงหลิวมีสนามหญ้าปูอย่างสวยงามและมีแมวอ้วนตัวใหญ่นอนอาบแดดอยู่

เกาเผิงจำได้ว่าแมวชื่อซอฟตี้ที่นิสัยไม่ซอฟเลย มันเป็นแมวที่อารมณ์แปรปรวนขี้โมโหเล็กน้อย

 

ซอฟตี้เห็นเกาเผิงที่เดินกลับมากที่คฤหาสน์ มันก็ทำท่าไม่สนใจ อ้าปากหาวและนอนเกลือกกลิ้งไปตามพื้น รับแสงอาทิตย์

 

เกาเผิงก็หันไปมองที่สนามหญ้าของตัวเองกลับพบบางอย่างที่ผิดปกติ หญ้าแพรกที่เคยปูไว้อย่างสวยงาม ตอนนี้มีสภาพเละแทะ ดินถูกขุดออกมาเป็นหลุมเป็นบ่อไปทั่ว

ส่วนประตูก็ได้รับความเสียหาย มันถูกทุบทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

เกาเผิงรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีจึงรีบวิ่งเข้าไปที่บ้านทันที่ และพบว่าเฟอร์นิเจอร์ที่เขาเพิ่งซื้อมาทั้งหมด ถูกพังทำลายแทบทั้งหมด โซฟาในห้องนั่งเล่นถูกเคลื่อนย้ายเอามากองรวมกันและถูกเจาะรูด้วย

สภาพบ้านที่เละแบบนี้ ทำให้เกาเผิงแทบจะเป็นลม เขาเป็นคนที่มัธยัสถ์อดออมยิ่งกว่าใคร ไม่ต้องสงสัยว่าสภาพบ้านที่เละแบบนี้ ทำให้เกาเผิงเจ็บปวดมากถึงเพียงไหน

กล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุกไปมา สีหน้าของเกาเผิงมีความซับซ้อนยากจะหยั่งถึง

 

‘ฝูงฮัสกี้บุกมาทำลายบ้านของฉันรึไง’

 

มีเสียงของถูกขูดที่กลางคฤหาสน์ของเขา

เกาเผิงจ้องไปทางต้นเสียงทันที

 

‘คนที่กล้าทำให้บ้านฉันเละแบบนี้ ยังอยู่ในที่นี่อย่างงั้นเหรอ จะชะล่าใจกันเกินไปแล้ว’

 

เกาเผิงโบกมือส่งสัญญาณให้ต้าซื่อกับสตีปี้บุกเข้าไป

ส่วนดัมมี่อยู่ใกล้ๆเกาเผิงเพื่อคอยปกป้องเขาไว้

และซิลลี่ลอยลงจอดที่ศีรษะของเกาเผิง

 

“ต้องพูดอีกกี่ครั้ง การสวมหมวกให้ฉันไม่ได้ทำให้ฉันได้รับบัพแข็งแกร่งขึ้นนะ” เกาเผิงถอดซิลลี่ออกจากศีรษะของเขา ทำให้ซิลลี่ส่งเสียงไม่พอใจ บิดตัวดีดดิ้นไปมา

 

ต้าซื่อกับสตีปี้ค่อยเดินออกไปสำรวจข้างหน้า

จู่ๆสตีปี้ก็ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด มันเอาขาของมันแตะๆส่วนที่เจ็บ

ต้าซื่อรีบเข้ามาตรงบริเวณที่สตีปี้โดนโจมที่ทันที มีคำรามที่ดุร้ายดังมาจากที่โซฟา เกิดการกอดรัดฟัดเหวี่ยงตรงแถวนั้น

 

เกาเผิงเห็นขนนกปลิวว่อนไปในอากาศ

 

หลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง ต้าซื่อได้ส่งเสียงเรียกเกาเผิงทันที

 

“เค้ากินมันได้มั้ย”

 

‘มันเป็นสัตว์อสูรชนิดไหนกัน’ เกาเผิงเดินเข้าไปดูมัน

ที่โซฟามีสัตว์อสูรสีขาวถูกจับเอาไว้อยู่ มันมีปีกคู่หนึ่งและขนนกปลิวว่อนไปทั่ว

‘นกงั้นเหรอ?’

 

เกาเผิงคิดว่าที่บ้านเละขนาดนี้อาจเป็นเพราะสุนัข ลิง หรือแม้แต่เสือซะอีก เขาไม่คิดว่าสาเหตุที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะนก

 

“แกว่ก แกว่ก”

 

เจ้านกตัวพยายามดิ้นออกจากพันธนาการของต้าซื่อ

 

“เออ เสี่ยวเผิง” จู่ๆก็มีคนบางคนได้โผล่พรวดออกมที่หน้าต่าง มันเกาเผิงสะดุ้งทันที คนที่เรียกเกาเผิงคือลุงหลิว

 

“สัตว์อสูรตัวนี้เป็นของขวัญของคุณตาของเธอน่ะ คุณตาของเธอพยายามอย่างมากที่จะได้ตัวนี้มาเลยนะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วลุงขอตัวก่อนนะไปล่ะ” ลุงหลิวกล่าวอย่างยิ้มๆ จากนั้นเขาก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

 

‘โอ้ สัตว์อสูรตัวนี้เป็นของขวัญของคุณตาสินะ’ เกาเผิงคิด

 

เกาเผิงมองที่นกสีขาวที่มันยังคงดิ้นและส่งเสียงร้อง

 

“ดัมมี่หยิบมันขึ้นมา” เกาเผิงสั่งดัมมี่

 

ดัมมี่ทำตามคำสั่งทันที มันเดินไปหาเจ้านกสีขาวจากนั้นก็ใช้มือซ้ายคว้าตัวมันขึ้นมา

มันเป็นนกกระเรียนสีขาวราวกับหิมะ มีขนสีแดงเลือดอยู่ตรงที่หน้าและหน้าผากของมัน ส่วนที่แปลกที่สุดก็คือมันมีขาแค่ขาเดียว

นกกระเรียนลักษณะแบบนี้ค่อนข้างหายากมาก

เนื่องจากนกกระเรียนมันยังดิ้นไม่หยุด ดัมมี่เปลี่ยนจากจับตัวเป็นจับคอของมันแทน มันกระพืบตีมือของดัมมี่และตาเริ่มเหลือกขึ้นแล้ว

 

เกาเผิงได้เห็นแบบนี้ก็สั่งดัมมี่ว่า “ดัมมี่คลายมือลงหน่อย เดี๋ยวมันขาดใจตาย”

 

ดัมมี่ได้คลายมือลง

นกกระเรียนได้สำลักพร้อมสูดหายใจเข้าเต็มปอด “แค่ก แค่ก แค่ก”

‘ดัมมี่เกือบจะฆ่ามันตายแล้ว’ เกาเผิงถึงกับพูดไม่ออก

 

“ต้าซื่อวันนี้เราจะกินนกย่างกันนะ” เกาเผิงพูดกับต้าซื่อ

 

ดวงตาของต้าซื่อเปล่งประการขึ้นมาทัน มันพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

แต่ดูเหมือนเจ้านกกระเรียนจะเข้าใจสิ่งที่เกาเผิงพูดมันดิ้นรน เอาขาข้างเดียวเตะไปที่ดัมมี่ เพื่ออาชีวิตรอด

 

‘มันยังแสดงอากัปกิริยาแบบนี้อีก เห็นดีเขาต้องอบรมมันขนานหนักหน่อยซะแล้ว’เกาเผิงหัวเราะในใจ ที่เขาพูดเมื่อกี้ก็แค่พูดเล่นเท่านั้น แต่จริงๆแล้วเขาไม่คิดจะทำอย่างนั้นซะหน่อย

เกาเผิงได้เห็นข้อมมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเมื่อตอนที่ดัมมี่ได้จับมันไว้

ข้อมูลของมันค่อนข้างน่าทึ่งมาก แต่ที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือคุณตาของเขาไปหาเจ้านกกระเรียนตัวนี้มาจากไหน

เกาเผิงอดไม่ได้ที่จะสงสัย

 

[ชื่อสัตว์อสูร] นกกระเรียนชาดเปลวอัคคี (วัยเด็ก)

[เลเวล] 6

[ระดับ] มหากาพย์ (หากเลเวลอัพเป็นชนชั้นนักรบ ระดับจะลดลงเป็นสมบูรณ์ หากเลเวลอัพเป็นชนชั้นราชวงศ์ ระดับจะลดลงเป็นสูง)

[คุณสมบัติ] ธาตุไฟ

[ลักษณะพิเศษ] (ยังไม่ถูกปลุกขึ้น)

[ความต้องการในการยกระดับ] คริสตัลเทวาเพลิงกัลป์, ผลไม้ลึกลับ อย่างน้อย 3ผล, และ เยื่อไขกระดูกอัคนี 1อัน

 

เมื่อเกาเผิงได้เห็นรายการของที่ต้องใช้ยกระดับ เขาต้องถอนหายใจด้วยความจนใจทันที เขาไม่รู้ว่าของพวกนี้มันคืออะไรและจะหามันจากที่ไหน

Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์

Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

เมื่อ3ปีก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง เหล่าสรรพสัตว์และต้นไม้นานาพันธุ์ เกิดการกลายพันธุ์อย่างบ้าคลั่ง

ยังไม่รวมถึงสิ่งมีชีวิตจากมิติอื่นบุกเข้ามายังโลกมนุษย์แห่งนี้ แม้พวกมันจะเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายแต่มนุษย์ยังสามารถมาเลี้ยงดู ฝึกสอน

และนำมาต่อกรกับสัตว์อสูรที่อยู่ภายนอกได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่ ยุคสมัย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท