ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 279
สีหน้าของเชอร์ลีย์เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที เธอไม่ใช่เด็กแล้วเธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฮาร์วีย์ไม่มาช่วยเธอ เธอไม่รู้จะตอบกลับไปว่าอย่างไร เธอทำได้แค่เม้มริมฝีปาก
“ฮาร์วีย์ ฉันเตือนแกแล้ว ถ้าแกกล้าแตะต้องฉันอีก ฉันจะจับแกเข้าคุกแน่นอน!” ในที่สุดเจอร์รี่ก็สามารถลุกขึ้นยืนได้
ลูกเขยที่ไร้ค่านี่ที่ทุกคนดูถูก ถูกสั่งให้ล้างเท้าให้แม่ยาย ทำความสะอาดห้องน้ำในบ้าน กล้าดีอย่างไรมาแตะต้องตัวเขา เขามีหลายวิธีที่จะทำให้ฮาร์วีย์ร้องขอชีวิตของเขา!
ในที่สุด…
เพียะ!
ฮาร์วีย์ตบเจอร์รี่ไปที่ใบหน้าอย่างแรง จนเกิดรอยฝามือแดงที่แก้มของเขา
“แก…กล้าตบฉันเหรอ… ” เจอร์รี่โกรธมาก
เชอร์ลีย์ไม่อยากจะเชื่อ เขาโดนดูถูกและถูกพวกซิมเมอร์รังแกมาตลอด แต่ที่เธอมองเขาตอนนี้ เขาดูไม่ใช่คนแบบนั้นทั้งดูเป็นลูกผู้ชายมากในสายตาของเธอ …
เจอร์รี่ที่ยังคงสั่นสะท้านจากการที่ฮาร์วีย์ตบเขา เขาพยายามสงบสติอารมณ์และถ่มน้ำลายลงบนพื้น เขาจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยความเกลียดชัง ตอนนี้เขากำลังคลำหาโทรศัพท์ “แกกำลังหาเรื่องใส่ตัวไอ้ขยะไร้ค่า!”
หลังจากนั้นเขาก็กดเบอร์ในโทรศัพท์ของเขาอย่างโกรธเกรี้ยวและโทรออก
ฮาร์วีย์ไม่ได้เป็นทุกข์การกระทำของเจอร์รี่ แต่เขาปีนขึ้นไปบนรถและช่วยเชอร์ลีย์ออกมา จากนั้นเขาก็จ้องมองเจอร์รี่ “ เรียกหาคนช่วยเหรอ? แน่นอนฉันจะรอที่นี่ และดูว่ารุ่นพี่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้บ้าง!”
เชอร์ลีย์มองใบหน้าของเธออย่างกังวลและกระซิบกับฮาร์วีย์ว่า “ฮาร์วีย์ ฉันคิดว่าเราควรจะจากที่นี่ เจอร์รี่ได้รู้จักคนใหญ่คนโตมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาได้รับเงินมากมายมหาศาลขนาดนั้น มีข่าวลือว่าคน ๆ นั้น ชื่นชมเจอร์รี่มาก เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไปทำให้เขาโกรธ!”
หลังจากพูดทั้งหมดนั้น เชอร์ลีย์ก็ยิ่งรู้สึกแย่มากขึ้น ตัวเธอเองเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดาที่ไม่ได้มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่สามารถขัดใจคนอย่างเจอร์รี่ได้
และดูเหมือนว่าฮาร์วีย์จะอยู่ในสภาพที่แย่กว่าเธอ เขาต้องตกที่นั่งลำบากเพราะเธอ พวกเขาจะต้องทำอย่างไร?
“ไม่เป็นไร เราเป็นเพื่อนกัน แล้วฉันจะไม่ช่วยเธอได้ยังไง? เรื่องพวกนี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น” ฮาร์วีย์นั่งอยู่ที่นั่นด้วยท่าทีสบาย ๆ เช่นเคย
เรื่องเล็ก ๆ งั้นเหรอ?
เชอร์ลีย์ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะกับคำพูดนั้นดี
ครั้งสุดท้ายในงานเลี้ยงรุ่นของพวกเขา ทุกคนบอกว่าฮาร์วีย์ไม่ได้รับการยอมรับในตระกูลซิมมเมอร์ เขายังได้รับโทรศัพท์จากแม่ยายด้วยความโกรธเพียงเพราะเขากลับบ้านดึก .
ด้วยสถานการณ์ที่น่าสมเพชของเขา เขาจะแก้ปัญหานี่ได้อย่างไร? คงเป็นไปไม่ได้ที่พวกซิมเมอร์จะให้ความช่วยเหลือเขา พวกเขาอาจใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการไล่เขาออกจากครอบครัว
เชอร์ลีย์จึงมองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความรู้สึกสงสาร
ดูเหมือนคืนนี้เขาจะช่วยตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงความปลอดภัยของเธอเลย
ขณะที่เธอกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ หยดหยาดน้ำตาไหลอาบแก้มของเธอ
ใครบางคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของสายของเจอร์รี่รับสายในที่สุด ความกังวลทั้งหมดของเขาก็หายไปทันทีและแทนที่ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างที่สุดและโค้งคำนับเล็กน้อยแม้ว่าจะไม่มีใครเห็นเขาก็ตาม “มิสเตอร์บรู๊ค ผมโดนเศษขยะทำร้าย ตอนนี้ผมอยู่ที่ชานเมืองใกล้กับสุสาน คุณช่วยส่งคนมาที่นี่ได้ไหม? ใช่ ใช่ และผู้หญิงที่คุณเพ้อฝันหาก็อยู่ที่นี่กับเรา…”
เมื่อวางสายเจอร์รี่ก็หันหน้าไปมองฮาร์วีย์ และพูดว่า “แกกำลังเจอปัญหาใหญ่ และแกรู้หรือไม่ว่ามิสเตอร์บรู๊คคือใคร? เขาคือ เคน บรู๊ค เป็นทายาทคนเดียวของตระกูลบรู๊ค!”
“ฉันพนันได้เลยว่าลูกเขยที่น่าสงสารอย่างนายคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามีอิทธิพลมากแค่ไหน!”
ในขณะเดียวกันเขาก็มองไปที่เชอร์ลีย์ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ “และเธอ ผู้หญิงสำส่อน โชคดีของเธอที่ดันทำให้มิสเตอร์บรู๊คถูกใจ เธอกล้าปฏิเสธเขา เธอลาออกจากบริษัทของเขา!”
“เธอรู้ไหมว่าก่อนหน้านี้เธอพลาดอะไรไป? แต่ไม่เป็นไรคืนนี้เมื่อมิสเตอร์บรู๊คใช้เวลาเพลิดเพลินกับเนื้อหวาน ๆ ชิ้นนี้แล้ว ฉันก็คงจะได้ลองชิมเธอสักสองสามคำเช่นกัน! หลังจากนั้นเราจะมาดูกันว่าเธออร่อยแค่ไหน!”
เมื่อคิดตามคำพูดของเขา เชอร์ลีย์ก็มีสีหน้าซีดราวกับผ้าปูที่นอน เธอคิดว่าเจอร์รี่แค่ต้องการเธอเพื่อตัวเขาเอง แต่ใครจะไปรู้วาาเขาเป็นลูกน้องของเคนด้วยเช่นกัน
เคนล่อลวงพนักงานหญิงไปแล้วสองสามคนโดยใช้ตำแหน่งเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลบรู๊ค เธอหลุดพ้นจากที่นั่นมาแล้ว ใครจะคิดว่าพวกเขาจะได้เจอกันอีก
“เจอร์รี่ นายมันบ้าที่สุด! นายเสียสติไปแล้วเหรอ!” ในที่สุดเชอร์ลีย์ก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ด่าฉันสิ ด่าเลย หลังจากนี้เธอจะเหนื่อยเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้อีก!”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” เจอร์รี่ส่งเสียงหัวเราะอย่างชั่วร้าย