Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ – ตอนที่ 135

ตอนที่ 135

“ต้าซื่อทำไมแกถึงบุกเข้าไปโดยไม่รอคำสั่งจากฉัน” เกาเผิงคว้าตัวต้าซื่อมาถามมันพร้อมกับลูบหนวดบนศีรษะของมัน

 

ต้าซื่อมองเกาเผิงด้วยสีหน้าที่งุนงงพร้อมกับส่งออกมา

 

“ชี่ ซี่ ชี่ ชี่?”

 

เกาเผิงตบศีรษะของต้าซื่อเบา

 

“อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง ทำไมแกถึงรีบบุกเข้าไปในถ้ำก่อนที่ฉันจะสั่งล่ะ”

 

“กะ ก็เค้าไม่รู้” ต้าซื่อแสดงสีหน้าที่ดูน่าสงสาร

 

“อย่ามาทำตัวแอ๊บแบ๊ว ดูตัวของแกด้วย มันไม่มีประโยชน์หรอก”

 

ต้าซื่อส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ มันได้ม้วนลูกเป็นลูกบอลสีม่วงเพื่อประท้วงเจ้านายของมัน

หลังจากนั้นเกาเผิงได้สอบปากคำมันต่อไป จนในที่สุดต้าซื่อก็ยอมบอกความจริงว่า

 

“เพราะอยากจะลิ้มลองรสชาติของหมีอย่างงั้นเหรอ”

 

เกาเผิงตกตะลึงมาก เขาไม่คิดว่าเจ้าตะขาบของเขาอยากจะกินหมีมากถึงขนาดนั้น

 

“และแกเอาชนะเจ้าหมีได้มั้ย” เกาเผิงถาม

 

จากการที่เขาสังเกตบาดแผลบนร่างของหมีสายลมสีนิลทั้งหมด มีเพียงบาดแผลแห่งเดียวที่เป็นสาเหตุที่ทำให้มันเสียชีวิต นั่นการถูกกระแทกที่ศีรษะและคนที่ทำก็เป็นดัมมี่ด้วย

ถึงแม้ต้าซื่อจะเป็นชนชั้นนักรบแล้วแต่รูปแบบการโจมตีของมันคือ ช็อตไฟฟ้าใส่ศัตรูให้เป็นอัมพาและฉีดพิษเข้าสู่ร่างกายศัตรู แต่ศัตรูที่มันสู้เมื่อกี้คือหมีสายลมสีนิลที่มีผิวหนังที่หนามากจนไม่สามารถกัดทะลุผิวหนังของมันได้ ทำให้โอกาสชนะของต้าซื่อเป็นไปได้ต่ำมาก

 

“ได้สิ เค้าทำได้ มันเป็นแค่เจ้าเศษเดนเท่านั้นเอง” ต้าซื่อได้ยืดตัวพร้อมกับส่ายหนวดของมันไปมา

 

เกาเผิงรู้สึกว่านิสัยของต้าซื่อเริ่มดูคล้ายกับตั๊กแตนตำข้าวใบไม้แห้งตัวนั้นเลย

หากเทียบกับอายุของมนุษย์ ต้าซื่อในตอนนี้อายุเท่ากับเด็กอายุ 11หรือ12ปีเลย จึงไม่แปลกที่มันจะเป็นวัยรุ่นใจร้อน กล้าชนซะทุกอย่าง ซึ่งนิสัยนี้เป็นเรื่องที่ดีเขาก็ไม่ติดใจอะไร

 

“ครั้งต่อไปหากแกจะพุ่งไปโจมตีสัตว์อสูรตัวอื่น แกต้องขออนุญาตฉันก่อนเข้าใจมั้ย” เกาเผิงกล่าวด้วยเสียงเข้ม

 

ต้าซื่อได้แต่พยักหน้าอย่างจนใจ

 

“เพื่อเป็นการลงโทษ วันนี้แกจะถูกงดมื้อเย็น” เกาเผิงกล่าวกับต้าซื่ออย่างเย็นชา

 

หนวดของต้าซื่อได้ตั้งตรงทันที

 

“และเนื่องจากฉันที่เป็นผู้ฝึกสอนสัตว์อสูร สั่งสอนแกได้ไม่ดี ฉันก็ต้องลงโทษตัวเองด้วยเช่นกัน โดยการงดอาหารในมื้อเย็นนี้ด้วย”

 

ต้าซื่อถึงกับตกตะลึงมันไม่คิดว่าเจ้านายจะต้องถูกงดอาหารด้วย

ตอนแรกเกาเผิงกะจะใช้อุ้งตีนหมีทำอาหาร แต่เนื่องจากเกาเผิงได้ตัดสินใจไปกะทันหันเพื่อสั่งสอนต้าซื่อ ดังนั้นอุ้งตีนหมีจึงเป็นลาภปากของสตีปี้ไป

สตีปี้ได้เคี้ยวอาหารเสียงดังอย่างเอร็ดอร่อย ใบหน้าของเกาเผิงได้มืดลงในทันที

 

‘มันไม่รู้หรือไงว่าพวกเราทั้งสองคนกำลังอดอาหารอยู่ที่นี่’

 

“ออกไปกินข้างนอก” เกาเผิงตะโกนสั่ง

 

สตีปี้ยกหัวขึ้นมามองเกาเผิงอย่างงงๆ จากนั้นก้มลงไปกินต่อ

 

“ดัมมี้โยนสตีปี้ออกไปซะ”

 

เมื่อสตีปี้ได้ยินอย่างนั้น มันรีบวิ่งออกถ้ำทันทีโดยไม่รีรอ

โดยปกติหลังจากที่กินข้างเสร็จต้าซื่อจะพากันออกไปเล่นกับสตีปี้ข้างนอกคฤหาสน์ แต่วันนี้ไม่ใช่ ตอนนี้มันขดตัวอยู่บนพื้นเงียบๆ มันมองสตีปี้ด้วยแววตาที่เศร้าสอย จากนั้นมันก็อยู่กับตัวเองให้เวลาทบทวนเรื่องต่างๆมากขึ้น

 

แสงทิวาได้มาเยือน ได้สาดส่องลงมาทะลุผ่านเถาวัลย์ที่บดบังปากถ้ำเข้ามาเข้าใน ที่ทุกคนได้นอนหลับท่ามกลางกองไฟที่มอดลงแล้ว

จู่ๆก็มีเสียงประกาศได้ดังขึ้นมา

 

“ผู้เข้าสอบเสี่ยวนูหยาน ได้ออกจากสอบแล้ว ผู้เข้าสอบเสี่ยวนูหยาน ได้ออกจากสอบแล้ว” เสียงประกาศนี้ดังขึ้นไปทั่วทั้งป่า

 

‘มีคนออกจากการสอบแล้วสินะ’

 

เกาเผิงลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับลูบท้องที่ว่างของเขา

……

 

บนจอมีพิธีการและแขกรับเชิญ ทั้งสองกำลังดำเนินรายการกันอยู่

“ท่านผู้ชมครับทางเรามีอุปกรณืติดตามผู้เข้าสอบของเรา ทำให้พวกเราสามารถมองหาตำแหน่งที่ตั้งของพวกเขาได้ครับ”

เรื่องที่พิธีกรได้พูดขึ้นมาทำผู้ชมต่างประหลาดใจ

แขกรับเชิญของเขาเป็นชายหนู่มวัย 20ต้นๆ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เขาดูอ่อนเยาว์และเปล่งประกายด้วยรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นบนของใบหน้าของเขา

 

“เฮ้นั่น ดวนหวู่นี่ ‘มังกรในหมู่เมฆา’ดวนหวู่” ผู้ชมบางคนถึงกับประหลาดใจที่เห็นเขาบนทีวี “ฉันไม่คิดว่าเขาจะออกทีวีแบบนี้”

 

‘มังกรในหมู่เมฆา’ดวนหวู่ เป็นหนึ่งในผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งจากสถาบันได่ดู่

สถาบันได่ดู่เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงมากที่นั่นมีแต่ผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรหัวกะทิแบบทุกคน

ดวนหวู่เป็นลูกของข้าราชการระดับสูงของสหพันธ์รัฐบาลโลก สัตว์อสูรของเขาคือจิ้งหรีด ที่เขาได้เลี้ยงมันไว้ก่อนที่จะเกิดมหาภัยพิบัติ

 

“ตอนนี้ผู้เข้าสอบที่มีคะแนนที่มีสูงส่วนใหญ่อยู่ตรงกลางของป่า และผู้ที่มีคะแนนนำอยู่ในตอนนี้คือ จุนเหมย!!”

 

ภาพได้ตัดจากห้องส่งเปลี่ยนภาพในป่า ที่ฉายให้เห็นอนาคอนด้ายักษ์สีดำ ที่เลื้อยไปรอบๆต้นไม้เพื่อสังหารสัตว์อสูรทีละตัวอย่างโหดเหี้ยม

 

“คาดไม่ถึงเลยว่าผู้ที่มีคะแนนนำในตอนนี้จะเป็นผู้หญิง” พิธีกรกล่าวอย่างประหลาดใจเล็กน้อย “คุณคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ครับคุณดวนหวู่”

 

พิธีกรตั้งใจยิงคำถามให้ดวนหวู่ตอบ เรื่องของจุนเหมยที่อยู่อันดับหนึ่งในตอนนี้ ถึงเธอจะมีใบหน้าที่เย็นชาแต่เธอก็เป็นหญิงสาวที่งดงาม สิ่งนี้จะช่วยรายการดูน่าสนใจทำให้ผู้ชมดูรายการอย่างต่อเนื่อง

 

“ครับ ผมคิดว่าอนาคอนด้าทมิฬตัวนี้ดูไม่เลวเลยนะครับ เกล็ดของแข็งแกร่งและเปล่งประกาย จากที่ผมได้สังเกตดูพบว่าเจ้าอนาคอนด้าตัวนี้ต้องผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชนมาแน่ๆ ดูสิครับมันสามารถสังหารเหยื่อได้ในพริบตาเดียว”

 

พิธีกรถึงกับพูดไม่ออก นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เขาคาดหวังไว้ เขาอยากจะได้ดวนหวู่พูดเกี่ยวกับจุนเหมยไม่ใช้สัตว์อสูรของเธอ

ผู้ชมหลายคนอดที่จะหัวเราะไม่ได้ ‘มังกรในหมู่เมฆา’ดวนหวู่เป็นที่รู้จักกันในเรื่องความโสดของเขา เนื่องด้วยความเป็นคนที่อ่านสถานกาณ์ไม่ออกของเขาแะชื่อเสียงที่สูงส่งของเขาทำให้เขาไม่สามารถหาคนรักที่เหมาะสมได้เลย

 

“สมกับเป็นการวิเคราะห์จากมืออาชีพเลยครับ” พิธีการกล่าวรอยยิ้ม

 

“ขอบคุณครับ“ ดวนหวู่กล่าวอย่างสงบ

 

“และถัดไปเราจะมาดูผู้เข้าสอบที่มีคะแนนรั้งท้าย…”

 

จุดสีเขียวๆบนหน้าจอได้แสดงถึงตำแหน่งของผู้เข้าสอบ

และมีตำแหน่งที่กระพริบอยู่บริเวณรอบนอกของภูเขาดายัง

 

“ดูเหมือนผู้เข้าสอบคนนี้ค่อนข้างจะระมัดระวังตัวเป็นพิเศษเลยนะครับ บางทีเขาอาจจะเตรียมการบางอย่างอยู่ก็เป็นได้” พิธีกรกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

ภาพที่ตัดมาฉายภาพวัยรุ่นคนหนึ่งที่กำลังย่างปลาพร้อมมองท้องฟ้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ด้านข้างเขามีตะขาบ แมงมุมและโครงกระดูกทั้งนอนจ้องท้องฟ้าอย่างเงียบๆ

ฉากนี้ทำให้บรรยากาศในห้องส่งเต็มไปด้วยความอึดอัดทันที

ต้าซื่อกำลังจะเปลี่ยนท่านอน ทำให้มันสะดุดกลิ้งออกมา เผยให้เห็นท้องสีขาวของมัน มันพยายามพลิกตัวทันที มันรู้สึกอายเวลามีใครมามองท้องสีขาวของมัน

ส่วนผู้ชมก็ได้หัวเราะกับฉากข้างหน้าด้วนเสียงที่ดังทันที

 

“อะไรกันเตรียมการอย่างงั้นหรือ เตรียมแบบไหนกัน เขากำลังย่างปลาอยู่เห็นๆ”

Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์

Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

เมื่อ3ปีก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง เหล่าสรรพสัตว์และต้นไม้นานาพันธุ์ เกิดการกลายพันธุ์อย่างบ้าคลั่ง

ยังไม่รวมถึงสิ่งมีชีวิตจากมิติอื่นบุกเข้ามายังโลกมนุษย์แห่งนี้ แม้พวกมันจะเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายแต่มนุษย์ยังสามารถมาเลี้ยงดู ฝึกสอน

และนำมาต่อกรกับสัตว์อสูรที่อยู่ภายนอกได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่ ยุคสมัย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท