ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 399
เอลล่าเดินตามฮาร์วีย์ขณะที่พวกเขาเดินไปตามท้องถนน เธอรู้สึกราวกับว่าหัวของเธอหมุนอยู่ตลอดเวลา
เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้มันมากเกินไป เธอไม่สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างดี
เธอไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงถ้าต้องให้ฮาร์วีย์เดินเคียงข้างเธอ
‘ผู้ชายคนนี้เป็นคนยังไงกันแน่? เขาทำได้เกือบทุกอย่าง!’
ฮาร์วีย์ไม่สนใจอะไรมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาทานข้าวเย็นกับเอลล่าแล้วรีบกลับบ้าน
***
ฮาร์วีย์เพิ่งกลับถึงบ้านขณะที่สวนกับแมนดี้ และแม่ของเธอที่รีบร้อนวิ่งออกไป สีหน้าของลิเลียนดูโกรธ ๆ หลังจากเห็นฮาร์วีย์ เธอดุฮาร์วีย์ทันที “แกไปไหนมาดึกดื่นขนาดนี้?!”
ฮาร์วีย์ตอบว่า “ผมไปทานอาหารเย็นกับเพื่อนมาครับ”
“กิน กิน กิน สิ่งที่แกรู้อย่างเดียวคือเรื่องกิน! แกรู้อะไรไหมว่าพ่อของแกกลับมาแล้ว!” ลิเลียนตะโกนดุด่าเขาอีกครั้ง
“เขาอยู่ที่คฤหาสน์ซิมเมอร์แล้ว! เร็วเข้า อย่าปล่อยให้เขารอนาน!”
ฮาร์วีย์ชะงัก พวกเขากำลังพูดถึงพ่อของเขางั้นเหรอ?
เขาได้สติกลับมาอีกครั้ง ลิเลียนคงหมายถึงพ่อของแมนดี้ ไซม่อน ซิมเมอร์ พ่อตาของเขาเอง
***
ณ คฤหาสน์ซิมเมอร์ ชายวัยกลางคนกำลังนั่งอยู่ทางด้านขวาของผู้อาวุโสซิมเมอร์ด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา
ฌอนนั่งอยู่หน้าชายคนนั้น ท่าทางของเขาดูไม่ชอบใจนัก
ผู้ชายคนนั้นเป็นพ่อของแมนดี้จริง ๆ ไซม่อน ซิมเมอร์ ลูกชายคนที่สามในตระกูล
ไซม่อนเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดของทายาทรุ่นที่สองของตระกูล แม้กระทั่งอยู่ในจุดที่ถูกวางตัวให้เป็นซีอีโอคนต่อไป
ผู้อาวุโสซิมเมอร์เคยชอบไซม่อนมาก แต่หลังจากที่เขามีลูกสาวสองคน ทำให้ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่สนใจเขา
เพราะเขาไม่สามารถมีลูกชายได้ นั่นหมายความว่าเขาไม่มีใครที่จะสืบทอดธุรกิจของตระกูลต่อจากเขา
ไม่ว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์จะชื่นชมหรือสนใจเขามากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถปปล่อยให้ไซม่อนเป็นทายาทคนต่อไปของเขาได้
นั่นคือเหตุผลที่เขาถูกส่งไปอยู่ที่บัควู้ดในเซาท์ไลท์เพื่อพัฒนาธุรกิจของเขาเมื่อสิบปีที่แล้ว
แต่บัควู้ดเป็นดั่งป่าที่รกทึบมืดมิด คนธรรมดาไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่รอดที่นั่นได้
ไซม่อนไปที่บัควู้ดแต่สามารถอยู่รอดกลับมาได้ มันจึงส่งผลกระทบต่อสถานะของแมนดี้ในตระกูลให้แย่ลงไปอีก
แต่ในวันนี้ ไซม่อนเดินทางกลับมาจากบัควู้ดแล้วยังประสบความสำเร็จกลับมา นั่นจะไม่ทำให้ตระกูลซิมเมอร์จะเกิดความสับสนได้อย่างไร?
ไซม่อนขับรถเบนท์ลีย์กลับบ้าน มันทำให้ทายาทรุ่นใหม่ของซิมเมอร์ทุกคนตกอยู่อาการตะลึง นี่ถ้าไม่ใช่เพราะไซม่อน ผู้อาวุโสซิมเมอร์คงไม่เรียกทุกคนมากลางดึกแบบนี้
“ไซม่อน ผ่านไปไม่กี่ปี ฉันเกือบลืมไปแล้วว่าหน้าตาของเธอเป็นยังไง”
ผู้อาวุโสซิมเมอร์หรี่ตามองไซม่อน และเบนสายตาจ้องมองไปที่กุญแจรถ
รถที่ดีที่สุดของตระกูลซิมเมอร์มีในตอนนี้คือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส เท่านั้น ซึ่งยังต่างระดับชั้นอยู่มากเมื่อเทียบกับรถเบนท์ลีย์
ไซม่อนยิ้มขณะควงกุญแจรถเล่นไปมา
“คุณพ่อครับ ผมก็ทำสำเร็จ ผมสามารถแสดงให้คุณพ่อได้เห็นหลังจากที่ทำงานหนักในบัควู้ดมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา!”
“ผมไม่ได้ขี้เกียจและนิ่งเฉย ผมมีโครงการพร้อมกับทรัพยากรที่ดีมากในมือ!”
“เราไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวหลบหน้าในนิอัมมี่อีกต่อไป!”
“ผมคิดว่าเราไปเริ่มธุรกิจของเราที่บัควู้ดได้!”
“เราอาจยังไม่มีโอกาสได้เป็นตระกูลเฟิร์สคลาส แต่ผมคิดว่าด้วยคุณสมบัติของตระกูลของเรา การเป็นตระกูลชั้นสองในบัควู้ดนั้นง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก!”
ไซม่อนพูดพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน สายตานั้นทำให้ทุกคนตกตะลึง
‘บัควู้ด!’
‘มันเป็นมหานครที่ใหญ่ เป็นเมืองระดับเฟิร์สคลาส!’
‘การเป็นตระกูลชั้นสองในบัควู้ดจะประสบความสำเร็จมากกว่าการเป็นตระกูลเฟิร์สคลาสในนิอัมมี่!’
นิอัมมี่เป็นเพียงเมืองระดับมณฑลและทรัพยากรมีจำกัด
แม้ว่าพวกเขาจะได้เป็นตระกูลเฟิร์สคลาส พวกเขาก็ไม่สามารถเทียบกับตระกูลฟิร์สคลาสอื่น ๆ ได้
แต่ทุกอย่างจะแตกต่างไปในเมืองหลวงของมณฑล ไม่ใช่แค่ตระกูลชั้นสอง แม้แต่ตระกูลชั้นสามจากบัควู้ดก็ยังทรงอำนาจในนิอัมมี่