เฮอหมิงตกตะลึง เขาได้คิดว่าเกาเผิงจะตอบตกลงได้ง่ายอย่างนี้
‘แต่มันกะทันหันเกินไปรึเปล่า’
หลังจากนั้นเกาเผิงก็ขับออกจากที่นี่และมุ่งหน้าไปสำนักงานนกร็อคทะยานฟ้าที่อยู่ใจกลางเมือง เขาเดินเข้าไปและพบว่าที่นี่ค่อนข้างวุ่นวายและเต็มไปด้วยลูกค้า
“บอสคะนี่คือผู้เพาะพันธ์สัตว์อสูรขั้นกลางคนใหม่ของสำนักงานเราค่ะ เธอมีชื่อว่า หลิวมิงฮุยค่ะ” ซุนซวนซวนแนะนำผู้หญิงที่ใส่ชุดสูทสีเทาอายุประมาณ 30ปีให้เกาเผิงรู้จัก
“อย่างน้อยสำนักงานแห่งนี้จะไม่ปิดตัวลงหลังจากที่ฉันย้ายออกไปสินะ” เกาเผิงกล่าว
ถึงแม้ที่เขาจะทำงานที่นี่เพราะลุงหลิวชักชวนแกมบังคับเขา แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็รู้สึกใจหายที่ต้องออกจากงานนี้และทิ้งที่นี่ไป
จู่ๆเข้าก็อยากรู้ว่าผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรั้นกลางคนอื่นเขายกระดับกันยังไง แต่หากถามไปคงจะเป็นการเสียมารยาทมาก เพราะทุกคนต่างก็มีความลับทางการค้าด้วยกันทั้งนั้น
“ผมคงมาทำงานที่นี่ไม่แล้วล่ะ เพราะในวันมะรืนนี้ผมจะย้ายไปอยู่ที่เมืองหยูโจวแล้ว” เกาเผิงกล่าว
“ห๊ะ อะไรกัน บอสจะไปแล้ว” ซุนซวนซวนตกใจมากที่รู้ว่าเกาเผิงกำลังจะไป เกาเผิงเป็นคนใจกว้างมาก เขาไม่ว่าที่เธอแอบเอาขนมมากินในตอนนั้น
หลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากสำนักงานของเขา หลังจากที่ได้บอกลาพวกพนักงานเสร็จแล้ว
เกาเผิงกำลังครุ่นเรื่องเฮอหมิง ในตอนแรกเขาต้องการวางยาสัตว์อสูรของเขาในวันพรุ่งนี้ สำหรับคนที่สามารถมองเห็นจุดอ่อนได้อย่างทะลุปรุโปร่งแบบเขาเรื่องแค่นี้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก และที่สำคัญมันจะไม่มีร่องรอยใดๆสาวถึงตัวเข้าได้
แต่คิดไปคิดมา เขาถามตัวเองว่าจำเป็นต้องทำรุนแรงขนาดนี้เลยเหรอ
ถึงแม้เฮอหมิงจะทำแต่เรื่องแย่ๆ แต่เขาก็ไม่ได้เป็นคนชั่วขนาดนั้น และอีกอย่างพวกลูกค้าทุกคนที่ได้รับใบเรียกเก็บเงินจากเขา พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกรักเขาทุกคน หลังจากที่ได้เห็นจำนวนเงินขนาดนั้น
การที่วางยาสัตว์อสูรของคนอื่นด้วยเรื่องเล็กน้อยๆแค่นี้ การกระทำไม่ต่างจากเด็กน้อยที่ไม่รู้จักโตเลย
…….
เฮอหมิงได้กลับไปที่บ้านของเขาที่อยู่ในชานเมือง ที่บ้านนี้เขาอาศัยอยู่ร่วมกับสัตว์อสูรและครอบครัวของเขา
“อากาศมันร้อนมาก หยั่งอยู่ในนรก” เฮอหมิงพูดพร้อมถอนหายใจ เขาถอดชุดต่อสู้สีขาวออกและใส่ลงในเครื่องซักผ้าพลางเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของเขา
จากนั้นเขาเดินไปที่ห้องของเขาเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดต่อสู้สีขาวสะอาดตา เสื้อผ้าทั้งหมดของเขาเป็นสีขาว เขารู้สึกว่าสีขาวเป็นสีแสดงถึงพลังอำนาจ ทำให้เขารู้สึกมั่นใจมากขึ้น
ขณะที่เดินออกจากห้องเฮอหมิงก็ตกใจที่ได้เห็นเสือดาวสีดำนอนอยู่กลางบ้านของเขา ดวงตาสีเขียวของมันจ้องมองมาที่เขา
เฮอหมิงหัวเราะแห้งๆออกมา
“แหม่ๆ อยากล้อเล่นกับฉันแบบนี้สิ”
เขามองไปรอบๆ กับไม่มีวี่แววของคนอื่นๆ เลย เขารู้สึกกระวนกระวายใจมาก
เสือดำที่มองเฮอหมิงอย่างเงียบๆ ได้ลุกขึ้นมาเดินมาหาเขา ย่างก้าวของมันเงียบมากไร้เสียงใดๆเลย
เฮอหมิงถอยหลังช้าๆ พร้อมกับส่งเสียงจากสัตว์อสูรของเขาผ่านพันธะสัญญา
นี่ไม่ใช่สัตว์อสูรป่าอย่างแน่นอน เขามั่นใจ ดูได้จากขนที่ได้รับการดูแลอย่างดี ขนของสัตว์อสูรป่าไม่มีทางเงางามได้ขนาดนี้หรอก
“โฮกกก”
กำแพงที่อยู่ใกล้ๆเฮอหมิงได้ระเบิดจากการพุ่งชนของกอริลลาสีดำ
กอริลลาง้างหมัดชกไปที่เสือดำ ส่วนเสือดำอย่างเงียบๆโดยไม่คิดที่จะหลบไปไหน
เฮอหมิงที่เห็นอย่างนั้นก็ดีใจทันที ‘มันไม่รอดแน่ๆ’
กอริลลาของเขาแข็งแกร่งมาก หมัดของมันสามรถชกเสาหินหนาให้พังได้อย่างสบายๆ
เมื่อกำปั้นของกอริลลาได้สัมผัสไปร่างของเสือดำ กลับพบว่าร่างนั้นเป็นเพียงแต่เงาเท่านั้น ทำให้หมัดของกอริลลาพุ่งที่พื้นเข้าเต็มๆ
*ตูม*
เฮอหมิงรู้สึกไดถึงแรงสั่นสะเทือนจากหมัดของกอริลลา ทำให้เขาเกือบจะล้มลง
ขณะที่กอริลลาปีศาจทมิฬกำลังตกตะลึงอยู่ เสือดำก็ได้ปรากฏตัวที่หลังของมันพร้อมกางกรงเล็บข่วนไปที่หลังของกอริลลาปีศาจทมิฬ
กรงเล็บที่แหลมคมได้ตัดผ่านผิวหนังของกอริลลาปีศาจทมิฬ
ได้อย่างง่ายดาย ทำให้เลือดพุ่งกระฉูดออกมา
จากนั้นเสือดำกระโดดหลบหมัดที่สวนกลับมา มันว่องไวมากดั่งนักฆ่ายามราตรี
*ปัง*
ควันสีขาวลอยออกมาจากปลายกระบอกปืนของเฮอหมิง กลิ่นดินปืนลอยไปทั่วในอากาศ
แต่กระสุนกลับทำอะไรเสือดำไม่ได้ กระสุนได้โดนตัวมันเต็มกลับกระเด้งออกไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ม๊าวว” เสือดำได้ส่งเสียงขู่ออกมา ทำให้เฮอหมิงรู้สึกหวาดกลัว
‘แมวอย่างงั้นหรอ’ เฮอหมิงตะลึงอยู่ชั่วครู่ เขาคิดว่ามันเป็นเสือดำซะอีก แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน ตอนนี้เขาได้เบี่ยงเบนความสนใจของมันได้แล้ว
ทันทีที่แมวดำได้หันไปมองเฮอหมิง กอริลลาปีศาจทมิฬได้อาศัยจังหวะนี้โจมตีแมวดำในทันที
แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนในตอนแรก มันชกผ่านร่างเงาของแมวดำอีกครั้ง
‘กลายร่างเป็นเงาอย่างงั้นเหรอ’
ทักษะนี้เป็นทักษะที่หายากมาก น้อยมากที่สัตว์อสูธาตุเงาจะมีทักษะนี้
ใบหน้าของเฮอหมิงเริ่มซีดขึ้นเรื่อยๆ สัตว์อสูรของเขาไม่สามารถรับมือแมวดำตัวนี้ได้ การจะรับมือสัตว์อสูรธาตุเงานี้จำเป็นต้องใช้ธาตุแสงหรือการโจมตีประเภทธาตุใส่มัน การชกดื้อๆแบบนี้ทำอะไรมันไม่ได้หรอก
จู่ๆ แมวดำก็เดินความมืดและร่างของมันก็หายลับไปกับตา
เฮอหมิงได้รู้สึกถึงจิตสังหารจากด้านหลังของเขา เขาได้พุ่งตัวหลบแต่มันก็ได้สายไปแล้ว
“บาเรียพลังงาน”
มีม่านพลังสีเหลืองอ่อนๆ แผ่ออกมรอบตัวเขา ในขณะเดียวกันก็มีกรงเล็บที่ฟาดจากด้านหลังของเขา
*ตูม*
เฮอหมิงถูกซัดไปกระแทกกับเก้าอี้
บาเรียพลังงานที่ปกคลุมร่างของเขาอยู่ รอยร้าวของมันได้พื้นฟูกลับสู่ปกติ
แต่ก่อนที่บาเรียจะฟื้นตัวเสร็จ ก็มีการโจมตีอีกระลอกมาเรื่อยๆ
*ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว*
*เพล้ง*
บาเรียพลังงานก็แตกในที่สุด เลือดของเขาสาดกระเซ็น เขากุมบาดแผลที่ขาของเขาพร้อมคลานหนีไปตามพื้น
จากนั้นแมวดำก็ได้หายตัวไป
ผ่านไปสักพักสถานการณ์ก็กลับมาเป็นปกติ ดูเหมือนว่าแมวดำจะไปแล้ว
ใบหน้าของเฮอหมิงชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขารู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ต้องการจะเอาชีวิตเขา
เฮอรู้สึกได้ว่าเอ็นร้อยหงายของเขาถูกตัดขาด เขาจึงรีบโทรเรียกรถพยาบาลทันที อาจจะมีโอกาสต่อมันกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
เขาไม่รู้ว่าใครมาทำร้ายเขา เขาไม่เคยได้ยินว่าที่เมืองฉางอาน มีผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรระดับสูงที่มีสัตว์อสูรแมวธาตุเงาครอบครองอยู่ในเมืองนี้