ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 417
“แน่นอนว่าฉันไม่ใช่พวกเขา” ฮาร์วีย์หัวเราะ “แต่คนที่อยู่เบื้องหลังคุณปล่อยให้ขยะอย่างคุณมาทดสอบฉัน เขาไม่ดูถูกฉันไปหน่อยเหรอ?”
“รู้เหรอว่าใครอยู่เบื้องหลังฉัน?” เจนเซ่น คาร์ลสัน อ้าปากค้าง
“ในบรรดาผู้มีชื่อเสียงทั้งสี่คนแห่งตระกูลยอร์ก คนที่หัวแข็งที่สุดคือควินตัน แถมยังเป็นคนที่กลัวฉันมากที่สุด ถ้าเดาไม่ผิด เขาคือคนที่ส่งคุณมา” ฮาร์วีย์ตอบออกไป
เจนเซ่นเกิดอาการสั่น มือข้างขวาของเขาสั่นเกินควบคุมได้ คนตรงหน้านี้เป็นใครกันแน่? ทำไมเขาถึงสามารถเดาทุกอย่างได้ถูกต้อง?
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงความอดทนอดกลั้นในตัวฮาร์วีย์ได้
แม้แต่ควินตันก็ไม่เคยมีความอดทนได้แบบนี้
ดูเหมือนว่าเขาจะยั่วยุคนที่ไม่ควรเข้าเสียแล้ว
คนที่แม้แต่ควินตันคิดที่จะทดสอบอยู่ห่าง ๆ แต่ไม่ยอมเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง
เหงื่อเย็น ๆ ออกทั่วทั้งหลังของเขาเปียกชุ่มในทันที
เจนเซ่นรับรู้ได้ตามสัญชาตญาณ
ถ้าเขาทำให้ควินตันขุ่นเคือง ตระกูลคาร์ลสันคงจะล้มละลายทันที ถ้าเขาทำให้คนผู้นี้ขุ่นเคือง ชะตากรรมของตระกูลคาร์ลสันก็ยังไม่สามารถจินตนาการถึงมันได้
“ฉันรู้ว่าตัวตนของแกไม่ธรรมดา และแกอาจมีความเกี่ยวข้องกับพวกตระกูลยอร์ก น่าเสียดาย…” เจนเซ่นสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ฉันมาถึงจุดนี้แล้ว ไม่มีทางหันหลังกลับแน่นอน ไม่ว่าแกจะเป็นใคร ฉันต้องลากแกกลับไปที่บัควู้ดกับฉันให้ได้!”
“เพื่อตระกูลคาร์ลสัน!”
เจนเซ่นฟาดไม้เบสบอลเข้าที่หน้าผากของฮาร์วีย์หลังจากที่เขาพูดจบ
เฟี้ยว…
ร่างของเจนเซ่นลอยคว้างอยู่กลางอากาศพุ่งกระแทกเข้าที่มุมห้องนั่งเล่นเข้าอย่างจัง เขาตัวสั่นสะท้านและตอนนี้เขาไม่สามารถลุกขึ้นได้
เขาหมดสิ้นทุกอย่างแล้วในตอนนี้ เขาจะทำอะไรฮาร์วีย์ได้อีก?
ฮาร์วีย์ก้าวเดินไปข้างหน้าและเตะไม้เบสบอลของเจนเซ่นออกไปให้พ้นทาง จากนั้นเขาก็มองลงไปที่เจนเซ่น “เจนเซ่น คนอื่นมองคุณเป็นทายาทของตระกูลคาร์ลสันที่สุดแสนจะสมบูรณ์แบบ แต่สำหรับฉัน คุณไม่ได้เป็นอะไรเลย ก็แค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง”
“คนที่อยู่เบื้องหลังคุณแค่ต้องการบังคับให้ฉันกลับไปที่บัควู้ด ให้ไปบอกเขาซะว่าวันหนึ่งฉันจะกลับไปบัควู้ดอย่างแน่นอน ฉันจะทวงเอาของ ๆ ฉันที่เสียไปกลับคืนมาด้วยมือของฉันเอง…”
ฮาร์วีย์หันหลังเดินจากไปทันที เขาไม่สนใจคนที่หมดหาทางสู้อย่างเจนเซ่นอีกต่อไป
***
เอลล่ากอดเอวของฮาร์วีย์เอาไว้ขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของฮาร์วีย์ เธอสับสนในความรู้สึกของตัวเอง
เธอรู้ว่าฮาร์วีย์มีภรรยาแล้ว และเธอไม่ควรเข้าใกล้เขา
อย่างไรก็ตาม ชายผู้ลึกลับและทรงพลังคนนี้ดูเหมือนจะมีอำนาจไปเสียทุกอย่าง
เขาเป็นเสมือนกล่องแพนโดร่า ทำให้ผู้คนกลัวที่จะเข้าใกล้เขา แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะเข้าใกล้เขาเช่นเดียวกัน
เพื่อค้นหาความลับของเขาและรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา…
ฮาร์วีย์เขาขี่จักรยานยนต์ไฟฟ้าและยิ้มอย่างขมขื่น “เอลล่า ผมขอโทษที่ลากคุณเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพื่อเป็นการตอบแทน ผมจะหาเวลาไปเลี้ยงอาหารคุณ”
“ได้สิ! ฉันตกลง!” เอลล่ารีบพูดตอบรับออกไป ใบหน้าของเธอแดงก่ำและพูดต่ออีกว่า “ลืมเรื่องนี้ไปเถอะค่ะ ถ้าพี่สะใภ้รู้ คุณจะต้องทะเลาะกับเธออีกแน่ ๆ”
เอลล่ารู้ว่าแมนดี้ทำตัวเมินใส่ฮาร์วีย์หลายวันเพราะเธอ
เธอรู้สึกผิดมาก ตอนนี้เธอจึงไม่กล้าเรียกร้องอะไร
“คุณพูดว่าพี่สะใภ้…” ฮาร์วีย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับการกลับมาอย่างกะทันหันของไซม่อน
แต่เมื่อเขาเชื่อมโยงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา เริ่มจากธีอามาจนถึงเจนเซ่น และแม้แต่การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของไซม่อนอีก
ฮาร์วีย์มีความรู้สึกราวกับว่ามีตาข่ายที่มองไม่เห็นซึ่งปกคลุมไปทั้งนิอัมมี่และบัควู้ด
“ฉันเพิ่งตอบกลับไปครั้งเดียว พวกคุณยังไม่เจียมตัวอีกหรือไง?”
“เงินที่โยนาธานมาขอ มันเป็นเพียงการทดสอบฉัน หรือพวกยอร์กอยู่ในจุดนั้นแล้วจริง ๆ ?”
“ทุกคนช่างสมกับเป็นพี่น้องที่แสนดีของฉันจริง ๆ …”
“การที่จะให้กลับไปที่บัควู้ดครั้งนี้ คุณคงเตรียมวางกับดักรอเอาไว้แล้วล่ะสิ…”
ฮาร์วีย์มองย้อนกลับไปที่ถึงช่วงเวลาที่บัควู้ด
‘บัควู้ด ที่ ๆ ฉันจากมาเมื่อสามปีที่แล้ว สามปีแล้วสินะ ดูเหมือนว่าคงถึงเวลาที่ฉันจะต้องกลับไปแล้ว’
‘ที่รัก ผมบอกคุณแล้วว่าผมจะพาคุณไปดูทิวทัศน์ของภูเขาซิลเวอร์นิมบัสที่บัควู้ด’
‘ผมไม่เคยคิดเลยว่าวันที่ต้องทำตามคำสัญญานี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้’