ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 48
“อีวอนน์ รบกวนส่งหนังสือแจ้งลงไป ยุติโครงการเมืองยานยนต์ที่มีการหารือกันเมื่อเช้า” ฮาร์วี่ย์ ยอร์ก พูดออกไปและไม่แม้แต่จะมองเควิน ควินน์ เลยสักนิด
“รับทราบค่ะ!” อีวอนน์ตอบรับดูแสนธรรมดา
หลังจากวางโทรศัพท์เครื่องเก่าลงบนโต๊ะแล้ว ฮาร์วี่ย์ก็มองไปที่เควินที่ตอนนี้เกือบจะคุกเข่าอยู่ที่พื้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มิสเตอร์ควินน์ คุณก้มหัวให้ผมทำไม? ก้มก็แค่เป็นขยะที่ไม่มีค่า ผมไม่สามารถจ่ายมันได้หรอก”
เควินไม่กล้ายืนตัวตั้งตรง เขาทำได้เพียงหัวเราะเบา ๆ “มิสเตอร์ยอร์ก คุณกำลังพูดถึงอะไร? เมื่อกี้คุณไม่ได้เป็นคนพูดเหรอ? ว่าถ้าผมต้องขอร้องให้คุณกลับมา ผมต้องคุกเข่าและเรียกคุณว่าพ่อ…”
“ไม่ต้องทำอย่างนั้นหรอก ผมไม่โชคร้ายขนาดที่จะมีลูกชายอย่างคุณ” ฮาร์วี่ย์โบกมือส่ายไปมา
“ใช่ ๆ ผมไม่คู่ควร ก่อนหน้านี้ผมช่างโง่เขลา แต่ผมรู้ว่ามิสเตอร์ยอร์กเป็นคนใจกว้างมากพอ ได้โปรดเมตตาเถอะนะครับ” ใบหน้าของเควินแข็งทื่อไร้สีสัน
ฮาร์วี่ย์ไม่แยแสสิ่งตรงหน้า เขากำลังพลิกเปิดดูนิตยสารบนโต๊ะ
เควินกัดฟันกรอดเมื่อเห็นท่าทีของฮาร์วี่ย์เช่นนั้น เขาแระจบประแจงฮาร์วี่ย์ จากนั้นเขาก็พูดอย่างจริงจังว่า “ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยเถอะครับ มิสเตอร์ยอร์ก!”
มีเพียงเควินเท่านั้นที่รู้ว่าสถานการณ์ด้านการเงินของเมืองยานยนต์แห่งนี้ดีว่าแย่แค่ไหน หากไม่มีความช่วยเหลือจากภายนอกที่แข็งแกร่งในการอัดฉีดเงินทุนเขาจะต้องดิ้นรนเพื่อรักษามันเอาไว้ หากเป็นเช่นนั้นบริษัทคงจะต้องปิดตัวลง เขาคงไม่เหลืออะไร
นอกจากนี้เมื่อกี้เขายังได้ยินว่า ก่อนหน้านี้มิสเตอร์ยอร์กที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาได้มีการพิจารณาการลงทุนในเมืองยานยนต์ แต่ตอนนี้นั้น แต่ด้วยท่าทางของเขา…
เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ เขาไม่กล้าแม้แต่จะทำตัวเกลียดชังใด ๆ ต่อฮาร์วี่ย์ แต่เขากล้าที่จะแสดงความเสียใจและมีความหวาดหวั่นออกมาเท่านั้น
ในที่สุดฮาร์วี่ย์ก็วางนิตยสารในมือลงและยิ้มออกมาเมื่อมองดูภาพตรงหน้า “มิสเตอร์ควินน์ ผมไม่สามารถตอบรับการแสดงความเคารพของคุณได้จริง ๆ คุณยืนขึ้นเถอะ ไม่อย่างนั้นพนักงานของคุณอาจจะคิดไปไกลหากพวกเขาเห็นสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่”
“ใช่ ๆ !” เควินลุกขึ้นอย่างสำรวมและมายืนข้างฮาร์วี่ย์ทำตัวเสมือนเป็นผู้ปรนนิบัติดูแล
“ไง ลูกพี่ลูกน้อง ฉันแค่…” เควินถอนหายใจ ในขณะนั้นเองเขาเห็นแองเจิลเปิดประตูและเดินเข้ามา เธอออกไปแล้วแต่จู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเธอยังมีอะไรจะพูด เธอจึงเดินกลับมา ทันทีที่เธอเข้ามาเธอก็เห็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์อย่างฮาร์วี่ย์นั่งอยู่บนโซฟาทำตัวเสมือนเจ้านายในขณะที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยอาการประหม่าราวกับเป็นผู้ปรนนิบัติดูแล
บรรยากาศในตอนนี้ช่างหดหู่เหลือเกิน
เควินรู้สึกอายอย่างสุดจะพรรณนา เขาแทบอดทนรอไม่ไหวที่จะกระโดดลงจากชั้นสองให้ตายในตอนนี้
สำหรับฮาร์วี่ย์แล้วทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่ได้มองไปที่แองเจิลด้วยซ้ำ
“ดีมาก ฮาร์วี่ย์! นายกลับมาขู่แบล็กเมล์ลูกพี่ลูกน้องของฉันหรือไง หรือนายมาเจรจาตกลงกับลูกพี่ลูกน้องของฉัน? นายเต็มใจที่จะหย่าไหมถ้านายมีเงิน…?”
เควินขัดจังหวะเธอซะก่อน ๆ ที่เธอจะพูดจบ “ออกไปก่อนอย่ามาพูดเรื่องไร้สาระ…”
เควินผลักแองเจิ้ลออกไปให้พ้นจากประตูห้องทำงานในขณะที่เขายังพูดคุยกันอยู่กับฮาร์วี่ย์ แล้วหลังจากนั้นเขาหันกลับมาอย่างรวดเร็วและพูดว่า “รอสักครู่นะครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง…”
ฮาร์วี่ย์สั่งให้เขาปิดประตูแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “คุณน่าจะได้เห็นแล้วว่าผมเป็นคนไม่สำคัญ แม้แต่ภรรยาของผมก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวผมมากนัก ผมไม่ต้องการให้ใครก็ตามที่ไม่สำคัญรับรู้เกี่ยวกับตัวตนของผม ดังนั้นคุณควรรู้วิธีอธิบายกับเธอซึ่งรวมถึงพนักงานของคุณด้วย เข้าใจใช่ไหม?”
“เข้าใจครัว! มิสเตอร์ยอร์ก คุณไม่ต้องกังวล!” เควินไม่ได้โง่ เขาเข้าใจทันทีว่าฮาร์วี่ย์หมายถึงอะไรและเขาพยักหน้ารับทันที เควินหายใจเข้าลึก ๆ และออกจากห้องไปด้วยท่าทางสง่างามเหมือนเดิม เขาจ้องไปที่แองเจิลและพูด “เธอไม่รู้จักเคาะประตูก่อนเข้าห้องทำงานของฉันหรือไง?”
“เข้าใจแล้ว คราวหน้าฉันจะจำไว้” แองเจิลจ้องไปที่ฮาร์วี่ย์ที่นั่งเหม่อลอยอยู่ในห้องทำงาน “เควิน นายเป็นอะไรรึเปล่า? เมื่อกี้นายกำลังขอโทษเขาอยู่หรือไง? หรือนายกำลังขอร้องเขา? ฉันบอกนายว่ามันไม่จำเป็น เขาเป็นแค่ขยะ นายไม่ต้องสนใจเขาหรอก!”
“นี่…” เควินชะงักและคิดอะไรออกจึงบอกไปว่า “จักรยานไฟฟ้าของเขาเพิ่งเสีย เขาคิดว่ามันเกิดจากพนักงานของเราสักคน เขาก็มาให้เราดูไม่ดี ฉันเลยบอกให้เขาไปที่ห้องทำงานเพื่อที่เขาจะไม่ให้เขาเอะอะโวยวายข้างนอกและทำลายบรรยากาศ…”
“อ้ออย่างนั้นหรือ!” แองเจิลเพิ่งจะเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะงั้นเธอยิ่งดูแคลนฮาร์วี่ย์ “เควิน ขยะอย่างเขามักจะพยายามข่มขู่หลอกลวงทุกที่ที่ไป นายไม่ค้องไปทำดีกับเขาหรอก แค่สั่งให้ใครมาจัดการและขับไล่เขาไปก็พอ!”
“ฉันเรียกตำรวจให้นายไหม?”