USB:บทที่ 22 ลอบออกหลังบ้าน
อัตรานี้อัตราความสำเร็จในการปรุงยา อีกค่อนข้างน้อย ดังนั้น ยาเม็ดนี้ ขึ้นชื่อว่าหายาก
แน่นอนว่าได้ยาเม็ดนี้หายากและล้ำค่ามาก จนสามารถทำให้คนธรรมดาๆกลายเป็นนักเวทย์ได้: การมีนักเวทย์ในตระกูล จะสามารถสร้างความสามารถแตกต่างจากตระกูลอื่น ๆได้ สำหรับนักเวทย์ระดับต่ำ ๆ ก็จะไม่แตกต่างกันมากนัก อย่างไรก็ตาม หากเป็นนักเวทย์ขั้นสูง จะทำให้ตระกูลเป็นที่เคารพยำเกรงมากขึ้นตามลำดับ
เรื่องแบบนี้นับประสาอะไรกับตระกูลทั่วไป พวกเขาไม่สามารถหาซื้อยาชนิดนี้ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นโอวหยางซิงเหวินสงสัยมากว่า ทำไมพ่อของเขา ถึงได้รับยาล้ำค่า ขนาดนี้มาได้
จึงสามารถสนับสนุนลูกชายคนนี้ ที่ไม่มีพรสวรรค์อะไรเลย
โอวหยางซิงเหวินเองก็รู้ซึ้งถึงความสูญเสียของตระกูลของเขาได้ว่า ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ ท่านพ่อของเขา อาจจะต้องเอาสมบัติของตระกูลที่สะสมมานาน เพื่อเปลี่ยนเป็นยาวิเศษนี้มาอย่างแน่นอน
” ไม่ต้องห่วงว่า ว่าข้าได้มันมาอย่างไร ตอนนี้กลับไปที่ห้องและกินยาซะ จากนั้นก็ไปนั่งสมาธิหากว่าเจ้าไม่สามารถปลุกพลังในตัวเองได้ ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกได้ .” โอวหยางเทียนพูดเสียงดัง
การที่โอวหยางเทียนนั้น สามารถได้รับยาล้ำเลิศเม็ดนี้มาได้ ก็เป็นเพราะโชคช่วยเช่นกัน ตอนที่เขายังหนุ่มๆ เขาเคยช่วยนักปรุงยาคนหนึ่งเอาไว้โดยบังเอิญ ในตอนแรกเขาไม่ได้คิดอะไรมากนัก
ในเวลาต่อมาเขา พบว่านักปรุงยา คนนี้มีคามสามารถมาก และได้ติดต่อกันเรื่อยมา
เขาหวังว่าอีกฝ่าย จะช่วยเขากลั่นยาเสริมความหลักแหลมให้ เนื่องจากความเป็นเพื่อนและมีบุญคุญ แน่นอนว่า นักปรุงยานั้น ไม่ปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือ
ในความเป็นจริง ถ้าอีกฝ่ายล้มเหลวในการปรุงยา มันคงเป็นเรื่องยากมาก สำหรับเขา ที่จะได้รับยาเพื่อช่วยโอวหยางซิงเหวิน เพราะ ยาเม็ดนี้ประกอบไปด้วยวัตถุดิบที่หายากและมีค่า
เพื่อให้ได้มาครบทุกอย่าง ต้องเสียเงินไปมหาศาล โชคดีที่เขาสามารถปรุงยาได้สำเร็จ
โอวหยางเทียน ก็ไม่สามารถให้อีกฝ่าย ช่วยเขาแบบฟรีๆ ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะช่วยนักปรุงยาเอาไว้ในตอนนั้น แต่ตอนนี้ ฐานะของนักปรุงยานั้นแตกต่างจากเมื่อก่อน การจะให้เขาปรุงยาให้แน่นอนว่าจะต้องจ่ายเงินออกไปมากมาย
แต่ไม่ว่าเขาจะต้องจ่ายไปเท่าไหร่ ตัวเขาก็จะต้องจ่าย เนื่องจากเขามีลูกชายเพียงคนเดียว หากไม่ทำแบบนั้น อาจจะต้องเกิดการแก่งแย่งตำแหน่งผู้นำของตระกูลอย่างแน่นอน
“ อา?” ข้าไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ ถ้าไม่สามารถปลุกพลังในร่างของข้าได้ หากว่าหนึ่งเดือนผ่านไป ข้ายังทำไม่ได้ล่ะ ข้าก็จะไม่สามารถออกไปไหนได้เป็นระยะเวลาตามนั้นใช่หรือไม่? “
ถ้าเขาไม่ได้ออกไปข้างนอกสามวัน มันก็จะแย่ยิ่งกว่าตายซะอีก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการปลุกพลัง มันอาจจะใช้เวลานานกว่านั้นแน่นอน
โอวหยางซิงเหวิน ยังเชื่อว่า เขาต้องใช้เวลาอีกมาก ในการศึกษาเกี่ยวกับยานี้ มันสามารถช่วยให้เขาก้าวขึ้นไปผู้นำตระกูลได้อย่างราบรื่น แต่เขาไม่สามารถปลุกความสามารถด้วยตัวเองได้ พลังของเขา มันจะถูกจำกัดของฤทธิยาหรือไม่?
เพราะยานี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของการต่อสู้ได้ คนธรรมดาๆ ทั่วไปต้องใช้เวลาในการฝึกฝนมากกว่าคนทั่วไป ในการบำเพ็ญเพียร ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าหากว่าไม่สามารถฝึกทักษะนี้ ได้แต่กำเนิด พลังของเขามันจะสูงแค่ไหนกันเชียว?
สำหรับผู้ที่กินยาเสริมความหลักแหลมเท่านั้น แต่พวกเขา ต้องใช้เวลาและความสำคัญมากขึ้น ในการฝึกฝน ในท้ายที่สุด เขาอาจไม่ได้รับพลัง เหมือนกับที่ฝึกฝนและสามารถปลุกพลังได้ด้วยตนเอง
” อย่าพูดถึงแค่เพียงเดือนเดียว แต่1 ปีนี้ เจ้าจะทำได้สำเร็จหรือไม่?” โอวเทียนเทียน กล่าว เพราะเขาบอกได้แล้วว่า โอวหยางซิงเหวินจะไม่สามารถก้าวออกจากตระกูลได้ หากว่าไม่สำเร็จการปลุกพลัง ในฐานะนักเวทย์
โอวหยางซิงเหวิน เบื้องหน้ายังคงทำทีเข้าใจในคำพูดของพ่อตนเอง แต่เมื่อเห็นว่าพ่อของเขานั้นเด็ดเดี่ยวกับการตัดสินใจครั้งนี้มาก มันก็ทำให้เขารู้สึกหวั่นๆ ว่าตนเองจะไม่สามารถก้าวออกจากบ้านไปข้างนอกได้ เขาต้องคิดวิธีการ ที่จะออกไปจากสถานที่แห่งนี้
ไม่ว่ายังไง เขาก็ต้องทำตามที่พ่อของเขาบอก จากนั้นเขาจึงเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง จากนั้นก็โยนกล่องปักที่บรรจุยาล้ำค่า ไว้บนเตียง จากนั้น เอ่ยเรียกคนรับใช้ว่า วังเอ๋อ อยู่หรือไม่?
” วังเอ๋อ ช่วยข้าที พาข้าอ้อมไปที่กำแพงด้านหลังเหมือนเดิม” โอวหยางซิงเหวินตกลงกับเพื่อนๆ ของเขาว่า วันนี้เขาจะออกไปนั่งเรือเล่นกับเพื่อนๆ เขาได้ยินมา ว่ามีหญิงสาวที่มีเสียงไพเราะมาก และเขาก็อยากพบนาง
สำหรับเรื่องของ การตรวจสอบยาเสริมความหลักแหลมนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้รีบร้อน เขาจะจัดการในวันพรุ่งนี้ แต่ตอนนี้ เขาต้องรีบออกไปข้างนอก เพื่อฟังเพลงไพเราะ ผ่อนคลายจิตใจ
” ได้เลยนายน้อย ไม่ต้องกังวลข้าจะไปเอาขั้นบันไดมาก่อน นายน้อยโปรดรอสักครู่” โดยปกติคนรับใช้ จะติดตามโอวหยางซิงเหวินไปเที่ยวเล่นรอบ ๆ และยังมีความคิดไร้สาระติดตามโอวหยางซิงเหวิน โดยไม่ห้ามปราม ไปสถานที่เริ่งรมณ์
เขาก็เป็นคนรับใช้ทั้งเพื่อนเล่นของโอวหยางซิงเหวิน เพียงเพราะ อยากจะให้พ่อแม่ของตนที่อยู่ในตระกูลนี้ ได้อย่างสุขสบาย หลังจากที่โอวหยางซิงเหวิน รับตำแหน่งผู้นำประจำตระกูล วันข้างหน้าของเขานั้น จะสบายมาก
หวังเอ๋อ เคยแอบออกไปดูคนจุดดอกไม้ไฟ เป็นเพื่อนโอวหยาวซิงเหวิน นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เขาทำแบบนี้ แม้ว่าโอวหยางซิงเหวินจะเคยถูกโอวหยางเทียนห้ามปรามไว้ก่อนหน้านี้ แต่ในท้ายที่สุด ด้วยความต้องการของโอวหยางซิงเหวิน
หวังเอ๋อจึงติดตามนายน้อยไปด้วยความยินดี
หวังเอ๋อนั้น มีความเชี่ยวชาญอย่างมาก เขาไม่ได้ทำให้เกิดความยุ่งยาก และสามารถหลบหนีหนีออกจากกำแพงไปทางประตูหลัง โอวหยางซิงเหวินนั้นไม่ได้กินยาตามที่พ่อของเขาบอก แต่กลับวางมันไว้บนเตียงเฉยๆ
และเขาก็ฉวยโอกาสแอบออกมาเที่ยวเล่น
ไม่นานนัก หลังจากที่โอวหยางซิงเหวินลอบหนีออกไป กล่องปักบนเตียงก็สั่นไหว พร้อมกับแสงไฟสีจางๆ และกลับสู่สภาพปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น