ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 65
แมนดี้จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นซีอีโอตราบเท่าที่เธอได้รับเงินลงทุน ข่าวนั้นแพร่กระจายไปยังตระกูลซิมเมอร์อย่างถ้วนทั่ว
พวกเขาทุกคนต้องตกตะลึง แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรให้มากความนั่นเพราะพวกเขารู้ว่าตระกูลซิมเมอร์ อาจล้มละลายจริง ๆ หากพวกเขาไม่มีเงินลงทุนนั้น
สำหรับพวกเขาโดยส่วนใหญ่แล้ว พวกเขาไม่มีปัญหาใด ๆ ว่าใครจะอยู่ในอำนาจ ตราบใดที่พวกเขาสามารถใช้ชีวิตที่หรูหราและฟุ่มเฟือยได้
สำหรับครอบครัวของแซ็ค ทั้งพ่อและลูกนั่งตรงข้ามกันมองหน้ากันอย่างช่วยอะไรกันไม่ได้
แซ็คที่ดูน่ากลัวก็พูดขึ้นมาว่า “พ่อครับ ทุกคนจากครอบครัวของคุณลุงไม่มีอะไรเลยนอกจากคนขี้แพ้ ล้วนแล้วแต่เป็นคนอกตัญญูที่เข้าข้างคนนอก พวกเขาไม่เพียงแต่ยืนตรงนั้นเพื่อเป็นพยานให้ฮาร์วี่ย์แล้วทำให้ผมอับอาย แต่พวกเขาต้องการช่วงชิงตำแหน่งซีอีโอเพียงเพราะการลงทุนที่น่าสมเพชนั่น พวกเขากลั่นแกล้งเรา!”
ฌอนให้ความสนใจและพูด “ผู้อาวุโสซิมเมอร์พูดอยู่เรื่องหนึ่ง การลงทุนมีความหมายและสำคัญกับเรามาก เราต้องคิดหาวิธีที่จะแก้ไขความสัมพันธ์ของเรากับ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ตราบเท่าที่เราได้รับเงินลงทุนนั่นจะเป็นไรไหมถ้าพ่อยกตำแหน่งให้กับหล่อนไปซะ?”
“แต่…” สีหน้าของแซ็คเริ่มบิดเบี้ยว “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเรายอมให้ผู้หญิงพวกนั้นมีอำนาจเหนือกว่างั้นหรือ?”
“แล้วถ้าพวกเขาอยู่ในอำนาจล่ะ? อย่าลืมสิว่าพวกเขาไม่มีอะไรนอกจากเป็นได้แค่ขี้แพ้ เป็นไปได้อย่างไรที่ผู้หญิงจะเป็นผู้นำตระกูลซิมเมอร์ของเรา? ผู้อาวุโสซิมเมอร์ให้สัญญากับพวกเขาเพราะเขาถูกบังคับด้วยสถานการณ์แบบนั้น ตราบใดที่เราได้รับเงินลงทุน ผู้อาวุโสซิมเมอร์จะเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด แกคิดว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์โง่จริง ๆ เหรอ? เขาจะมอบหมายตำแหน่งสำคัญเช่นนี้ให้ผู้หญิงจริง ๆ งั้นหรือ?”
“แต่พ่อจะรับโทษและลาออกไปก่อน แกต้องจำไว้ว่าช่วงนี้ต้องทำตัวให้ดี แม้ว่าเราจะสละตำแหน่งซีอีโอไปแล้วก็ตาม แต่แกจะต้องได้รับแต่งตั้งให้รับผิดชอบโครงการนี้ ตราบใดที่เรามีโปรเจ็กต์นั้นซิมเมอร์ก็จะอยู่ในมือเราอย่างแน่นอน” ฌอนพูดอย่างเย็นชา
เมื่อได้ยินแบบนั้นแซ็คก็รู้สึกมีความหวัง จากนั้นเขาก็พูดว่า “หมายความว่าเราจะสามารถใช้เงินห้าสิบล้านดอลลาร์เหล่านั้นได้อย่างอิสระใช่ไหมครับ”
“ใช่ มันต้องเป็นอย่างนั้น แต่เรายังต้องสร้างศูนย์การค้า นั่นคือรากฐานทางธุรกิจของตระกูลซิมเมอร์ในอนาคต ตราบใดที่เราสร้างศูนย์การค้าแห่งนั้นได้ เราก็ไม่จำเป็นต้องทำตามความปราถนาของใคร” ฌอนกล่าวอย่างหงุดหงิด สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้เขารำคาญใจอย่างมาก
“ยังไงซะ ยังมีไอ้ลูกเขยนั่นอีกคน เราต้องมีโอกาสสอนบทเรียนให้กับมัน วันนี้เป็นความผิดของมันที่ทำให้แผนของเราพังทลาย…” แซ็คพูดอย่างมาดร้าย
ฌอนขมวดคิ้วและพูดว่า “แกเลิกทำตัวงี่เง่าได้ไหม? ไอ้คนไม่มีอะไรดีแบบนั้นจะทำอะไรเราได้? ถ้าฉันเดาไม่ผิด ลิเลียนคือคนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง ฮาร์วี่ย์เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งของเธอ นับจากนี้เราต้องเฝ้าระวังผู้หญิงคนนั้นให้มากขึ้น!”
“ได้เลยครับ!” แซ็คตอบตกลงทันที
“ครอบครัวของพวกมันก็เป็นได้แค่ขี้แพ้ ตอนนี้ลุงของแกยังอยู่ต่างประเทศ เป็นไปไม่ได้ที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์จะปล่อยให้พวกเขาดูแลซิมเมอร์ เราค่อยพูดถึงเรื่องนี้หลังจากที่เราได้รับการร่วมลงทุน แค่ปล่อยให้พวกเขาใจเย็นลงในช่วงสองสามวันนี้” ฌอนดูเย็นชา เขาไม่ใช่คนที่ยืนอยู่เฉย ๆ และไม่ทำอะไร ตอนนี้เขาต้องเริ่มคิดให้รอบคอบมากขึ้น
…
วันถัดมา ที่ชั้นล่างของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์
เช้าตรู่ฮาร์วี่ย์ไปซื้อจักรยานไฟฟ้าคันใหม่และขี่มันไปที่ บริษัท นั่นเป็นเพราะวันนี้แมนดี้กำลังไปที่บริษัทเพื่อเจรจาเรื่องการลงทุน หากเขาขับรถปอร์เช่ไปที่นั่นอาจจะเป็นการเปิดเผยตัวตนและสถานะของเขา
ในขณะที่เขากำลังจอดรถจักรยานไฟฟ้าไว้ที่ลานจอดรถซึ่งเป็นเอกสิทธิ์สำหรับท่านประธานเท่านั้น เขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยมาจากด้านหลังเขา คน ๆ นั้นตะโกนว่า “เฮ้! คนที่ขับจักรยานไฟฟ้านั่น! คุณบ้าไปแล้วหรือไง? คุณไม่เห็นหรือว่านี่เป็นที่จอดรถเฉพาะสำหรับท่านประธานเท่านั้น? ออกไปเดี๋ยวนี้!”
โฮเวิร์ดปรากฏตัวขึ้นด้วยความโศกเศร้า เมื่อวันก่อนเขารับรู้ว่าเขาถูกลดตำแหน่งเป็นเพียงแค่ รปภ. เขาแทบนอนไม่หลับทั้งคืน แล้ววันนั้นเขายังต้องกัดฟันมารายงานตัวเพื่อเข้าทำงานที่บริษัท
เขาหมดทางเลือก ท้ายที่สุดเขาไม่กล้าที่จะมีปัญหากับ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ บริษัทสั่งให้เขาเป็น รปภ. เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อฟังคำสั่งนั้น ถ้าไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าชดเชยจากการผิดสัญญาได้จริง ๆ เขายังมีรถต้องผ่อน ดังนั้นเขาจึงไม่มีทาที่จ่ายมันได้แน่นอน
เขาต้องคอยดูรถให้คนทุกคนเข้าจอดรถตลอดทั้งเช้า เขาแทบจะหมดแรง โดยปกติแล้วเขาเป็นคนที่หยิ่งยโสมาตลอด และตอนนี้เมื่อเขาเห็นรถจักรยานไฟฟ้าจอดอยู่ที่ที่จอดรถเฉพาะสำหรับ ท่านประธาน เขาแทบเสียสติเพราะความโกรธของเขา
เขาทนทุกข์ทรมานมาตลอดทั้งวันและเขาเพียงแค่จังหวะที่ท่านประธานมา เขาเพียงต้องการโอกาสที่จะพลิกสถานการณ์กลับคืนมา แต่ทั้งหมดที่เขาได้รับในตอนนี้จากที่เขารอมานานมีเพียงจักรยานไฟฟ้ามาจอด
ฮาร์วี่ย์หันกลับมา เขาเห็นโฮเวิร์ดที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นลึก ๆ เขามองโฮเวิร์ดยิ้มและพูดว่า“หัวหน้าห้องของเรานี่เอง นายไม่ได้บอกฉันหรอกหรือว่านายทำงานเป็นหัวหน้าแผนกที่ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์? แต่กลายเป็นว่านายทำงานเป็นแค่พนักงานรักษาความปลอดภัยที่นี่เท่านั้นเองหรอกหรือ”
ในตอนนั้นเองคนที่โฮเวิร์ดไม่อยากพบเจอมากที่สุดคือฮาร์วี่ย์ เขาโกรธมากเมื่อเห็นคนที่จอดรถจักรยานไฟฟ้าตรงนั้นคือเป็นฮาร์วี่ย์ทั้งยังประหลาดใจ
มันยากมากสำหรับโอเวิร์ดที่จะสงบสติอารมณ์ให้ใจเย็นลง เมื่อเขาสงบสติอารมณ์ได้แล้วในที่สุดเขาก็พูดว่า “ฮาร์วี่ย์ นายรู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน? นี่เป็นที่ที่นายจะมาได้เพียงแค่เพราะนายเป็นลูกเขยงั้นหรือ?”
ฮาร์วี่ย์ยักไหล่ไม่สนใจ จากนั้นเขาก็พูดว่า “ฉันก็ทำงานที่นี่เหมือนกัน”
โฮเวิร์ดตกตะลึง ‘ไอ้คนไม่มีอะไรอย่างฮาร์วี่ย์ได้ทำงานใน ยอร์กเอ็นเทอร์ไพรส์ ด้วยงั้นเหรอ’? ฉันทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่นี่ มันไม่ได้หมายความว่าฉันจะเจอเขาทุกวันหรอกนะ… ’
ในตอนนั้นเองที่โฮเวิร์ดอยากจะกระโดดลงจากตึกลงมาเพราะเขาไม่สามารถทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้
“เฮ้ รปภ.! มาดูรถให้ฉันสิ! ฉันกำลังจะถอยรถ” ขณะนั้นรถปอร์เช่คันหนึ่งจอดอยู่ที่นั่น หน้าต่างของรถถูกลดลงและพวกเขาก็เห็นใบหน้าที่สวยงามของเวนดี้พร้อมรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของเธอ