ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 657
วันนี้ชายคนนี้เป็นลมหมดสติไปแล้วแปดครั้ง
ทุกครั้งที่เขาฟื้นขึ้นมา เขาจะอาเจียนเป็นเลือดออกมาทันทีและหมดสติไปอีกครังหลังจากที่ได้ยินทุกคนพูดถึงที่เจ้าชายยอร์กไปเยี่ยมเยือนค่าศัสตราวุธในตอนนี้
แต่ในครั้งนี้ ไม่มีใครพูดถึงเจ้าชายยอร์กแต่เขาก็ยังคงเป็นลมหมดสติไปอีกครั้ง
ร่างกายของเขาค่อนข้างแย่เลยทีเดียว
คนแบบนี้ได้รับยศให้เป็นนายทหารระดับสูงได้ยังไง?
ธัญญ่าถามนายทหารสองคนที่มาส่งคอเนอร์ด้วยความกังวล “คุณทหาร ขอถามหน่อยได้ไหมว่าคอเนอร์ยังมีโอกาสที่จะเข้าร่วมกับค่ายศัสตราวุธอีกหรือเปล่า?”
“จะเป็นไปได้ยังไง?”
“เขาเป็นลมหมดสติไปต่อหน้าเจ้าชายยอร์ก เขาสร้างความอับอายให้กับค่ายศัสตราวุธ!”
“พันโทอีธานโกรธมากจนถึงขั้นโทรสายตรงไปยังค่ายโกลเด้นแซนแล้วถามว่าเขาส่งขยะอย่างนี้มาที่นี่ได้ยังไง”
“อย่าว่าแต่ค่ายศัสตราวุธเลย ผมคิดว่าในอนาคตต่อไปเขาคงไม่มีที่ยืนในกองทัพอีกแน่นอน”
นายทหารเผยความจริงที่แสนเจ็บปวดออกมาอย่างเยือกเย็น
“แต่อย่างไรแล้วผู้ชายคนนี้เป็นชั่งขยะแขยงจริง ๆ เจ้าชายยอร์กเดินทางมาในรอบสามปีที่ผ่านมาเพื่อที่จะแนะนำและชี้นำทาง แต่ผู้ชายคนนี้ดันทำให้ค่ายศัสตราวุธเสื่อมเสีย เขานี่มันกล้ามากจริง ๆ !”
“แต่โชคดีที่พวกเราไม่ได้มาจากค่ายศัสตราวุธ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงโยนผู้ชายคนนี้ไว้ข้างทางแล้ว!”
นายทหารอีกคนเยาะเย้ยครั้งแล้วครั้งเล่า
ค่ายศัสตราวุธเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในเขตทหารเซาท์ไลท์ ถ้าคุณไม่มีความเคารพต่อค่ายศัสตราวุธแล้วล่ะก็ นั่นก็แสดงว่าคุณไม่ได้ให้ความเคารพต่อเขตทหารเซาท์ไลท์เช่นเดียวกัน
ตอนนี้ธัญญ่าและเลย์ตันเหงื่อแตกพลั่กออกมา
กระทำผิดต่ออีธาน ฮันต์?
แม้กระทั่งกระทำความผิดต่อเจ้ายอร์ก?
แม้แต่ตระกูลวอร์ดและตระกูลเยตส์ก็ไม่อาจที่จะทำให้พวกเขาขุ่นเคืองใจได้แล้วนับประสาอะไรกับคอเนอร์ วอร์ด
พวกเขาเป็นคนที่มีประสบการณ์ร่วมกันในยุคของเจ้าชายยอร์กและพวกเขายังเข้าใจน้ำหนักของทั้งสองคำ เจ้าชายยอร์กในเซาท์ไลท์
ไม่นานนายทหารทั้งสองคนก็กลับไปพร้อมกับท่าทางน่าสังเวช
ธัญญ่ากับเลย์ตันพวกเขาทั้งสองคนไม่แม้แต่จะแตะต้องตะเกียบของพวกเขาในขณะที่มีอาหารอยู่เต็มโต๊ะ
หลังจากนั้นสักพัก ในที่สุดคอเนอร์ก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
แต่อย่างไร มีบางอย่างพรั่งพรูอยู่ในอกของเขาและลำคอของเขาเริ่มที่จะอ่อนไหวขึ้นมาอีกครั้ง
ก่อนที่เขาจะทันได้อาเจียนออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง ฮาร์วีย์รีบพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “อย่าอ้วกอีก!”
คอเนอร์รู้สึกราวกับว่าเขากำลังได้ยินพระราชโองการเมื่อเขาได้ยินคำพูดของฮารวีย์ เขาเริ่มที่จะตัวสั่นและกลั้นเลือดที่อยู่เต็มปากของเขาไว้ ในขณะนี้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง
สมองของเขาว่างเปล่าโดยสมบูรณ์ทันที
“เกิดบ้าอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้กันแน่?” ธัญญ่าถอนหายใจและพูด
“ผม…ผม…”
“ผมเห็น…เจ้าชายยอร์ก…”
คอเนอร์พูดอย่างตะกุกตะกัก พร้อมกับมีเหงื่อไหลลงมาและพูด
“ดีแล้วก็ได้เจอกับเจ้าชายยอร์ก แล้วทำไมถึงหมดสติไปล่ะ?”
ธัญญ่าและเลย์ตันทั้งคู่ต่างขมวดคิ้ว เป็นไปได้หรือเปล่าที่เจ้าชายยอร์กจะเป็นหายนะ? เขาน่าหวาดกลัวขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
“เพราะว่าเจ้าชายยอร์ก….เจ้าชายยอร์ก…เขา เขา เขา…”
คอเนอร์พูดตะกุกตะกักอยู่นาน ในขณะที่มองไปที่ฮาร์วีย์และหลบสายตาเขาเล็กน้อยด้วยสายที่ตื่นตระหนกของเขา
เขาอยากที่จะพูดตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์ เขาต้องการที่จะบอกว่าลูกเขยที่เกาะเมียกินที่อยู่ตรงหน้าเขาคือเจ้าชายยอร์ก
แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะพูดมันออกมา
เป็นเพราะว่าเมื่อตอนที่เขาฟื้นขึ้นมาในระยะเวลาสั้น ๆ ที่ค่ายศัสตราวุธ อีธาน ฮันต์ได้บอกเขาด้วยตัวเองว่าถ้าเข้ากล้าที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเจ้าชายยอร์ก เขาก็จะทำลายตระกูลวอร์ดทั้งตระกูลไปพร้อมกับเขา
หลังจากที่ได้ยินอย่างนั้นคอเนอร์ก็ได้หมดสติลงอีกครั้ง
ความจริง ถ้าคนอื่นพูดอย่างนี้กับเขา เขาจะต้องเยาะเย้ยเขากลับอย่างแน่นอน
แต่กลับเป็นพันโทอีธานจากค่ายศัสตราวุธที่เป็นคนพูด เขาจึงไม่กล้าแม้แต่เย้ยหยันเรื่องที่ตระกูลของเขาจะต้องโดนทำลายลงไปพร้อมกับเขา!
ดังนั้น แม้ว่าเขาจะตื่นตกใจอย่างมากที่สุด เขาก็ยังไม่พูดเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเจ้าชายยอร์ก
แต่ทันใดนั้น ทุกคนก็ได้สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่ดูแปลกไปและมองไปที่ฮาร์วีย์อย่างสงสัย
ความคิดบางอย่างปรากฏขึ้นมาในหัวของพวกเขา เป็นไปได้หรือเปล่าที่ฮาร์วีย์จะเป็นเจ้าชายยอร์ก?
ทุกคนต่างมองไปที่คอเนอร์อย่างกังวลใจ…
หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก ในที่สุดคอเนอร์ก็คลายความกังวลได้