ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 679
ไม่มีใครแทนที่โยนาธานในตำแหน่งผู้นำตระกูลตระกูลยอร์กได้ แม้แต่ฮาร์วีย์ตอนที่เขาอยู่ในจุดสูงสุดของชีวิตแล้วก็ตาม
แม้ว่าสี่ผู้ลือชื่อแห่งยอร์กจะเข้ายึดอำนาจได้ส่วนใหญ่ของตระกูล แต่เขาก็ยังสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตระกูลไว้ได้อย่างง่ายดาย
นี่ก็เพียงพอแล้วที่ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าโยนาธานมีความสามารถเพียงใด
อันที่จริง มีข่าวว่าในอดีตเขาเป็นตัวแทนขอตระกูลยอร์กในสงครามและต่อสู้ครั้งสำคัญมากมาย
คนอย่างเขาอาจไม่มีชื่อเสียงในสังคมมากนัก แต่ตำแหน่งของเขาภายในตระกูลยอร์กนั้นสูงมากจนเกินจินตนาการ
เขามีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับคนในกองทัพ ว่ากันว่าเขารู้จักคนที่ถูกขนานนามว่าเป็นเทพสงครามในกองทัพด้วย
อีธานเป็นผู้ควบคุมดูแลกองกำลังของค่ายศัสตราวุธแห่งเซาท์ไลท์ โยนาธานจึงไม่อาจเรียกใช้คนที่ทำงานภายใต้อีธานได้
ส่วนทหารคนอื่น ๆ โยนาธานสามารถสั่งพวกเขาไปทำตามคำสั่งของเขาได้อย่างง่ายดาย
ในตอนนั้นเอง โยนาธานพูดขึ้นด้วยเสียงโทนต่ำว่า “เป็นฝีมือของใคร?”
ควินตันเดินออกมาจากด้านข้างแล้วตอบเบา ๆ ว่า “คุณลุง จะถามทำไมในเมื่อคุณลุงรู้คำตอบอยู่แล้ว…?”
“ในตอนนี้ทั้งเมืองบัควู้ด ใครจะกล้าต่อกรกับเราอีกบ้างนอกจากผู้ชายคนนั้น”
“เขาทำตัวจองหองมาตลอด และทุกคนก็ชินไปกับมันแล้ว ถ้าเขาชกต่อยกับใคร สิ่งที่เราทำได้ก็คือต้องปล่อยให้เขาทำไป…”
“สิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของเราคือการที่เราสร้างแหล่งรวบรวมสมาชิกของนักเลงหัวไม้ของบัควู้ด”
“ถึงอย่างนั้น ฮาร์วีย์กลับใช้ประโยชน์จากตรงนี้และทำลายแผนของเราจนไม่เหลือชิ้นดี นี่เป็นการโจมตีพวกเราทางอ้อม!”
สีหน้าของควินตันมืดหมองลง แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรในหัวของเขา
สีหน้าของโยนาธานเปลี่ยนไปเมื่อฟังคำพูดของควินตัน หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า “ทำไมฉันถึงไม่ระวังแผนการแบบนี้?”
ควินตันหัวเราะ “คุณลุง คุณละเลยเรื่องของครอบครัวมาหลายปีเพื่อให้ความสำคัญกับศาสนา พวกเราจะไปกล้ารบกวนคุณลุงในเรื่องที่ไม่สำคัญแบบนี้ได้ยังไง?”
“ปัญหาของเราตอนนี้คือชายคนนั้นได้เปิดโปงเรื่องนี้และให้ทางการดำเนินการกับมัน เราไม่รู้ถึงถึงเจตนาของเขา แต่…”
“เราควรดำเนินการต่อไปยังไงดีครับ?”
“เราควรปล่อยมันไปหรือ…?”
ควินตันตัดจบคำพูดของเขาตาด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ แสดงท่าทางที่ดูราวกับว่าเขาไม่สนใจและต้องการความสงบสุขมากกว่า
เวย์นและสตีเฟ่นเป็นลูกชายฝาแฝดของโยนาธาน ควินตันไม่เชื่อแม้แต่วินาทีเดียวว่าโยนาธานจะยังคงเป็นกลางหลังจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นกับเวย์น
โยนาธานสูดหายใจเข้าลึก ๆ ท่าทีของเขาดูลำบากใจ “มีข่าวอะไรจากทางการบ้างไหม?”
“สารวัตรใหญ่ของบัควู้ดโทรหาผมเมื่อครู่นี้ พวกเขารู้เรื่องที่นั่นแล้ว รวมทั้งเรื่องที่เวย์นถูกทำร้ายจนหมดสติไปด้วย”
“พวกเขาแนะนำว่าอย่าทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ พวกเขาจะคิดหาวิธีที่จะจัดการที่เราเข้าไปมีส่วนร่วมกับเรื่องอื้อฉาวและจะช่วยเราไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่นั่น”
“เราแค่ต้องแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
โยนาธานขมวดคิ้วและพูดว่า “ใกล้จะครบรอบวันเกิด 100 ปีของคุณย่าแล้ว เธอเป็นคริสเตียนและยังเป็นมังสวิรัติที่เคร่งครัดมาหลายปีแล้ว และเธอไม่ได้ก้าวเข้าสู่วงสังคมมานานแล้ว”
“ตอนนี้เธอต้องการออกมาจัดการด้วยตัวเอง เราไม่สามารถเริ่มลงมือทำอะไรได้ ไม่อย่างนั้นผลที่จะเกิดขึ้นจะเกินจินตนาการ…”
“แต่สมาชิกตระกูลยอร์กคนหนึ่งถูกทำร้ายและถูกทิ้งไว้ในสภาพที่เลวร้ายแบบนั้น ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย เราจะอยู่ด้วยตัวเองได้ยังไง?”
ในจังหะที่เขาพูดแบบนี้ โยนาธานก็ดูกล้าหาญและน่าเกรงขามมาก
ในทางกลับกันควินตันหัวเราะเยาะอยู่ภายใน ถ้าคนที่ถูกทำร้ายไม่ใช่ลูกชายของโยนาธาน จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์คนนี้จะกล้าทำแบบนี้ไหม?
ภายนอกควินตันก็เผยรอยยิ้มและพูดว่า “ถ้าเรื่องนี้คุณลุงรับไม่ได้ ทำไมเราไม่ไปพบกับชายคนนั้นเพื่อทำให้มันกระจ่างไปเลย?”