ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 68
“รับทราบค่ะ มิสเตอร์ยอร์ก!” อีวอนน์พยักหน้า ในขณะเดียวกันเธอก็นึกสงสารตระกูลซิมเมอร์ พวกเขากล้ากลั่นแกล้งภรรยาของท่านประธานได้อย่างไร? พวกซิมเมอร์ไม่รู้จักทำตัวให้ดีเลยหรือไง
“นอกจากนี้ เรียกให้ไทสันมาพบฉันตอนบ่ายวันนี้ด้วย” ทันใดนั้นฮาร์วีย์ก็นึกถึงใครบางคน
อีวอนน์ตะลึง ไทสันเป็นนักเลงหัวไม้อันธพาลในนิอัมมี่ เขาไม่เคยติดต่อกับ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ มาก่อนเลย ทำไมท่านประธานถึง …
“สั่งให้เขามา” ฮาร์วี่ย์พูดย้ำอีกครั้ง
อีวอนน์ดูเหมือนมีบางอย่างในใจของเธอ แต่เธอยังคงพยักหน้าตอบรับก่อนที่เธอจะออกจากห้องทำงานไป ท้ายที่สุดแล้วทุกคำสั่งของฮาร์วี่ย์ ใน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ จะต้องปฏิบัติตามและดำเนินการทันทีไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เธอแค่ต้องการทำงานให้สำเร็จและไม่ต้องถามหาเหตุผล
…
ไทสันมาถึงบริษัทแล้ว แต่มันเกินความคาดหมายของอีวอนน์ ไทสันที่มักจะดูน่ากลัวและมีอำนาจมากในนิอัมมี่ หลังจากที่เขารับสายเขาก็มาที่ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ทันทีในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เขาก็รออยู่ที่นั่นอย่างให้เกียรติ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือเขาไม่กล้าเข้าไปในห้องทำงานของฮาร์วี่ย์เมื่อยังไม่ถึงเวลา
เขารอจนถึงบ่ายสามโมง จากนั้นอีวอนน์ก็พาไปที่ห้องทำงานของฮาร์วี่ย์ เขาเข้ามาในห้องทำงานอย่างกุก ๆ กัก ๆ เมื่อเขาเห็นฮาร์วี่ย์เขาวางมือไว้ข้างตัวและไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา
หลังจากนั้นฮาร์วี่ย์ก็โบกมือให้อีวอนน์ส่งสัญญาณให้เธอออกจากห้องไป จากนั้นฮาร์วี่ย์ก็รินน้ำหนึ่งแก้วให้ไทสันด้วยตนเอง เขาพูดอย่างนิ่งครึมว่า “นั่งเถอะ เราเป็นเพื่อนกัน ทำไมต้องทำตัวเคารพฉันขนาดนั้น? ถ้านายปล่อยให้ลูกน้องเห็นนายในสภาพแบบนี้ นายจะเป็นเจ้านายของพวกเขาได้อย่างไร?”
“ท่านครับ ผมสามารถที่จะทำตัวเหมือนเป็นเจ้านายต่อหน้าคุณได้อย่างไร? ผมเป็นแค่ลูกน้องของท่าน” ไทสันปาดเหงื่อของเขา จากนั้นเขาก็ยกแก้วน้ำด้วยมือทั้งสองข้างและพูดว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตระกูลซิมเมอร์เมื่อวันก่น ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นจริง ๆ ถ้าผมรู้ว่าเป็นท่าน…”
.
เมื่อพูดถึงเรื่องนั้นไทสันก็อยากบีบคอดอนให้ตายจริง ๆ ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเขาไม่ได้รับข่าวใด ๆ จากฮาร์วี่ย์ซึ่งมันทำให้เขากังวลเป็นอย่างมาก เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้รับโทรศัพท์จากอีวอนน์ในเช้าวันนี้
ฮาร์วี่ย์นั่งลงและพูดว่า “ฉันไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก แต่ไทสัน นายทำให้ฉันผิดหวังจริง ๆ นายอยู่ที่นิอัมมี่มาหลายปีแล้ว แต่นายกลับกลายเป็นอันธพาลและทำร้ายคนอื่นได้อย่างไร?”
ร่างของไทสันที่เต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ และพูดว่า “ท่านครับ ครั้งเดียวเท่านั้น จริง ๆ นะครับ ผมทำมันลงไปเพียงครั้งเดียว ปกติแล้วผมไม่เคยทำพวกนี้ มีเพียงลูกน้องของผมเท่านั้นที่มักจะทำแบบนั้น”
ฮาร์วี่ย์ตอบกลับอย่างใจเย็นว่า “ฉันไม่สนใจว่าปกติแล้วนายจะมีวิธียังไงกับลูกน้องของนาย แต่ในนี้ถึงเวลาแล้วที่เราต้องใช้สติปัญญาแทนการใช้กำลัง หากเรารู้เพียงแค่ใช้กำลังในการจัดการกับสิ่งต่างๆก็จะมีปัญหาตามมา นายเข้าใจที่ฉันพูดไหม?”
ไทสันพยักหน้ารับทันทีและพูดว่า “ท่านครับ สิ่งที่ท่านพูดเป็นถูกต้องที่สุด ผมจะจดจำเอาไว้ครับ”
“นั่งลงเถอะ ฉันขอให้นายนั่งลงก่อน” ฮาร์วี่ย์พูด “เร็ว ๆ นี้ฉันต้องการให้นายจัดการบางอย่างให้ฉัน”
“ได้ครับท่าน! ผมพร้อมรับใช้ท่านครับ” ไทสันดูเคารพและให้เกียรติฮาร์วี่ย์เป็นอย่างมาก ‘ถ้ามิสเตอร์ยอร์กขอให้ฉันทำอะไรให้เขาแสดงว่าเขาไม่ได้โกรธแล้ว’
“ในช่วงสองสามวันนี้ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ของฉันจะกำจัดทรัพย์สินที่ไม่ดีออกไป ฉันรู้ดีว่าคนที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินเหล่านั้นไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ ฉันหวังว่าคนเหล่านี้จะไม่พยายามต่อต้านฉันในระหว่างดำเนินการ จะเป็นการดีที่สุดหากทุกอย่างดำเนินไปได้ดีอย่างราบรื่น ด้วยวิธีนี้ทุกคนจะมีความสุข” ฮาร์วี่ย์พูดอย่างใจเย็น
“รับทราบครับ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว ผมรับรองได้ว่าจะไม่มีใครทำเรื่องให้วุ่นวายในช่วงนี้ได้อย่างแน่นอน” ไทสันพยักหน้าอย่างแรง หากเขาไม่สามารถจัดการเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้ เขาก็ไม่สามารถใช้ชีวิตเป็นนักเลงได้อีกต่อไป
“มีอีกเรื่องหนึ่ง ฉันได้ยินมาว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้มีบางคนพยายามสร้างปัญหาในศูนย์การค้าซึ่งเป็นของ ตระกูลซิมเมอร์ จริงหรือเปล่า?” ฮาร์วีย์ถามต่อ
ไทสันพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ครับ ผมได้ยินเรื่องนั้นมาแล้วเหมือนกัน มันเป็นโครงการที่มีผลกำไรสูงและมีแนวโน้มตลาดที่ดี มีนักเลงไม่กี่คนที่ค่อนข้างสนใจในเรื่องนั้น พวกมันต้องการคว้าโอกาสที่จะได้รับผลกำไรสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาได้ยินว่าตระกูลซิมเมอร์ได้รับเงินลงทุนถึงห้าสิบล้านดอลลาร์ พวกมันก็ยิ่งค่อนข้างตื่นเต้นกับเรื่องนี้”
ฮาร์วี่ย์ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาก็พูดว่า “ช่วยฉันจับตาดูมันให้ดี หากใครคิดจะทำอะไรแจ้งให้ฉันรู้ทันที”
ไทสันตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “ท่านครับ ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น จะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นเด็ดขาดเพราะมันเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ เท่านั้น…”
ไม่นานหลังจากไทสันออกไปโทรศัพท์ของฮาร์วี่ย์ก็ดังขึ้น
“ฮาร์วี่ย์ คุณอยู่ที่ไหน?” เขาได้ยินเสียงของแมนดี้มาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์
ฮาร์วี่ย์ดูเอกสารในมือของเขาและพูดว่า “ผมกำลังจะเลิกงานแล้วครับ”
“งั้น…ไปซื้อของกับฉันนะ” ดูเหมือนว่าแมนดี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะพูดแบบนั้นออกมา
ฮาร์วี่ย์ทิ้งเอกสารในมือลงบนโต๊ะทำงานโครมคราม เขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ พวกเขาแต่งงานกันมาสามปีแล้วและนี่เป็นครั้งแรกที่แมนดี้ขอให้เขาไปช้อปปิ้งกับเธอ ไม่ต้องพูดถึงแค่เรื่องช้อปปิ้งหรอก เธอมักจะรู้สึกลำบากใจหากต้องพาเขาไปที่ไหน ๆ
“ได้สิครับ!” ฮาร์วี่ย์ไม่ได้ปฏิเสธเธอ สุดท้ายแล้วเขาก็ออกคำสั่งให้คนอื่นจัดการต่อ และตอนนี้ก็ยังไม่มีปัญหาใหญ่ในบริษัทให้จัดการแก้ไข
หลังจากนั้นประมาณสิบนาทีฮาร์วี่ย์ก็ขี่รถจักรยานไฟฟ้ามาถึงย่านถนนคนเดิน ช่วยไม่ได้จริง ๆ เพราะเนื่องจากเขามีเวลาไม่มากนัก เขาไม่มีเวลาไปเปลี่ยนเป็นรถปอร์เช่ของเขา
ถนนคนเดินนั้นเป็นย่านที่เจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตชีวาที่สุดในนิอั่มมี่ มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ทุกประเภทอยู่ทั่วถนน มันแออัดเกินไปด้วยเช่นกัน
หลังจากที่ฮาร์วี่ย์จอดรถจักรยานไฟฟ้าของเขาเรียบร้อยแล้วไม่นานเขาก็เห็นแมนดี้ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน เธอมีเสน่ห์และโดดเด่นมาก แวบแรกใคร ๆ ก็จำเธอได้อย่างง่ายดาย
แมนดี้เห็นรถจักรยานไฟฟ้าของฮาร์วี่ย์ด้วยเช่นกัน เธอโบกมือให้ฮาร์วีย์
แมนดี้สวมเสื้อยืดสีขาวเรียบง่ายกับกระโปรงพลีทและรองเท้าส้นสูงแบบสบาย ๆ ชุดของเธอเน้นโชว์รูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอ ไม่แปลกที่ผู้ชายคนอื่น ๆ ที่นั่นอดไม่ได้ที่จะหันกลับมามองเธอ
ถ้าพวกเขามีภรรยาแบบนี้ พวกเขาคงจะมีความสุขมากและอาจจะละเมอหัวเราะอย่างสุขใจแม้พวกเขาจะหลับสนิทแล้วก็ตาม