USB:บทที่ 49 มันต้องอยู่ตรงนี้
“ ไม่! มันจะเป็นได้อย่างไร ข้าวางมันไว้ตรงนี้” ใบหน้าของฝางจื้อห่าวนั้น เต็มไปด้วยความวิตกกังวล หากเขาหาศิลปะกำลังภายในเขาไม่พบ ก็ไม่สามารถกล่าวโทษหลี่เต๋อหยูอย่างผิด ๆ ได้ แต่เขานั้นยังสามารถหาโอกาสได้ใหม่
ในอนาคต แต่สำหรับอาจารย์ เขาคงไม่สามารถอธิบายให้เขาฟังได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากกว่าเขาจะได้ศิลปะกำลังภายในมาฝึกฝนนั้น เขาได้ทุ่มเทอะไรไปมากมาย เพื่อให้ได้มันมาแต่ จู่ ๆ มันกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ ศิษย์พี่อาวุโสมู่ ท่านก็เห็นเช่นกันว่า ไม่มีคัมภีร์ศิลปะกำลังภายในของฝางจื้อห่าวบนเตียงของข้า
ในเวลานี้หลี่เต๋อหยูนั้น พูดกับศิษย์พี่อาวุโสมู่
ศิษย์พี่อาวุโสมู่เมื่อได้ยินคำพูดของหี่เต๋อหยู เขาก็พยักหน้าเห็นด้วย เตียงของทุกคนมีขนาดใหญ่ หลังจากใช้เวลานานมากฝางจื้อห่าว ก็ได้ค้นเตียงของหลี่เต๋อหยูมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่พบอะไร อาจหมายความได้ว่าศิลปะกำลังภายในนั้น อาจไม่ได้อยู่ที่หลี่เต๋อหยู
“ เป็นไปไม่ได้…มันต้องอยู่ที่นี่!” ในเวลานี้ เนื่องจากเขาหาคัมภีร์ศิลปะกำลังภายในของตนเองไม่เจอ
สภาพจิตใจของฝางจื้อห่าวจึงค่อนข้างไม่มั่นคง เขาเผลอหลุดปากโดยไม่ทันคิด
ศิษย์พี่อาวุโสมู่ ขมวดคิ้วมองไปที่ฝางจื้อห่าว และกล่าวว่า: “จื้อห่าว เจ้าไม่เคยเห็นมันด้วยตาของเจ้าเอง ทำไมถึงมั่นใจว่าอยู่ที่นี่ และหลี่เต๋อหยูเป็นคนเอามันไป?” เห็นได้ชัดว่าศิษย์พี่อาวุโสมู่ ไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป
“ เพราะว่า….มันเป็นเพราะว่า … ” ฝางจื้อห่าวพูดไม่ออก เขามั่นใจแน่นอน เพราะว่าเขาเป็นคนวางมันไว้ที่เตียงของ
หลี่เต๋อหยู?แต่เขาจะพูดแบบนั้นไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ชื่อเสียงของเขาจะต้องป่นปี้แน่ ๆ หากล่วงรู้ไปถึงหูของอาจารย์ เขาคงจะต้องเดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม หากเขาไม่ได้พูดออกมา คัมภีร์ศิลปะกำลังภายในอาจจะอันตรธานหายไป โดยไร้ร่องรอย
ขณะที่ ฝางจื้อห่าวกำลังลังเลว่า จะพูดดีหรือไม่? มีชายวัยกลางคน อายุสี่สิบปีก็เดินเข้าไปในห้อง ในขณะที่ทุกคนกังวลเกี่ยวกับ ฝางจื้อห่าวที่หาพบคัมภีร์ลับของเขาไม่พบ พวกเขาไม่สังเกตเห็นว่าชายคนนี้ได้เข้ามาตั้งแต่เมื่อไร
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่?” เมื่อชายวัยกลางคนเห็นฝูงชนมารวมตัวกัน บรรยากาศก็พลันดูอัดอัดในทันที ดังนั้นเขาจึงถามขึ้น
ในขณะที่คำพูดของชายวัยกลางคนออกจากปากของเขา ทุกคนก็ตระหนักได้ว่า ชายคนนั้นอยู่ที่นี่ด้วย หลังจากหันหน้าไปตามทิศทางของเสียง ทุกคนก็ตกใจ จากนั้นพวกเขาทุกคนทำความเคารพ “ทักทาย อาวุโสหวง!”
ชายวัยกลางคนคนนี้ เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสในสำนักเจ็ดนพเคราะห์ และยังเป็นอาจารย์ที่รับผิดชอบสั่งสอนทุกคนในที่แห่งนี้ เมื่อเห็นการปรากฏตัวของชายวัยกลางคนนี้ ฝางจื้อห่าวก็รู้สึกกระวนกระวายในใจทันที เขาภาวนาว่า อย่าได้มีใครบอกเรื่องนี้ให้อาจารย์หวงรู้เลย เพราะเขายังหาคัมภีร์ไม่พบ
“อาจารย์พวกเรากำลังช่วยศิษย์น้องฝาง ค้นหาศิลปะกำลังภายใน” ศิษย์พี่อาวุโสมู่กล่าวด้วยความเคารพ
คำพูดของเขาได้ทำลายจินตนาการของฝางจื้อห่าวลงทันที
“อะไรนะ?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายวัยกลางคนก็ขมวดคิ้ว และมองไปที่ฝางจื้อห่าวอย่างเคร่งเครียด: “เจ้าสูญเสีย ศิลปะการฝึกฝนกำลังภายในไปหรือไม่? เจ้าคิดว่า ศิลปะการฝึกฝนกำลังภายในของเราคืออะไร? กระดาษชำระอย่างนั้นหรือ?
เจ้าทำมันหายไป นี่คือสิ่งที่เจ้าปฎิบัติต่อ ศิลปะกำลังภายในของสำนักเรา? ถ้าข้ารู้ว่าผลมันจะออกมาเป็นแบบนี้ ข้าคงไม่ได้ถ่ายทอดวิชากำลังภายในให้เจ้า
เมื่อเห็นว่าอาจารย์ของตนเองนั้นโกรธ ฝางจื้อห่าวก็กลัวมาก จนคุกเข่าลงทันที และพูดว่า: “อาจารย์ มันไม่ยุติธรรมกับศิษย์! นับตั้งแต่ที่ได้รับ ศิลปะการฝึกฝนกำลังภายในของสำนักมา ศิษย์ก็รักมันเหมือนสมบัติ
เมื่อเห็นว่าใบหน้าของอาจารย์ดีขึ้นเล็กน้อย ฝางจื้อห่าวยังคงพูดต่อไป “นอกจากนี้ศิลปะกำลังภายในของศิษย์ ไม่ได้หายไป แต่มีคนเจตนาขโมยมันไป?!”
“ ถูกขโมย เจ้ารู้ไหมว่ามันเป็นใคร? สำนักเราจะไม่มีวันยอมให้คนทรยศแบบนี้อยู่ดีมีสุข!” ผู้อาวุโสหวงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง เนื่องจากมันคือกำหนดทางศีลธรรมของศิษย์ในสำนัก
“พวกมันสองคน!” ฝางจื้อห่าวกล่าว ขณะที่เขาชี้ไปที่ หลิวหมิงเจี๋ยและหลี่เต๋อหยู
“ ท่านอาจารย์ ศิษย์ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม พวกเราไม่ได้ขโมยวิชากำลังภายในของศิษย์พี่ฝาง แต่ศิษย์พี่ฝางนั้นสงสัยพวกเรา และได้ค้นหาสิ่งของบนเตียงของศิษย์หลิวหมิงเจี๋ย และไม่พบคัมภีร์ลับใด ๆ เห็นได้ว่าศิษย์พี่ กำลังใส่ร้ายเราสองคน
” เมื่อเห็น ฝางจื้อห่าวกล่าวหาพวกเขาอย่างผิด ๆ หลี่เต๋อหยู จึงรีบอธิบายให้ อาวุโสหวงเข้าใจเหตุการณ์
“ อย่างนั้นหรือ?” อาวุโสหวง กล่าว ขณะที่เขามองไปที่ ฝางจื้อห่าว
“ใช่ มันเป็นแบบนั้น” การถูกจ้องมองโดย อาวุโสหวง ทำให้ ฝางจื้อห่าวขาดความมั่นใจ แต่เดิมเรื่องนี้ นั้นหลิวหมิงเจี๋ยและ หลี่เต๋อหยู ไม่ได้เป็นคนทำตั้งแต่แรก ดังนั้นเขาจึงรู้สึกผิดโดยธรรมชาติ และตอนนี้ อาวุโสหวง ยังคงจ้องมองเขาอยู่อีก ทำให้เขายิ่งลังเลใจ
“ อย่างไรก็ตาม คัมภีร์ฝึกฝนกำลังภายใน จะต้องถูกซ่อนไว้โดยคนทั้งสองคนแน่นอน!” ฝางจื้อห่าวตะโกนโดยไม่ยอมแพ้
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?” อาวุโสหวง ไม่ใช่คนธรรมดา เขาจึงไม่หลงกลคำพูดของ ฝางจื้อห่าว”เจ้าเห็นทั้งสองคนขโมยคัมภีร์ลับของเจ้า ด้วยสายตาตนเองหรือไม่?”
“ ไม่ขอรับ” ฝางจื้อห่าวกล่าว เขาใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายกับสหาย ศิษย์พี่ และศิษย์น้อง ดังนั้นฝางจื้อห่าวไม่มีเวลากลับมาที่นี่ เขาไม่กล้าพูดว่า ตนเองได้เห็นมันด้วยตาของเขาเอง
“ แล้วทำไมเจ้าถึงแน่ใจขนาดนั้น?” อาวุโสหวง ด่าเขาเสียงดัง ไม่มีหลักฐานใด ๆ แต่พูดอย่างหยิ่งยโส ราวกับว่าเขาได้เห็นมันด้วยตาของเขาเอง
“โปรดยกโทษให้ศิษย์ด้วย….ยกโทษให้ศิษย์!” เมื่อเห็นว่า อาวุโสหวงนั้นโกรธ ฝางจื้อห่าวจึงไม่กล้าที่จะกล่าวหาหลิวหมิงเจี๋ย และ หลี่เต๋อหยู อย่างผิด ๆ ต่อไป ตอนนี้เขาต้องแก้ปัญหาของตัวเอง
“เจ้าควรรู้ว่าสำนักของเรา ให้ความสำคัญกับ ศิลปะการฝึกฝนกำลังภายในมากแค่ไหน? ดังนั้นข้าจะให้เวลาเจ้าหนึ่งคืน
หากยังไม่พบ ศิลปะการฝึกฝนกำลังภายในของสำนัก ภายในเช้าวันพรุ่งนี้ อย่าหาว่าข้าไม่เตือน!” อาวุโสหวงกล่าว.
“ขอรับ ศิษย์จะหามันให้พบแน่นอน” ฝางจื้อห่าวสัญญา
ผู้อาวุโสหวงพยักหน้า ก่อนจะหันไปหาศิษย์คนอื่น ๆ “พวกเจ้าต้องร่วมมือกับเขา และช่วยพวกกันหาให้พบ”
“ขอรับ!” ศิษย์พี่อาวุโสมู่ หลิวหมิงเจี๋ย หลี่เต๋อหยู และคนอื่น ๆ ทุกคน ตอบรับด้วยความเคารพ
หลังจากนั้น อาวุโสหวง ก็จากไป และ ฝางจื้อห่าวยังคงค้นหาศิลปะกำลังภายใน อย่างไม่หยุดยั้ง ส่วนเหลือ ศิษย์คนอื่นๆ ต่างก็มาช่วยเขาค้นหาคัมภีร์ด้วยเช่นกัน ด้วยจำนวนผู้คนมากมายที่นี่ พื้นที่ให้ค้นหากจึงเหลือไม่มากนัก ดังนั้นพวกเขาสามารถค้นหาทุกที่ โดยไม่มีมุมใดที่เล็ดลอดสายตาออกไป แต่ก็ยังไม่พบร่องรอยของศิลปะกำลังภายใน แม้แต่น้อย!
มันจบแล้ว!
ฝางจื้อห่าวนั่งลงบนเตียง ด้วยใบหน้าซีดเซียว หลังจากที่คนอื่นค้นหาเสร็จ พวกเขาก็ล้างตัว และล้มตัวลงนอน แต่ฝางจื้อห่าวนั้นนอนไม่หลับ ถ้าเขาไม่พบคัมภีร์ศิลปะกำลังภายใน ก็เป็นไปได้ว่า คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายของเขาที่นี่