ตระกูลซุนไม่ได้สร้างปัญหา แต่เย่เทียนยังคงไม่ลดความระมัดระวังลง
ที่ผ่านมาเขาได้สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลซุน หลังจากเข้าใจแล้วเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับว่าตระกูลซุนนั้นแข็งแกร่งจริงๆ
แต่สําหรับเย่เทียนแล้วตระกูลซุนเป็นเหมือนค่าประสบการณ์
ใช่ พวกมันคือค่าประสบการณ์
เพราะนักรบหลายคนในตระกูลซุนมีพรสวรรค์ด้านดาบ
เย่เทียนเคยได้ยินมาว่าห่างพ่อแม่มีพรสวรรค์พิเศษแบบเดียวกัน ลูกของพวกเขาก็จะมีโอกาสได้รับพรสวรรค์พิเศษประเภทนั้นๆเช่นกันแต่เขาก็ไม่คิดว่าตระกูลซุนจะบ้าจนถึงขั้นแต่งงานกันเองภายในเครือญาติเพื่อคงสายเลือดที่บริสุทธิ์ไว้
“พรสวรรค์ในการบ่มเพาะของเราอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว การจะคัดลอกพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงอีกมันไร้ประโยชน์ มิสู้คัดลอกพรสวรรค์ด้านดาบของตระกูลซุนต่อไปดีกว่าบางทีมันอาจ จะทําให้พรสวรรค์ด้านดาบของเราพัฒนาขึ้นและอาจจะถึงขั้นยกระดับกลายเป็นพรสวรรค์ด้านดาบระดับสูงได้สําเร็จ!”เย่เทียนตัดสินใจ
อีกยี่สิบวันผ่านไป เย่เทียนก็หาโอกาสได้ในที่สุดในขณะที่ซุนเฟิงกําลังเดินเล่นอยู่เขาก็แอบคัดลอกพรสวรรค์ด้านดาบระดับกลางของมัน
น่าเสียดายที่การผสานการคัดลอกครั้งนี้ไม่ได้ทําให้พรสวรรค์ด้านดาบของเย่เทียนเพิ่มขึ้น
หนึ่งเดือนผ่านไป เย่เทียนพบเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ด้านดาบระดับกลางจากตระกูลซุนอีกครั้งอีกฝ่ายยังอายุไม่ถึงสิบห้าปีและยังไม่ได้เริ่มฝึกฝนแต่พรสวรรค์ด้านดาบของมันก็สามารถคัดลอกได้
หลังจากคัดลอกพรสวรรค์ด้านดาบระดับกลางของฝ่ายตรงข้ามได้สําเร็จเย่เทียนก็ยกระดับพรสวรรค์ด้านดาบของเขาได้สําเร็จ
พรสวรรค์ด้านดาบ: ระดับสูง
เย่เทียนรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อมองไปที่พรสวรรค์ด้านดาบระดับสูง
ในเมื่อมีพรสวรรค์ด้านตามระดับสูงแล้ว เขาก็จะสามารถฝึกฝนทักษะดาบระดับทองแดงได้ไปจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบ
เมื่อทักษะดาบระดับทองแดงถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว พลังการต่อสู้ของเขาจะเปลี่ยนไปราวกับพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน
แต่การจะบรรลุทักษะดาบระดับทองแดงขั้นสมบูรณ์แบบนั้น ต้องบรรลุถึงขอบเขตเจตจํานงแห่งดาบ
ในอดีตเนื่องจากข้อจํากัดของทักษะดาบ เขาติดอยู่ในขอบเขตที่พลังดาบขั้นสมบูรณ์และไม่สามารถเข้าใจเจตจํานงแห่งดาบได้แม้แต่นิดเดียว
แต่ตอนนี้พรสวรรค์ด้านดาบของเขาได้ยกระดับขึ้นแล้ว เขาจะต้องสามารถสัมผัสได้ถึงเจตจํานงค์แห่งดาบได้อย่างแน่นอน
“มาเริ่มกันเลย!”
เย่เทียนหยิบดาบและนั่งขัดสมาธิพยายามทําความเข้าใจเจตจํานงแห่งดาบ
ฮัมมมม!!!!
ในโลกแห่งความคิดของเย่เทียน ดาบในมือของเขาดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมาจริงๆและมันก็ดึงเขาเข้าสู่โลกที่มหัศจรรย์
มันคือโลกของดาบ!
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ จู่ๆ เย่เทียนก็สัมผัสถึงมันได้ ความเข้าใจเกี่ยวกับดาบของเขาพัฒนาขึ้นอีกระดับ
ทันใดนั้น
เจตจํานงแห่งดาบปรากฏขึ้นบนร่างของเย่เทียน
เจตจํานงแห่งดาบก็คือเจตจํานงของดาบ มันเป็นการรวบรวมพลังดาบจนถึงขีดสุดภายใต้ความเข้าใจของขอบเขตดาบมันได้หลอมรวมกลายเป็นเจตจํานงแห่งดาบ
ในตอนนี้ ในที่สุดเย่เทียนก็เข้าสู่หนทางแห่งดาบที่แท้จริง และเริ่มเข้าใจเจตจํานงแห่งดาบแม่ว่ามันใจยังอ่อนแออยู่ก็ตามแต่ก็นับได้ว่าเขาเข้าสู่ขอบเขตเจตจํานงแห่งดาบแล้วจริงๆ
ไม่กี่วันถัดมา เย่เทียนทุ่มเทเวลาทั้งหมดเพื่อทําความเข้าใจเจตจํานงแห่งดาบส่วนการฝึกฝนอื่นๆ ก็วางมันลงก่อนชั่วคราว
เพราะในแง่ของระดับการบ่มเพาะเย่เทียนนั้นก้าวเข้าสู่นักรบชั้นยอดขั้นสูงสุดแล้วความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้นั้นสูงถึง 100,000 จิน เขาสามารถทะลวงผ่านกลายเป็นนักรบผู้เชี่ยวชาญ ได้แล้ว
แต่เย่เทียนยังไม่เลือกทําเช่นนั้นในตอนนี้ เพราะความก้าวหน้าของเขารวดเร็วเกินไป
แม้ว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายจะถึงขีดจํากัดของนักรบชั้นยอดแล้วแต่การขัดเกลาร่างกายยังไม่สําเร็จจนถึงขั้นสมบูรณ์
เย่เทียนเตรียมจะขัดเกลาผิวหนัง เนื้อ กระดูก และเลือดอีกครั้งเพื่อทําให้รากฐานของเขามั่นคงยิ่งขึ้นเขาเชื่อว่าการทําเช่นนั้นย่อมส่งผลดีอย่างแน่นอนมิเช่นนั้นหากมีรากฐานที่ไม่มั่นคงการฝึกฝนในอนาคตมันจะอยากล่ามากยิ่งขึ้น
ห้าวันผ่านไป
เย่เทียนเสร็จสิ้นการเก็บตัวฝึกฝนเพื่อทําความเข้าใจเจตจํานงแห่งดาบ
“เจตจํานงแห่งดาบหนึ่งส่วนนับว่าไม่เลวเลย!”
เย่เทียนสูดหายใจเข้าลึก
ขอบเขตเจตจํานงแห่งดาบมีการแบ่งแยกรายละเอียดเป็นล่าดับขั้น ตั้งแต่เจตจํานงแห่งดาบหนึ่งส่วนไปจนถึงเจตจํานงแห่งดาบสิบส่วน 1 ถึง 3 ส่วนเรียกว่าเป็นส่วนแรก 4 ถึง 7 ส่วนเรียกว่าเป็นส่วนกลาง 7 ส่วนขึ้นไปเรียกว่าเป็นส่วนปลายเมื่อครบ 10 ส่วนเมื่อใดจึงจะนับว่าเป็นขั้นสมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตามการทําความเข้าใจเจตจํานงแห่งดาบนั้นยากเย็นแสนเข็น ถึงแม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์ด้านดาบระดับสูงแต่การที่จะยกระดับเจตจํานงดาบอย่างรวดเร็วนั้นไม่มีทางเป็นไปได้
เห็นได้ชัดว่าหลังจากเย่เทียนสามารถสัมผัสได้ถึงถึงระดับเจตจํานงดาบได้หนึ่งส่วนความเร็วในการทําความเข้าใจของเขาช้าลงมาก
สําหรับเขาในตอนนี้ การบรรลเจตจํานงดาบอย่างเต็มกําลังนั้นไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไปเจตจํานงแห่งดาบเพียงหนึ่งส่วนเดียวจึงเพียงพอแล้ว
“งั้นเปลี่ยนเป็นฝึกทักษะดาบระดับทองแดงเงาสังหารและฟาดฟันวายุคราม!”
เย่เทียนตัดสินใจ
ทักษะดาบระดับทองแดงทั้งสองนี้เขาได้บรรลุถึงขั้นเชี่ยวชาญแล้วอีกเพียงก้าวเดียวเขาก็จะสามารถบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์แบบ
ตอนนี้เขาเองสามารถทําความเข้าใจเจตจํานงแห่งดาบสําเร็จแล้วขอบเขตความสําเร็จขั้นสมบูรณ์แบบไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
ใช้เวลาเพียงวันเดียวในการฝึกฝนทักษะเงาสังหารเพื่อเลื่อนขั้นไปสู่ขั้นสมบูรณ์แบบ
หลังจากนั้นอีกครึ่งวันทักษะดาบฟาดฟันวายุครามก็ถึงขั้นสมบูรณ์เช่นกัน
ถึงตอนนี้ เย่เทียนได้เชี่ยวชาญทักษะดาบระดับทองแดงทั้งสองอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
วันนี้เย่เทียนจึงเริ่มทดสอบพลังในการต่อสู้ของเขา
“ความแข็งแกร่งของร่างกายของเราถึง 100,000 จินแล้ว ด้วยพรสวรรค์ความแข็งแกร่งระดับสงเราสามารถเพิ่มพลังถึง 1 ล้านจิน ซึ่ฃึงเทียบเท่ากับพลังสูงสุดของนักรบผู้เชี่ยวชาญ หากเพิ่ม พลังโจมตีด้วยทักษะดาบฟาดฟันวายุครามที่เพิ่มขึ้นหกเท่าก็เท่ากับพลังหกล้านจินซึ่งเทียบเท่ากับพลังโจมตีของปรมาจารย์อีกทั้งพลังโจมตีของปรมาจารย์ทั่วไปยังด้อยกว่าเรานอกจากนี้ ความเร็วของเรายังสูงถึง 12 เท่าของความเร็วเสียงซึ่งเกินขีดจํากัดของนักรบผู้เชี่ยวชาญและมันก็ควรจะเทียบเท่ากับความเร็วของระดับปรมาจารย์”
เย่เทียนเดาว่านอกจากการป้องกันของเขาจะอ่อนแอ ความสามารถในทุกๆด้านของเขาในตอนนี้เทียบเท่ากับระดับปรมาจารย์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการป้องกันของเขาจะอ่อนแอ แต่เขาก็มีพรสวรรค์ในการรักษาระดับสูงสุดแม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บจากการป้องกันที่อ่อนแอแต่ก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
“ต่อให้ต่อสู้กับปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งจริง ข้าก็จะไม่อ่อนแอกว่าแม้แต่ครึ่งส่วน!”
เย่เทียนพึมพําอย่างมั่นใจ
แน่นอน
จนถึงตอนนี้เย่เทียนยังไม่พบพรสวรรค์ด้านการป้องกันที่เหมาะสม หากเขาพบมันมันจะช่วยจะชดเชยข้อบกพร่องนี้ได้อย่างแน่นอน
“จากการคํานวณ อีกหนึ่งเดือนข้าจะสามารถปรับแต่งร่างกายได้จนถึงขีดสุดตอนนั้นขาสามารถเลื่อนขั้นเป็นนักรบผู้เชี่ยวชาญได้อย่างสบายใจ!”
เย่เทียนคิดอย่างคาดหวังว่าถ้าเขาเลื่อนขั้นเป็นนักรบผู้เชี่ยวชาญ พลังการต่อสู้ของเขาจะเพิ่มขึ้นถึงระดับไหนเขากลัวว่าแม้แต่ปรมาจารย์หลายคนก็ไม่สามารถทนต่อการโจมตีของเขาได้
ณ ตระกูลซุน
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ธุรกิจของตระกูลฮุนได้เริ่มขึ้นไม่เพียงแต่ซื้อร้านค้าจํานวนมากเท่านั้นแต่ยังเปิดช่องทางการจัดหาทรัพยากรทั้งหมดซึ่งถือได้ว่าพวกเขาได้อย่างรากลึกลงในฐานหลินไห่แล้ว
ซุนเฟิงไม่สามารถรอได้อีกต่อไปมันรีบเข้าพบผู้เป็นพ่อของมัน ซุนชิงเหอในทันที
“ท่านพ่อ เวลานี้สามารถลงมือกับเย่เทียนได้หรือยัง?”
ซุนเฟิง ถามอย่างร้อนรน
“อีกสามวันข้าจะสังหารเย่เทียนด้วยตัวเอง!”
ซุนชิงเหอให้คํามั่น
“ขอบคุณท่านพ่อ!”
ซุนเพิ่งรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขาเริ่มจินตนาการถึงจุดจบของเย่เทียนและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา