ะกูลเย่ว
เมื่อเย่เทียนตามผู้คุ้มกันนักรบชั้นยอดมาถึงที่นี่และเห็นที่พักของตระกูลเย่วเขาก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
ตระกูลเย่วครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่ มีอาคารสูงใหญ่มากมายภายใน และยังมีคฤหาสน์รูปแบบโบราณมีผู้ฝึกยุทธจํานวนมากเดินไปมาและพวกเขาล้วนแต่เป็นนักรบชั้นยอด
ตระกูลเย่วยังมีนักรบผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนที่สวมชุดเกราะถือหอกยาวที่กําลังลาดตระเวนเหมือนทหารในยุคโบราณถ้าไม่ใช่เพราะคําเชิญเย่เทียนคงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในตระกูลเย่ว
ตลอดทาง
เย่เทียนใช้พรสวรรค์ในการคัดลอกเพื่อดูพรสวรรค์ของคนตระกูลเย่ว คนเหล่านี้ส่วนใหญ่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับกลาง!
พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับกลาง!
พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับเริ่มต้น!
พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูง!
เย่เทียนมองสังเกตุอย่างละเอียดแน่นอนว่าตระกูลเย่วมีคนธรรมดาอยู่ไม่น้อย
สําหรับผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงตระกูลเย่วมีไม่มากนัก เห็นได้ชัดว่าพรสวรรค์ระดับสูงเป็นพรสวรรค์ที่ดีในตระกูลเย่ว แต่เย่เทียนกลับไม่เห็นแม้แต่อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงสุด
ไม่ใช่ว่าไม่มี เพียงแต่เขาไม่ได้เจอมัน
“คุณหนู เย่เทียน มาถึงแล้ว!”
ผู้คุ้มกันที่นําทางชี้ไปยังพื้นที่ว่างที่อยู่ไม่ไกลและกล่าว
ที่ตรงนั้นมีผู้คนกว่า 20 คนรวมตัวกันอยู่ มีชายหนุ่มมากกว่า 10 คน ชายวัยกลางคนอีก 6-7 คนและชายชราอีกคนหนึ่ง
“เย่เทียน คุณมาแล้ว!”
เย่วหลิงเดินเข้ามาและกล่าว
“อื้ม!”
เย่เทียนพยักหน้าเล็กน้อย
ในเวลานี้เขาสัมผัสได้ถึงสายตาที่ให้ความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์จ้องมองมายังเขา
เย่วหลิงสังเกตเห็นสายตาของเย่เทียน ดังนั้นเธอจึงเดินเข้ามาและกระซิบว่า”ฉันให้โควต้ากับคุณมันจึงทําให้สมาชิกในตระกูลหลายคนไม่พอใจเล็กน้อยแต่คุณไม่จําเป็นต้องสนใจพวกเขา”
เย่เทียนพยักหน้าเบาๆ
เพียงนักรบผู้เชี่ยวชาญไม่กี่คนเท่านั้น เย่เทียนไม่เห็นพวกมันอยู่ในสายตาเลย
นอกจากนี้ในหมู่พวกเขาคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดเป็นเพียงพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงเท่านั้นสําหรับพรสวรรค์พิเศษของคนเหล่านี้ค่อนข้างแย่พวกเขาต้อยกว่าเย่วหลิงมากหากเป็น พรสวรรค์ระดับหลุดพ้นเขาอาจจะให้ความสําคัญกับมันอยู่บ้าง
ในเวลาเดียวกันในเวลานี้ ชายชราก็มองไปยังทุกคนและกล่าวว่า
“ในเมื่อมากันครบแล้ว ก็เตรียมตัวออกเดินทางกันเถอะ!”
ตูม!!!!
เรือเหาะปรากฏขึ้นกลางอากาศ
ฉากนี้ทําให้เย่เทียนตกตะลึง
ชายหนุ่มจากตระกูลเย่วที่เห็นท่าทางของเยเทียนเขาเบ้ปากอย่างเหยืดหยามและกล่าวว่า”เจ้านกน้อยจากฐานขนาดเล็กคงไม่เคยเห็นเรือเหาะมาก่อนล่ะซิ?ตระกูลเย่วของเรามีเรือเหาะแบบทั้งหมด 10 ลํา”เมื่อถูกคนอื่นดูถูกเช่นนี้ถ้าเย่เทียนไม่ตอบโต้ล่ะก็ ไม่เท่ากับว่าเขาหวาดกลัวพวกมันหรอกหรือ?
“ตระกูลเย่วมีเรือเหาะ 10 ล่า แต่เจ้ามีหรือไม่? รอให้เจ้ามีมันเป็นของตัวเองค่อยพูดคํานี้ออกมามิเช่นนั้นก็หุบปากซะ!”
เย่เทียนถาม
คนที่กล่าวออกมาก่อนหน้านี้เมื่อได้ยินคําพูดของเย่เทียนเขาถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรให้เขาตอบว่าเรือเหาะพวกนี้เป็นของเขาอย่างนั้นหรือ?
เขากล้าพูดแบบนั้นไหม?
แน่นอนเขาไม่กล้า เพราะเรือเหาะเห็นวายุเป็นของตระกูลเย่ว ไม่ใช่ของเขา
“ฮั่ม เขตแดนลับนั้นง่ายต่อการเข้าไป แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะกลับออกมา ข้าไม่ต้องการให้พี่หลังเสียโควต้าไปโดยเปล่าประโยชน์!”
ชายคนนั้นพึมพําด้วยเสียงเบา
“วางใจเถอะ ใครจะตายก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ข้า!”
เย่เทียนหัวเราะ
“เอาล่ะ หนุ่มน้อยอย่าได้โกรธขนาดนั้นเลย!”
ชายชราจ้องมองเย่เทียนและชายหนุ่มคนนั้น ด้วยแรงกดดันที่แผ่ซ่านออกมา
ทันใดนั้น รุ่นเยาว์จากตระกูลเย่วก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก เย่เทียนก็เงียบลงเช่นกันดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
“ตาแก่นี่แข็งแกร่งมาก!”
เย่เทียนแอบตกใจ
เขาตรวจสอบข้อมูลของชายชราทันที
[มนุษย์: เย่วเฟิง
พรสวรรค์ในการบ่มเพาะ : สุดยอด
พรสวรรค์ด้านดาบ : ระดับเริ่มต้น]
ชายชราเย่วเฟิงมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสุดยอดและพรสวรรค์ด้านดาบระดับเริ่มต้นเมื่อพิจารณาจากอายุของเย่วเฟิง เขาคงฝึกฝนมาอย่างยาวนานบางทีเขาอาจอยู่ในจุดสูงสุดของ ระดับปรมาจารย์
พลังต่อสู้ของเขาคงจะไกลเกินกว่าจะจินตนาการ ไกลเกินกว่าที่เย่เทียนจะเทียบได้
“ขึ้นไป!”
เย่วเฟิงพูดเบาๆ
ครื้นนนน!
ประตูห้องโดยสารของเรือเหาะเหินวายุเปิดออก
ผู้ฝึกยุทธคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนอากาศและเข้าไปในเรือเหาะทันที
เย่เทียนและเย่วหลังก็ขึ้นตามไปพร้อมกัน
พื้นที่ภายในของเรือเหาะเหินวายุนั้นไม่เล็กเลย มีที่นั่งเพียงพอที่จะจุคนมากมายเย่เทียนและเย่วหลิงหาที่นั่งที่อยู่ติดกัน
“เย่วหลิง เรือเหาะเหินวายุน่าจะสร้างขึ้นมาด้วยข่ายอาคมใช่ไหม?”
เย่เทียนถามด้วยความสงสัย
“อืม! เรือเหาะเหินวายุถูกสร้างขึ้นจากค่ายกลลอยฟ้าและค่ายกลอื่นๆ วัสดุในการสร้างเรือเหาะวายุนั้นหายากมากดังนั้นราคาของเรือเหาะจึงแพงมากเช่นกันหากวัดค่าของมันด้วยเงินมันจะมีมูลค่าหลายหมื่นล้านหยวน!” เย่วหลิงอธิบาย
“ฟู”
เย่เทียนรู้สึกประหลาดใจกับราคาของเรือเหาะเหินวายุ
ในเวลาเดียวกันเย่วหลิงก็กล่าวต่อว่า “ในความเป็นจริงไม่มีใครอยากขายเรือเหาะวายุคุณรู้หรือไม่ว่าความเร็วสูงสุดของเรือเหาะวายนั้นเร็วขนาดไหน?”
“เท่าไหร่?”
เย่เทียนแสดงท่าทางอยากรู้
“เร็วกว่าความเร็วเสียง 100 เท่า!”
เย่วหลิงกล่าวอย่างจริงจัง
“เร็วกว่าความเร็วเสียง 100 เท่า!”
เย่เทียนตกตะลึง นี่มันเร็วเกินไปแล้ว! ในชาติที่แล้วเครื่องบินรบของกองทัพที่เรียกได้ว่ามีความเร็วเหนือเสียง หากเทียบกันแล้วมันเป็นเพียงแค่เศษสวะเมื่ออยู่ต่อหน้าเรือเหาะเห็นวายุ
“แน่นอน หากเปิดใช้งานความเร็วเหนือเสียง 100 เท่า มันมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ต้องใช้หินปราณซึ่งมีราคาแพงมาก!”
เย่วหลิงอธิบายหินปราณให้เย่เทียนฟัง
หินปราณถูกสร้างขึ้นจากการรวมตัวของปราณปฐมแห่งฟ้าดิน และต้องถูกหล่อเลี้ยงจากพลังปราณเป็นเวลากว่าร้อยปีดังนั้นจึงมีหินปราณไม่มากนักการจะหาหินปราณได้สักก้อนนั้นยากเย็นแสนเข็น ดังนั้นหินปราณจึงแทบจะหาซื้อไม่ได้ในตลาดทั่วไป
มันเป็นสิ่งของที่ล้ําค่ามากหากไม่มีมันเรือเหาะวายก็ไร้ประโยชน์ ต่อให้มันอาศัยพลังปราณจากสวรรค์และปฐพีความเร็วในการบินก็จะช้ามาก
ดังนั้นการใช้เรือเหาะวายุจึงเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรอย่างแท้จริง
แม้แต่ตระกูลเย่วก็ไม่กล้าเสียหินปราณเปิดใช้งานความเร็วเหนือเสียง 100 เท่า
และครั้งนี้ตระกูลเย่วใช้เรือเหาะวายุและเปิดใช้งานความเร็วเหนือเสียงเพียง 10 เท่าเท่านั้น 360
แต่ความเร็วแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะมันบินอยู่บนอากาศไร้ซึ่งอุปสรรคใดๆ สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างเต็มกําลังโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง
หากอยู่บนพื้นดิน แม้แต่จอมยุทธระดับปรมาจารย์ก็ไม่กล้าที่จะเพิ่มความเร็วให้ถึง 10 เท่าของความเร็วเสียงตามใจชอบเราะนั่นจะทําให้เกิดปัญหาตามา
ภายใต้ความเร็วของเรือเหาะเหินวายทําให้ถึงจุดหมายปลายทางอย่างรวดเร็ว
“ออกไปได้แล้ว!”
เสียงของเย่วเฟิงดังเข้ามาในหูของทุกคน
เมื่อประตูห้องโดยสารเปิดออก นักรบผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลเย่วก็กระโดดออกไปและเย่เทียนก็กระโดดออกไปเช่นกัน
ที่ด้านล่างเป็นภูเขาขนาดใหญ่ เย่เทียนและตระกูลเย่วกระโดดขึ้นไปบนที่ราบบริเวณหนึ่งของภูเขา !
ครื้นนน!
เรือเหาะเหินวายุขนาดใหญ่หายไปอย่างรวดเร็ว
ณ จุดนี้เอง
เย่เทียนเห็นชัดๆ ว่าเรือเหาะเหินวายหายไปในอากาศที่ว่างเปล่า
“เย่วเฟิงต้องมีอุปกรณ์เก็บของขนาดใหญ่อยู่ในมือแน่!”
เย่เทียนพึมพําด้วยความอิจฉา
เขาเองก็อยากได้ของสะดวกสบายเช่นนี้เหมือนกัน แต่เสียดายที่เขาไม่มีทางซื้อมันได้ในตอน
“เราควรจะถามเย่วหลังว่าเธอสามารถหาซื้อกระเป๋ามิติเก็บของให้เราได้หรือไม่?”
เย่เทียนแอบคิด
“คนอื่น ๆ ก็มาแล้ว!”
เย่วหลิงกล่าวเสียงเบา
เย่เทียนมองออกไป และเห็นผู้ฝึกยุทธคนหนึ่งลงมาจากเรือเหาะเห็นวายุบนยอดเขาในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเรือเหาะเหินวายุกว่า 40 ลําก็มาถึง
และมีนักรบผู้เชี่ยวชาญเกือบ 1,000 คน