“ท่าลายขีดจํากัดแล้วเราจะทําลายมันได้ยังไง?” เย่เทียนขมวดคิ้ว
เขาต้องการที่จะสร้างรากฐานที่สมบูรณ์แบบ แต่ราชันย์ฉีฟงเองก็บอกว่าแม้แต่ผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้นก็ยังยากที่จะสร้างรากฐานที่สมบูรณ์แบบได้อย่างน้อยก็แทบจะไม่มีใครสามารถทําลายขีดจํากัดของร่างกายเพื่อการสร้างรากฐานที่สมบูรณ์แบบได้
วิธีการน่าจะมีอยู่ในฐานทัพระดับสุดยอด แต่แน่นอนมันต้องเป็นความลับที่ไม่ได้ถูกส่งต่อกันง่ายๆ
เย่เทียนยังคงอ่านข้อมูลต่อไป และดูเหมือนว่าราชาฉีฟงจะบันทึกข้อมูลทฤษฎีที่ดูเหมือนจะเป็นไปได้
“อย่างแรกคือการใช้สมบัติสวรรค์หายากมากมายเพื่อช่วยทําลายขีดจํากัดของร่างกายทั้งหมด แต่วิธีนี้มันจะฟุ่มเฟือยเกินไป แม้แต่ระดับราชาก็อย่าหวังว่าจะสร้างอัจฉริยะที่มีรากฐานที่สมบูรณ์แบบได้ด้วยวิธีนี้”
“อย่างที่สองคือการใช้พรสวรรค์เพื่อทําลายขีดจํากัด การขัดเกลาผิวหนังสอดคล้องกับพรสวรรค์ด้านการป้องกัน การขัดเกลากล้ามเนื้อสอดคล้องกับพรสวรรค์ด้านพละกําลัง การขัดเกลากระดูกจะสอดคล้องกับพรสวรรค์ประเภทกระดูกการขัดเกลาเลือดจะสอดคล้องกับพรสวรรค์ประเภทโลหิต ส่วนอวัยวะภายในมีความซับซ้อนยากที่จะมีพรสวรรค์ที่สอดคล้องกัน แต่อาจจะสามารถใช้แรงโน้มถ่วงเพื่อค่อยๆขัดเกลาอวัยวะภายในที่เบาะบางให้แข็งแกร่งขึ้น โดยการทําให้มันบาดเจ็บซ้ําๆและค่อยๆใช้ สมุนไพรบางชนิดในการฟื้นฟู”
เมื่อเย่เทียนเห็นดังนั้นเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
สําหรับคนอื่น ๆ วิธีแรกอาจเป็นไปได้และวิธีที่สองมันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ เพราะคนๆหนึ่งไม่สามารถมีพรสวรรค์มากมายขนาดนั้น แต่เย่เทียนเป็นข้อยกเว้น
เขามีพรสวรรค์ในการคัดลอกและสามารถคัดลอกพรสวรรค์ได้มากมาย
ดังนั้นเขาจึงสามารถลองวิธีที่สองและเพราะสําหรับเขาแล้ววิธีแรกนั้นเป็นเรื่องยากมาก
เขาจึงเลือกวิธีใช้พรสวรรค์เพื่อทําลายขีดจํากัดของร่างกายตามที่ตราบันทึกไว้ข้างต้น
เมื่อคิดได้ดังนั้น เย่เทียนก็หันกลับไปจดจ่อกับบันทึก
“เมื่อสิบปีก่อน อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ด้านโลหิตระดับสูงสุดได้ฝึกฝนในขณะที่เปิดใช้งานทักษะเผาผลาญเลือด ในที่สุดเขาก็สามารถทําลายขีดจํากัดในการขัดเกลาเลือดได้ในระยะเวลาอันสั้น ทําให้เลือดของเขาแข็งแกร่งขึ้น จากที่กล่าวมานี้ ตราบใดที่เขามีพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงสุด และฝึกฝนในขณะที่เปิดใช้งานพรสวรรค์ในการป้องกัน พวกเขาก็จะสามารถทําลายขีดจํากัดของการขัดเกลาผิวหนังได้ เช่นเดียวกับการใช้พรสวรรค์ด้านอื่นๆในการทําลายขีดจํากัดของร่างกาย
เย่เทียนเข้าใจในทันที
แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถลองวิธีนี้ได้ เพราะเขายังไม่มีพรสวรรค์ในการป้องกันระดับสูงสุด พรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับสูงสุด พรสวรรค์สายกระดูกระดับสูงสุด และพรสวรรค์สายโลหิตระดับสูงสุด
เย่เทียนจําเป็นต้องรวบรวมพรสวรรค์ทั้งสี่นี้ก่อนแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหากไม่สามารถทําลายขีดจํากัด ทั้ง 4 ได้แก่ ขัดเกลาผิวหนัง ขัดเกลากล้ามเนื้อ ขัดเกลากระดูก และขัดเกลาเลือด ก็จะไม่สามารถใช้แรงโน้มถ่วงทําลายขีดจํากัดของอวัยวะภายในได้ หากท่าเช่นนั้นร่างกายของเขาจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน
มีเพียงการทําลายขีดจํากัดด้านอื่นๆ ก่อน เพื่อให้ร่างกายทั้งหมดแข็งแกร่ง สมบูรณ์แบบถึงขีดสุดจึงจะสามารถใช้แรงโน้มถ่วง เพื่อทําลายขีดจํากัดของอวัยวะภายใน นี่เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในเชิงทฤษฎีตามบันทึกของราชาฉีฟง!
“ดูเหมือนว่าในอนาคตเราต้องคัดลอกพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงสุด พรสวรรค์ด้านความแข็งแกร่งระดับสูงสุด พรสวรรค์ประเภทกระดูกระดับสูงสุด และ พรสวรรค์ประเภทโลหิตระดับสูงสุด!”
เย่เทียนตัดสินใจ
เขาสามารถคัดลอกพรสวรรค์ได้เพียงเดือนละสองครั้ง ตราบใดที่เขาโชคดี เขาจะสามารถคัดลอกพรสวรรค์ระดับสุดยอดเหล่านี้ได้ จากนั้นเขาจึงจะสามารถสร้างรากฐานที่สมบูรณ์แบบได้ภายในระยะเวลา 1 ถึง 2 ปี
และสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดในตอนนี้ก็คือพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับสูงสุดเพราะพรสวรรค์ด้านพละกําลังของเขานั้นอยู่ในระดับสูงอยู่แล้ว ต่อให้หาพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับสูงสุดไม่เจอ แต่การผสานพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับสูงก็อาจจะหลอมรวมกลายเป็นพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับสูงสุดได้
“ฝึกฝนก่อน เมื่อความแข็งแกร่งของเราเพิ่มขึ้น เราจึงจะสามารถค้นหาพรสวรรค์ได้มากขึ้น!” เย่เทียนคิด
จากนั้นเขาก็หยิบเอาไข่มุกที่บันทึกเคล็ดวิชาลับกายาโลหิตม่วงออกมา
วิชากายาโลหิตม่วงเป็นเทคนิครวบรวมลมปราณระดับสูง หากเข้าน้ํามันมาแทนเทคนิครวบรวมลมปราณระดับกลางความเร็วในการฝึกฝนของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไม่น้อย
ทันใดนั้น พลังจิตของเยเทียนก็แผ่ขยายออกไป หลังจากสาบานเรียบร้อยแล้ว เย่เทียนก็เริ่มอ่านเนื้อหาของวิชากายาโลหิตม่วงทันที
“หม วิชากายาโลหิตม่วงกลับไม่ใช่กระบวนท่าเคลื่อนไหวทั้งหมด แต่แบ่งเป็น หมู่ๆตามระดับการฝึกฝน ”
เย่เทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ปรับแต่งกายาโลหิตม่วง!
ปรับแต่งกล้ามเนื้อโลหิตม่วง!
ปรับแต่งกระดูกโลหิตม่วง!
ปรับแต่งโลหิตม่วง!
สั่นสะเทือนโลหิตม่วง!
ปรับแต่งชีพจรโลหิตม่วง!
ทักษะปรับแต่งร่างกายแต่ละประเภทจะมุ่งไปที่จุดใดจุดหนึ่งของร่างกาย และก่อตัวเป็นทักษะปรับแต่งร่างกายแยกต่างหากซึ่งระดับความซับซ้อนนั้นเกินกว่าเทคนิครวบรวมลมปราณระดับกลางจะเทียบเคียงได้
เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วเย่เทียนก็เริ่มฝึกฝนทักษะกายาโลหิตม่วงทันที ผ่านไปไม่นานเขาก็ได้พบว่าผิวหนังของเขาที่ขัดเกลาไปจนถึงขีดจํากัดก่อนหน้านี้ สามารถขัดเกลาได้อีกครั้ง แต่หลังจากฝึกฝนอีกไม่กี่ครั้ง เขาก็ไม่สามารถขัดเกลามันได้อีกเห็นได้ ชัดว่าผิวหนังของเขาถึงขีดจํากัดแล้ว หากเขาไม่ทําลายขีดจํากัดของร่างกาย เขาจะไม่สามารถปรับแต่งมันได้อีกต่อไป
หลังจากนั้น
เย่เทียนพยายามขัดเกลากล้ามเนื้อ การขัดเกลากระดูก และเลือดอีกหลายครั้งเพื่อให้รากฐานมั่นคงยิ่งขึ้น
ในที่สุดเย่เทียนก็เริ่มสั่นสะเทือนโลหิตม่วง!
สั่นสะเทือนโลหิตม่วงเป็นการใช้การเคลื่อนไหวเพื่อสร้างแรงสั่นสะเทือนที่ส่งผลกับอวัยวะภายในร่างกายซึ่งเป็นกระบวนการเร่งการขัดเกลาอวัยวะภายใน
จากการทดสอบของเย่เทียน ทักษะการสั่นสะเทือนโลหิตม่วงมีผลมากกว่าเทคนิครวบรวมลมปราณขั้นกลางถึง 2 เท่า
“ความแข็งแกร่งของร่างกายเราเพิ่มขึ้นถึง 300,000 จิน เรายังมีโลหิตสัตว์อสูรระดับสูงอยู่มากมาย บวกกับวิชากายาโลหิตม่วงและพรสวรรค์ระดับหลุดพ้นอีกไม่เกิน 1 เดือน เราจะสามารถบรรลุถึงขีดจํากัดของขั้นนักรบผู้เชียวชาญ!”
เย่เทียนประเมิน
หนึ่งเดือนถัดมา เย่เทียนแทบจะไม่ออกไปไหนเลย เขาทุ่มเทฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง
อีกหนึ่งเดือนต่อมา
ระดับการบ่มเพาะของเย่เทียนก้าวหน้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาสูงถึง 680,000 จนแล้ว
เนื่องจากพรสวรรค์ในการคัดลอกสามารถใช้งานได้อีกครั้ง เย่เทียนจึงเดินสํารวจฐานทะเลมารเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็พบพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูง แต่มันไม่ได้เป็นของมนุษย์มันเป็นของสัตว์เลี้ยงระดับสูงของบางคน
นอกจากพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงแล้ว เขายังพบพรสวรรค์สายกระดูกที่ชื่อว่าพรสวรรค์กระดูกเพชร พรสวรรค์กระดูกเพชรนั้นคล้ายคลึงกับพรสวรรค์ด้านการป้องกัน เพียงแต่ว่ามันไม่ได้ป้องกันร่างกาย แต่เป็นการป้องกันกระดูก
เมื่อเปิดใช้งานพรสวรรค์กระดูกเพชร กระดูกของเย่เทียนแข็งแกร่งขึ้นถึงขั้นที่ว่าเขาสามารถใช้นิ้วมือเจาะแผ่นเหล็กได้อย่างง่ายดาย
และต่อให้มีคนทําลายการป้องกันของเขาได้ แต่กระดูกของเขาก็สามารถทานการโจมตีได้อยู่ดีซึ่งสําหรับเย่เทียนแล้วมันเป็นผลที่หน้าพอใจเลยทีเดียว
แต่พรสวรรค์ที่กล่าวมาข้างต้นไม่ได้ช่วยเพิ่มพลังการต่อสู้ของเขา แต่เพื่อสร้างรากฐานที่สมบูรณ์แบบ เขาจึงจําเป็นต้องคัดลอกมัน ตราบใดที่เขาคัดลอกพรสวรรค์ กระดูกเพชรและหลอมรวมพรสวรรค์อีกราว 23 ครั้ง พรสวรรค์กระดูกเพชรระดับสูงของเขาอาจจะสามารถยกระดับกลายเป็นพรสวรรค์กระดูกเพชรระดับสูงสุดได้
หลังจากคัดลอกพรสวรรค์ทั้งสองแล้ว เย่เทียนก็ทุ่มเทให้กับการฝึกฝนต่อไป
เวลาผ่านไปอีกหนึ่งเดือนความแข็งแกร่งของเยเทียนก็ถึงขีดจํากัดของนักรบผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีพละกําลัง – 1 ล้านจิน
เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของเขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อสองเดือนก่อนหลายเท่า
“1 ล้านจนเท่ากับ 1 ชง หากใช้พลังปราณ พลังของเราจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 ช้าง เมื่อใช้พรสวรรค์ด้านพละกําลัง พลังของเราจะเพิ่มขึ้นเป็น 20 ช้าง บวกกับทักษะดาบฟาดฟันวายุครามที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตีขึ้นอีก 6 เท่า พลังการโจมตีสูงสุดที่เราทําได้จะกลายเป็น 120 ชง!”
เย่เทียนคานวณพลังโจมตีของตัวเองและอดไม่ได้ที่จะตกใจ
นักรบผู้เชี่ยวชาญที่มีพลังโจมตี 120 ช้าง
อีกทั้งความเร็วของเย่เทียนก็เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก ตอนนี้เขามีความเร็วเหนือเสียงถึง 120 เท่า
เดิมที่นักรบผู้เชี่ยวชาญจะมีความเร็วเหนือเสียง 6 เท่า แต่ด้วยพรสวรรค์ด้านความเร็วระดับสูงสุด ที่ช่วยทําให้ความเร็วเพิ่มขึ้นถึง 20 เท่า ความเร็วของเขาจึงยกระดับกลายเป็น 120 เท่าของความเร็วเสียง เย่เทียนเชื่อว่าต่อให้เป็นปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดก็มีความเร็วไม่เกินสิบเท่าของความเร็วเสียงในตอนนี้ความเร็วของเขาเป็นรอง แค่ระดับราชาเท่านั้น
“เราได้ฝึกฝนมาจนถึงขีดจํากัดของนักรบผู้เชี่ยวชาญแล้ว ต่อไปถึงเวลาที่ต้องพยายามทําลายขีดจํากัดของร่างกาย!”
ภายในจิตใจของเย่เทียนลุกโชนไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้และความปรารถนา