ผิวหนังเป็นสิ่งแรกที่เขาต้องทําลายขีดจํากัด ดังนั้นเย่เทียนจึงเตรียมคัดลอกและผสานพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงสุด
แต่พรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงสุดพบได้ยากในหมู่มนุษย์ แม้กระทั่งใน ฐานทัพทะเลมารที่มีคนอยู่จํานวนมากก็ไม่มีผู้ใดเลยที่มีพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงหรือพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงสุด คนที่มีพรสวรรค์ด้านการป้องกันที่ดีที่สุดมันก็เป็นเพียงพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับกลางเท่านั้น
ทางกลับบรรดาเหล่าสัตว์อสูร พวกมันมีพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงและ พรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงสุดอยู่ไม่น้อย ซึ่งหาง่ายกว่ามนุษย์มาก
“ครั้งก่อนเราโชคดีที่ได้เจอกับสัตว์อสูรของใครบางคนที่มีพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงในฐานะทะเลมาร แต่หลังจากนั้นเราก็ไม่พบพรสวรรค์ในการป้องกันระดับสูงอีกเลยตอนนี้หากเราต้องการทําลายขีดจํากัดของร่างกายทั้ง 4 ด้าน คงมีแค่หนทางเดียว เราต้องออกจากฐานทะเลมาร!”
เย่เทียนครุ่นคิด
เดิมที่เขาวางแผนที่จะออกจากฐานทัพทะเลมารหลังจากที่บรรลุระดับปรมาจารย์ แล้วแต่ตอนนี้เพื่อที่จะทําลายขีดจํากัดของร่างกาย เพื่อสร้างรากฐานที่สมบูรณ์แบบเขาจําเป็นต้องออกเปลี่ยนแผน
แต่สิ่งที่ทําให้เย่เทียนรู้สึกยินดีก็คือฐานทะเลมารมีองค์ความรู้เกี่ยวกับสัตว์อสูรมากกว่าที่ฐานหลินไห่มาก
สัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์ด้านการป้องกัน สัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์ด้านพละกําลัง สัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์ด้านกระดูกเพชร และสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์เกี่ยวข้องกับเลือดล้วนถูกบันทึกไว้มากมายหลากหลายชนิด
เย่เทียนซื้อข้อมูลเหล่านี้และเตรียมที่จะออกจากฐานทะเลมารและเข้าไปในป่าด้านนอกเร็ว ๆ นี้
ก่อนจะออกไปจากฐานทะเลมาร
เย่เทียนก็กล่าวกําชับเสี่ยวจื่อและเสี่ยวจิน
“พวกเจ้าทั้งสองต้องปกป้องเสี่ยวหยูเข้าใจหรือไม่?”
เสี่ยวจื่อและเสี่ยวจินพยักหน้าซ้ําแล้วซ้ําเล่า ตอบรับคําสั่งของเย่เทียน ด้วยเหตุนี้เย่เทียนจึงเบาใจกว่าเดิมมาก
เนื่องจากเสี่ยวจ่อได้ทะลวงผ่านไปยังระดับสัตว์อสูรชั้นยอดแล้ว ก่อนหน้านี้เนื่องจากนางอยู่ในเขตแดนลับ จึงถูกกฎเกณฑ์ของเขตแดนลับจํากัดเอาไว้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะสามารถทะลวงผ่านระดับสัตว์อสูรชั้นยอดได้ แต่ตอนนี้เมื่อไม่มีกฎเกณฑ์ จำกัดไว้แล้ว นางจึงสามารถทะลวงเข้าสู่สัตว์อสูรชั้นยอดได้อย่างรวดเร็ว
เสี่ยวจินเองมาถึงขีดจํากัดของสัตว์อสูรระดับสูงแล้วเช่นกัน และด้วยพรสวรรค์ด้านความเร็วระดับสูงสุด ทําให้ความเร็วของมันเป็นรองแค่ระดับราชาเท่านั้น
เมื่อเสี่ยวจินและเสี่ยวจื่อร่วมมือกันก็เพียงพอที่จะฆ่าระดับปรมาจารย์ทั่วไปได้ ดังนั้นแค่นี้ก็เพียงพอที่จะปกป้องเหยได้แล้ว
นอกจากนี้ในฐานทัพทะเลมารยังมีกฎที่เข้มงวด ไม่มีใครกล้าสร้างปัญหาขึ้นง่ายๆดังนั้นเย่เทียนจึงไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเย่หยุมากนัก
วันต่อมา
เย่เทียนก็ออกจากฐานทะเลมารตั้งแต่เช้าตรู่ มุ่งหน้าไปยังป่าด้านนอก แต่ในเงามืดปรมาจารย์ 5 คนแอบติดตามเย่เทียนและรักษาระยะห่างตามหลังเขาไป
“ห์!! มีหน 5 ตัว?” เย่เทียนยิ้มออกมาอย่างเย็นชา
เย่เทียนใช้ทักษะการรับรู้มิติและสัมผัสได้ถึงปรมาจารย์ห้าคนที่แอบติดตามเขามาด้านหลัง
เขาคาดเดาไว้แล้วว่าจะต้องมีคนสะกดรอยตามเขามา เพราะในงานประมูลเขาใช้เงินไปถึง 190,000 ล้านหยวน มันจึงได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย
แม้ว่าตอนออกจากงานประมูลเขาจะหลบหนีออกไปได้ แต่หากพวกมันตรวจสอบอย่างละเอียดก็ไม่ยากที่จะพบตัวตนของเขา
“มีผู้คนจํานวนไม่น้อยที่สืบหาที่มาของเรา พวกมันคงจะรู้แล้วว่าเราไม่มีภูมิหลังใดๆและได้รับสมบัติมากมายมาจากเขตแดนลับ พวกมันคงจะคิดว่าเรานั้นเป็นเพียง แกะอ้วนตัวหนึ่งดังนั้นจึงต้องการแอบมาฆ่าเราเพื่อชิงสมบัติในป่าด้านนอก”
เย่เทียนวิเคราะห์
การถูกตามล่าโดยปรมาจารย์ห้าคน หากเป็นนักรบผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ พวกเขาคงจะสิ้นหวังอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่เย่เทียน!
ตอนนี้เขามีสองตัวเลือก ตัวเลือกแรกเขาสามารถใช้ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตา หรือความเร็วเหนือเสียง 120 เท่าเพื่อสลัดปรมาจารย์ทั้งห้าคนได้ แต่หากทําเช่นนั้นพรสวรรค์ด้านความเร็วระดับสูงสุดและพรสวรรค์ด้านมิติของเขาจะถูกเปิดเผย
อีกตัวเลือกคือการสังหารปรมาจารย์ทั้งห้าคน ซึ่งมันเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
หลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เย่เทียนก็ตัดสินใจ
“งั้นก็ฆ่าพวกมันซะ!”
เย่เทียนพึมพํา
ในตอนนี้ยังอยู่ใกล้กับฐานทะเลมารปรมาจารย์ทั้งห้าคนจึงยังไม่คิดที่จะลงมือ เพราะพวกมันกลัวว่าจะเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น ซึ่งเย่เทียนก็ไม่อยากลงมือใกล้กับฐานทัพทะเลมารเช่นกัน
ทั้งสองฝ่ายต่างมีความคิดแบบเดียวกัน และค่อยๆเคลื่อนที่ห่างจากฐานทะเลมารมากขึ้นเรื่อยๆ
“ที่นี่ไม่เลว!”
เย่เทียนมาถึงขอบชายป่าที่หนาทึบ ป่าแห่งนี้ถูกเรียกว่าป่าทะเลเมฆ มันมีขนาดใหญ่กว่าใบไม่โปรยมาก จากข้อมูลที่เขาได้รับป่าแห่งนี้มีสัตว์อสูรชั้นยอดอาศัยอยู่มากมาย อีกทั้งยังมีสัตว์อสูรระดับราชาอีกด้วย
เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด เย่เทียนจึงเลือกที่จะกําจัดหนูทั้งห้าตัวที่ตามเขามาก่อนที่จะเข้าไปในป่าทะเลเมฆ และใช้ที่แห่งนี้เป็นหลุมฝังศพของพวกมัน
ไม่นานปรมาจารย์ทั้งห้าคนก็มาถึง!
“ลงมือ!
ไม่พูดจา ปรมาจารย์ทั้งห้าลงมือลงมือพร้อมกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่ต้องการเสียเวลาอีกแล้ว
ตูม!!!!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวห้าสายถูกปล่อยออกมาส่งผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบแรงกดดันมหาศาลพร้อมกับจิตสังหารแผ่ออกมาจากปรมาจารย์ทั้งห้า
ความเร็วของพวกมันนั้นเพิ่มขึ้นสูงถึง 10 เท่าของความเร็วเสียง ซึ่งเหนือกว่าความเร็วของนักรบผู้เชี่ยวชาญอย่างเทียบไม่ติด เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการล้อมโจมตีเช่นนี้ เกรงว่าแม้แต่หยุนเฟิงอัจฉริยะอันดับหนึ่งของฐานทะเลมารก็ยากที่จะต้านทานการโจมตีที่รุนแรงขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เย่เทียนเป็นอัจฉริยะในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าหยุดเพิ่งหลายเท่าแล้ว
“พวกมดปลวก!”
เย่เทียนตวาดลั่นและลงมือทันที
ภายใต้ความเร็วเหนือเสียง 120 เท่า เย่เทียนก็ฟาดฟันทักษะดาบเงาสังหารออกไป
พรูดดดด!!!
โดยไม่คาดคิดศีรษะของทั้งห้คนลอยขึ้นไปในอากาศ
การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว ปรมาจารย์ทั้งห้าคนถูกเย่เทียนสังหารอย่างง่ายดายราวกับสังหารคนธรรมดา
เย่เทียนหันมองร่างไร้หัวของปรมาจารย์ทั้ง 5 และเดินออกไปค้นศพของพวกมัน
“ไม่เลวเลย ถุงเก็บสมบัติห้าใบ เท่านี้เราก็สามารถเก็บของได้มากขึ้น!”
เย่เทียนหยิบถุงเก็บสมบัติห้าใบและรีบเข้าไปในป่าทะเลเมฆทันที
ครึ่งวันต่อมา
– ชายวัยกลางคนมาถึงเขามองไปยังพื้นที่รอบ ๆ และพบเข้ากับพบศพของห้าปรมาจารย์
“ถูกสังหารในดาบเดียว สามารถฆ่าปรมาจารย์ห้าคนในดาบเดียวได้ หรือว่าเป็นฝีมือของปรมาจารย์ขั้นปลาย?”
ชายวัยกลางคนพึมพําด้วยความตกใจ
เขาเองก็เป็นปรมาจารย์ขั้นปลายเช่นกัน เขารู้ดีว่าปรมาจารย์ขั้นปลายนั้นน่ากลัวมากแค่ไหน และปรมาจารย์ทั้งห้าคนที่ถูกสังหารไปนั้นเป็นเพียงปรมาจารย์ทั่วไป เท่านั้นความแข็งแกร่งของพวกเขามีไม่มากนัก
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ขั้นปลาย ทั้งห้าคนนี้ไม่มีทางที่จะตอบโต้อะไรได้
“บ้าเอ๊ย ตอนแรกข้าคิดว่า แค่นักรบชั้นยอดคนหนึ่งปรมาจารย์ทั้งห้าคนนี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ใครจะคิดว่าพวกมันจะถูกสังหารเช่นนี้ หรือว่าเจ้าเด็กนั่นจะมีปรมาจารย์ขั้นปลายคอยปกป้อง?
ชายวัยกลางคนรู้สึกเสียใจทันที หากรู้แต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ เขาคงจะลงมี อด้วยตนเองไปแล้ว
ตอนนี้เขาต้องสูญเสียลูกน้องไปถึงห้าคน ทรัพย์สินก็ยังไม่ได้อะไรกลับมา นี่เป็นการสูญเสียอย่างมหาศาล
ชายวัยกลางคนมองเข้าไปในป่าทะเลเมฆและถอนหายใจ ตอนนี้เขาทําได้เพียงแค่จําใจยอมแพ้ในการไล่ล่าเย่เทียน
เวลาผ่านไปสักพักแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะตามหาเย่เทียนเจอ เหตุผลที่เขาสามารถหาพิกัดของทั้งห้าปรมาจารย์ได้ก็เพราะเครื่องมือระบุพิกัดที่พวกเขาพกติดตัว
สําหรับการค้นหาเย่เทียน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากยอมแพ้
เมื่อฝังศพของลูกน้องทั้งห้าคนแล้ว ชายวัยกลางคนก็จากไปในทันที
ภายในป่าทะเลมาร
เย่เทียนพยายามค้นหาอยู่เป็นเวลานาน ถึงแม้เขาจะพบกับสัตว์อสูรมากมาย แต่สัตว์อสรที่มีพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงหรือพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงสุดเขากลับไม่พบพวกมันแม้แต่เงา
แต่จากข้อมูลที่เขาได้มามีสัตว์อสูรมากมายในป่าทะเลเมฆ เขาเชื่อว่าเขาจะต้องหาพรสวรรค์ที่เขาต้องการจากที่แห่งนี้ได้อย่างแน่นอน
พลังมิติแผ่กระจายออกไปครอบคลุมรัศมี 5,000 เมตร ทุกอย่างโดยรอบล้วนแต่อยู่ในสายตาของเย่เทียน
ด้วยการบ่มเพาะของเขาที่เพิ่มขึ้นจนถึงขีดจํากัดของนักรบผู้เชี่ยวชาญ ทักษะการรับรู้มิติจึงขยายใหญ่ขึ้นจนสามารถครอบคลุมรัศมี 5,000 เมตร ซึ่งมันกว้างกว่าในอดีตมาก
พริบตาเดียว ห้าวันก็ผ่านไป
ขณะที่เย่เทียนกาลังขมวดคิ้ว สัตว์สูรที่เป็นเป้าหมายของเขาก็ปรากฏตัวขึ้น
“หมีเกราะด!”
เย่เทียนมองไปที่หมีเกราะด่าที่อยู่ห่างออกไปกว่า 4,000 เมตร และยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้น
จากข้อมูลหมีเกราะดํานั้นมีพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงและพรสวรรค์ด้านพละภาลังระดับสูง และยังมันเป็นสัตว์อสูรระดับสูงที่มีความแข็งแกร่งติด 1 ใน 10 ใน บรรดาสัตว์อสูรระดับสูง
“ต้องรีบแล้ว!”
เย่เทียนไล่ตามหมีเกราะด่าไปอย่างรวดเร็ว
เขาจะสามารถคัดลอกได้ก็ต่อเมื่อเข้าใกลระยะ 600 เมตร แม้ว่าพลังการบ่มเพาะของเขาจะเพิ่มขึ้น แต่ขอบเขตของพรสวรรค์ในการคัดลอกก็เพิ่มขึ้นเพียง 100 เมตรเท่านั้น