ความเร็วของเย่เทียนนั้นรวดเร็วมาก เขาเคลื่อนตัวเข้าใกล้หมีเกราะด่าหยุดห่างจากมันในระยะ 500 เมตรจากนั้นก็ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม่ใหญ่เพื่อสงบสติอารมณ์แต่ไม่ได้เผยตัวออกไปล่ามัน
“ต้องคัดลอกพรสวรรค์ของมันก่อน!”
เย่เทียนจําลองพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงของหมีเกราะด้วยและเริ่มหลอมรวมทันที
การผสานพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงไม่นับว่าเจ็บปวดสําหรับเย่เทียนสติของเขายังคงแจ่มชัดแม้ว่าในเวลานี้จะมีสัตว์ร้ายโจมตีเขาแต่เขาก็สามารถตอบโต้ได้ทันท่วงทีโดยไม่มีอันตรายใด ๆ
ราวสิบนาที่ผ่านไป ร่างของเย่เทียนชุ่มไปด้วยเหงื่อ กระบวนการหลอมรวมพรสวรรค์สิ้นสุดลง
“ดูเหมือนว่าอีกนิดเดียว ก็สามารถทําให้พรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงยกระดับกลายเป็นพรสวรรค์ระดับสูงสุดได้ การคาดเดาของเราก่อนหน้านี้น่าจะถูกต้องขอเพียงหลอมรวมพรสวรรค์ด้านการป้องกัน 3 ครั้งมันก็จะยกระดับกลายเป็นพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงสุด!”เย่เทียนพึมพ่า
ในตอนนี้ เขาจําเป็นต้องคัดลอกพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงอีกครั้งจึงจะสามารถยกระดับพรสวรรค์ด้านการป้องกันเป็นระดับสูงสุดได้เมื่อถึงเวลานั้นเขาก็จะสามารถทดลองทําลายขีดจํากัดการขัดเกลาผิวหนัง
“ตามข้อมูลที่ได้รับมาหมีเกราะดําเป็นสัตว์อสูรที่อยู่กันเป็นคู่ ตัวผู้ ตัวเมียหากพบหมีเกราะดตัวผู้ตัวเมียก็น่าจะอยู่ไม่ไกลหากเราพบมันเราจะสามารถคัดลอกพรสวรรค์ด้านการป้องกันของตัวเมียได้อีกครั้ง!”
เมื่อคิดได้ดังนั้นเย่เทียน ก็ใช้ทักษะการรับรู้มิติควานหามีตัวเมีย
ทันใดนั้นเขาก็พบว่าหมีเกราะดตัวผู้ได้วิ่งห่างออกไปราว 400 เมตร และพุ่งเข้าหาสัตว์อสูรงยักษ์ตัวหนึ่ง
สัตว์อสูรยักษ์ตัวนั้นเป็นสัตว์อสูรชั้นยอด แต่ในบรรดาสัตว์อสูรชั้นยอดมันยังนับว่าอ่อนแอแต่ความเร็วของมันก็เร็วกว่ากว่าหมีเกราะด่ามากมันเคลื่อนไหวหลบการโจมตีของหมีเกราะดําและใช้ร่างกายของมันโจมตีสวนกลับ
แต่พลังการโจมตีของงูยักษ์ ไม่ได้สร้างบาดแผลให้หมีเกราะด่าแม้แต่น้อยเพราะหมีเกราะดํามีพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงการโจมตีของอสูรงยักษ์จึงได้ผล
ผลสุดท้ายสัตว์อสูรงยักษ์ก็ถูกหมีเกราะดฉีกกระชากร่างเป็นชิ้นๆเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ
หลังจากนั้นหมีเกราะด่าก็ลากซากศพของสัตว์อสูรงยักษ์ไปในทิศทางหนึ่ง
“สัตว์อสรงยักษ์ตัวนั้นช่างโชคร้าย เป็นถึงสัตว์อสูรชั้นยอดแต่กลับถูกหมีเกราะด่าที่เป็นสัตว์อสูรระดับสูงฆ่าตายหากมันคิดจะหนีหมีเกราะดําคงไล่ตามมันไม่ทันการสู้ระยะประชิดกับหมีเกราะว่าเป็นการรนหาที่ตายอย่างแท้จริง!”
เย่เทียนรู้สึกเห็นใจสติปัญญาของสัตว์อสูรยักษ์ตัวนั้น
“ต้องรีบตามมันไป!”
จากนั้นเขาก็ตามหมีเกราะด้ไปอย่างรวดเร็ว
หมีเกราะด้วิ่งต่อไปหลายสิบกิโลเมตรก่อนที่จะเดินเข้าไปในในถ้ำขนาดใหญ่ที่อยู่บนภูเขา
เมื่อเห็นดังนั้นเย่เทียนก็ไม่ได้ตามเข้าไปเขายืนอยู่นอกถ้ำ และใช้พรสวรรค์ในการคัดลอกตรวจสอบพรสวรรค์ของหมีเกราะดอีกตัวในถ้ำ
[ประเภท: หมีเกราะด่า
พรสวรรค์ทางสายเลือด: ระดับสูง
พรสวรรค์ด้านพละกําลัง: ระดับสูง
พรสวรรค์ในการป้องกัน: ระดับสูง]
“เป็นมีหมีเกราะดตัวเมียจริงๆด้วย!”
เย่เทียนประหลาดใจ
โดยไม่พูดพร้ำทําเพลงเขาจําลองพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงของหมีเกราะตัวเมียทันที
หลังจากการจําลองสําเร็จ เย่เทียนไม่ได้รีบร้อนที่จะผสานมัน แต่เข้าไปในถ้ำหมีเกราะดแทน
“ต้องขอโทษด้วย ข้าเองก็ต้องการพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับสูงของพวกเจ้าเช่นกันแต่ตอนนี้ข้าไม่สามารถคัดลอกพรสวรรค์ระดับสูงของพวกเจ้าได้ได้แต่ฆ่าพวกเจ้าและเก็บศพของพวกเจ้าไว้เท่านั้น!!
เย่เทียนกล่าวพิมพา
เขาไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อยที่ต้องฆ่าสัตว์อสูรเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรแล้วมนุษย์เป็นผู้บริสุทธิ์อย่างแท้จริง
เดิมที่มนุษย์นั้นใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่บนโลก แต่ภายคืนเดียวรอยแตกมิติก็ปรากฏขึ้นสัตว์อสูรจานวนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลออกมาในตอนนั้นไม่รู้ว่ามีมนุษย์จํานวนนับมากแค่ไหนที่ต้องตายภายใต้น้ำมือของสัตว์อสูร
และในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาก็ยังมีคนตายมากมายนับไม่ถ้วน
ดังนั้น
เย่เทียนไม่เคยคิดจะเห็นอกเห็นใจสัตว์อสูรเลยแม้แต่นิด
“ฆ่า!”
การต่อสู้เปิดฉากขึ้นแล้ว
พลังของหมีเกราะด้ไม่แข็งแกร่งเท่าเย่เทียน ความเร็วของมันเชื่องช้าอย่างมากมันถูกดาบของเยเทียนแทงทะลุในพริบตาหัวของพวกมันระเบิดออกกระจัดกระจายในทันที
เย่เทียนมองไปที่ศพของหมีดสองตัวและส่งมันเข้าไปในมิติส่วนตัว
ตอนนี้ด้วยความแข็งแกร่งของระดับการบ่มเพาะ มิติส่วนตัวของเขาขยายใหญ่ขึ้นเป็น 200 ลูกบาศก์เมตร
นอกจากนี้ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเขาได้ไปที่หอยุทธและขายสมบัติออกไปอีกว่านวนมากทําให้มีพื้นที่เพียงพอที่จะรองรับศพของหมีเกราะด่าทั้ง 2 ตัว
หลังจากเก็บศพของหมดแล้ว เย่เทียนก็เริ่มผสานพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงภายในถ้ำของหมีเกราะด่า
“หลอมรวม!”
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาความเจ็บปวดก็ถาโถมเข้ามาในทันที
วินาทีนั้น
เย่เทียนรู้สึกว่าผิวหนังของเขาเหมือนถูกฉีกขาดและสร้างขึ้นใหม่นับครั้งไม่ถ้วนเขารู้สึกเจ็บปวดทรมานแทบจะทนไม่ไหว
การทําให้พรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงกลายเป็นพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับสูงสุดเจ็บปวดยิ่งกว่าที่เย่เทียนจินตนาการไว้แต่เย่เทียนก็กัดฟันและอดทนต่อไป
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เย่เทียนสัมผัสได้ว่าความเจ็บปวดค่อยๆทุเลาลงและแปรเปลี่ยนเป็นกระแสอันอบอุ่นแผ่กระจายออกไปทั่วร่างกาย
“ซัดดด”
เย่เทียนสูดหายใจเข้าลึก และรีบตรวจสอบข้อมูลพรสวรรค์ของเขาทันที
“พรสวรรค์ด้านการป้องกัน:สูงสุด”
เย่เทียนยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อมองไปที่ระดับพรสวรรค์ด้านการป้องกันของเขา
เป้าหมายต่อไปของเขาคือการเปลี่ยนพรสวรรค์ด้านพละกําลังจากระดับสูงให้กลายเป็นระดับสูงสุดและเป้าหมายนี้ก็เกือบจะสําเร็จแล้ว เพราะตอนนี้ในมิติส่วนตัวมีศพของหมีเกราะด่าที่มีพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับสูงอยู่ 2 ตัวอีก 1 เดือนข้างหน้าเขาก็จะสามารถคัดลอกมันได้อีกครั้ง
ในตอนนี้พรสวรรค์ด้านการป้องกันของเขากลายเป็นระดับสูงสุดแล้วเขาสามารถทดลองทําลายขีดจํากัดของการขัดเกลาผิวหนังได้แล้วส่วนจะสําเร็จหรือไม่นั้นทําได้เพียงแค่ลองดูถึงจะรู้
“หวังว่าการคาดเดาของราชาฉีฟงจะถูกต้อง!”
เย่เทียนกล่าวด้วยความหวัง
“พรสวรรค์ด้านการป้องกัน!”
เย่เทียนเปิดใช้งานพรสวรรค์ด้านการป้องกัน พลังป้องกันของเขาเพิ่มขึ้นถึง 20 เท่าแม้แต่ผู้ฝึกยุทธระดับปรมาจารย์ส่วนใหญ่ก็อย่าหวังว่าจะทําลายการป้องกันของเขาได้ง่ายๆ
“ขัดเกลากายาโลหิตม่วง!”
เย่เทียนเคลื่อนไหวที่ละท่าดูดซับพลังปฐมแห่งฟ้าดินจํานวนมากเริ่มกระบวนการขัดเกลาผิวหนังทันใดนั้นเขารู้สึกเจ็บแปลบที่ผิวหนัง
“นี่คือ..”
เย่เทียนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
นี่คือการขัดเกลา! มันเป็นการขัดเกลาผิวหนัง!
ใช่แล้ว!
เขารู้สึกว่าผิวของเขากําลังถูกขัดเกลาอย่างช้าๆซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เขาต้องการเดิมที่ผิวหนังของเขาถูกขัดเกลาจนถึงขีดจํากัดแล้วแต่ตอนนี้มันสามารถขัดเกลาได้อีกครั้งนี่พิสูจน์ให้เห็นว่าการคาดเดาของราชาฉีฟงนั้นถูกต้อง
พรสวรรค์ระดับสูงสุดสามารถช่วยทําลายขีดจํากัดของร่างกายได้!
“แต่ความเร็วเช่นนี้มันยังช่เกินไป หากขัดเกลาด้วยความเร็วเช่นนี้ มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองเดือนกว่าจะทําลายขีดจํากัดของการขัดเกลาได้!”เย่เทียนประเมิน
เมื่อคิดได้ดังนั้นเย่เทียนก็นําเลือดสัตว์อสูรระดับสูงออกมาและดื่มมันในทันทีจากนั้นเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวตามกระบวนท่าของวิชากายาโลหิตม่วงเพื่อขัดเกลาผิวหนังของเขา
ด้วยเหตุนี้ความเร็วในการขัดเกลาของเยเทียนจึงเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นสองเท่า ทํา ให้เขาสามารถทําลายขีดจํากัดการขัดเกลาผิวหนังได้ภายในหนึ่งเดือน
“หนึ่งเดือน!! งั้นเราก็ไม่จําเป็นต้องกลับฐานทะเลมาร อีกอย่างเย่หยูก็โตแล้วถึงเวลาที่จะใช้ชีวิตอย่างอิสระแล้วเราคงไม่สามารถดูแลเธอได้ตลอดไปหรอก!”
หลังจากคิดได้ดังนั้น เย่เทียนก็หันกลับมาจดจ่อกับการฝึกฝนอีกครั้ง
การฝึกฝนของเย่เทียนดําเนินไปอย่างราบรื่นเขาสามารถรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังในทุกๆวันแม้พลังป้องกันของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่รากฐานของเขาน นมั่นคงขึ้นซึ่งเป็นสิ่งสําคัญที่สุด
ในวันที่ 26 ของการฝึกฝนในที่สุดเย่เทียนก็รู้สึกถึงคอขวดของกระบวนการขัดเกลาผิวหนัง
หลังจากกินเลือดสัตว์อสูรระดับสูงลงไปหลายสิบชุด เย่เทียนก็ฝึกฝนวิชากายาโลหิตม่วงเพื่อปรับแต่งผิวหนังอย่างบ้าคลั่งพยายามที่จะทะลวงผ่านคอขวดครั้งแล้วครั้งเล่า
ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่ครั้ง และไม่รู้ว่าใช้เวลาไปเท่าไหร่แล้ว
ในที่สุด
ในขณะที่กําลังทะลวงผ่านอีกครั้ง พลังปราณปฐมแห่งฟ้าดินจานวนนับไม่ถ้วนไหลทะลักเข้าสู่ร่างกายของเยเทียนและได้ขัดเกลาผิวหนังของเขาบรรลุผ่านอุปสรรคสุดท้าย
ในขณะนี้
เย่เทียนสัมผัสได้แล้ว เขาได้ทําลายขีดจํากัดของเขาอย่างสมบูรณ์และได้บรรลุเข้าสู่ขอบเขตใหม่ของการขัดเกลาผิวหนัง