“ตอนนี้เราถึงขีดจํากัดของนักรบผู้เชี่ยวชาญแล้ว เราไม่สามารถทดสอบพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราได้ คาดว่ามันน่าจะส่งผลให้ระดับการบ่มเพาะก้าวหน้าเร็วกว่าระดับหลุดพ้นหลายเท่าเราคงต้องทะลวงเข้าสู่ขอบเขตปรมาจารย์ก่อนแล้วค่อยทดสอบ!”
เย่เทียนลดความประหลาดใจจากพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราและเริ่มศึกษาทักษะการควบคุมสัตว์อสูร
ด้วยพรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูร เย่เทียนพบว่าเขาสามารถยกเลิกความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเสี่ยวจินและเสี่ยวจื่อได้ตลอดเวลาเนื่องจากพรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรสามารถดึงแสงแห่งจิตวิญญาณออกมาได้
เย่เทียนลองทดสอบเสียวจอดู ก็พบว่าพรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรสามารถทําให้มันยอมจานนได้อย่างง่ายดาย ไม่ต่างจากข้อมูลที่เขาได้รับมา
แต่เมื่อทดลองกับเสียวจิน เขากลับพบว่าล้มเหลว ไม่สามารถดึงแสงจิตวิญญาณ ของมันออกมาได้ ไม่มีทางเลือกอื่นจึงต้องให้เสี่ยวจินยอมรับเขาเป็นเจ้านายด้วยตน เอง หลังจากการทดลองครั้งแล้วครั้งเล่า เย่เทียนได้ข้อสรุปคร่าวๆ
“พรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรเกี่ยวข้องกับวิญญาณในตอนนี้เราอยู่ในระดับนักรบผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงสุดส่วนเสียวจนเป็นสัตว์อสูรชั้นยอดแล้วดูจากระดับการบ่มเพาะระดับพลังของเสี่ยวจินแข็งแกร่งกว่าเราจิตวิญญาณของมันจึงแข็งแกร่งกว่าเราดังนั้นเราจึงไม่สามารถควบคุมสัตว์อสูรเช่นเสี่ยวจนได้!”เย่เทียนพึมพํา
โดยรวมแล้วทักษะการควบคุมสัตว์อสูรระดับสูงนั้นแข็งแกร่งมาก ตราบใดที่ระดับพลังของมังกรสวรรค์โลหิตสงครามไม่สูงไปกว่าเขา เขาก็จะสามารถก่าราบมันได้
เย่เทียนหยิบไข่มังกรโลหิตออกมาอีกครั้ง และพบว่าพลังชีวิตของมันที่แผ่ออกมานั้นเข้มข้นขึ้นราวกับว่ามันกําลังจะพวยพุ่งออกมา
“ใกล้แล้ว อีกไม่ถึงสิบวัน มันก็จะฟักออกมา!”
เย่เทียนคาดเดา
สิบวันไม่ได้นานเกินรอ
ดังนั้นในอีกสิบวันข้างหน้า เย่เทียนจึงตั้งใจทําความเข้าใจเจตจํานงค์แห่งดาบอย่างต่อเนื่องโดยหยุดการฝึกฝนอื่นๆไว้ชั่วคราว
พริบตาเดียว
สิบวันผ่านไป
ในเวลานี้
เย่เทียนรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของห้วงมิติ เขาเข้าใจในทันทีว่ามังกรโลหิตสงครามกาลังจะถือกําเนิดแล้ว
จากนั้นเขาก็หยิบไข่มังกรโลหิตสงครามออกมา และเปิดค่ายกลฉนวนกันเสียงและค่ายกลซ่อนเร้นของคฤหาสน์
เสี่ยวจินที่อยู่ด้านข้างเบิกตากว้างและมองไปยังไข่มังกรโลหิตสงคราม มันคุ้นเคยกับไข่ใบนี้มากเพราะเจ้านายของมันมักจะหยิบมันออกมาดูบ่อยๆ
ก่อนหน้านี้มันไม่คิดว่าไข่ใบนี้มีอะไรที่น่าอัศจรรย์ แต่ตอนนี้มันรู้สึกถึงแรงกดดันที่ปลดปล่อยออกมาจากไข่ใบนี้ ไม่นานแรงกดดันก็เพิ่มมากขึ้น
นี่ไม่ใช่แรงกดดันจากความแข็งแกร่ง แต่เป็นแรงกดดันทางสายเลือด
สัตว์อสูรให้ความสําคัญกับสายเลือด การโตของพวกมันขึ้นอยู่กับสายเลือดของพวกมัน
ยกตัวอย่างเช่น เนื่องจากมันมีพรสวรรค์ทางสายเลือดระดับสุดยอด ต่อให้มันไม่ได้กินสมบัติหรือเนื้อของสัตว์อสูร มันก็ยังสามารถอาศัยพลังปราณปฐมแห่งฟ้าดินเพื่อขัดเกลาสายเลือดและร่างกายให้เติบโตกลายเป็นสัตว์อสูรชั้นยอดได้
นี่คือข้อดีของพรสวรรค์ทางสายเลือดระดับสุดยอด!
แต่ตอนนี้ในฐานะผู้ครอบครองพรสวรรค์ทางสายเลือดระดับสูงสุด มันกลับถูกสะกดข่มจากไข่ใบสีทองที่อยู่ตรงหน้า!
” ไข่ที่เจ้านายเอามาคงไม่ใช่ไข่ของราชาตัวไหนใช่ไหม?”
เสี่ยวจินกล่าวด้วยความประหลาดใจ
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด มันถึงรู้สึกว่าการถือกําเนิดของสิ่งมีชีวิตในไข่ใบนี้มันคงสญเสียความโปรดปรานจากเจ้านายไป
“เราคงคิดมากไป!”
เสี่ยวจินปลอบใจตัวเอง
อย่างไรก็ตามมันไม่ได้คิดผิดไป เพราะเย่เทียนกาลังจะทําให้มันเป็นสัตว์เลี้ยงของเหย
สัตว์เลี้ยงที่คนๆหนึ่งครอบครองได้นั้นมีจํากัดเนื่องจากความอดทนทางจิตวิญญาณมีจํากัดเพื่อที่จะสามารถควบคุมมังกรโลหิตสงครามได้เย่เทียนจึงยกเลิกความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์เลี้ยงกับเจ้านายของเสี่ยวจื่อและให้เสียวจอยอมรับเย่หยู เป็นเจ้านายคนใหม่
อีกไม่นานเขาจะส่งเสี่ยวจินให้เย่หยเช่นกัน
ดังนั้นความกังวลของเสี่ยวจินจึงถูกต้อง
บนพื้นห้อง
ไข่มังกรโลหิตสงครามสั่นไหวอย่างรุนแรง และทันใดนั้น
แกรัก!
เปลือกไข่มังกรโลหิตสงครามที่แม้แต่ปรมาจารย์ยังไม่สามารถทําลายได้กลับปรากฏรอยแตกขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปรอยแตกก็เพิ่มมากขึ้น
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ไข่มังกรโลหิตทั้งหมดก็แตกจนเป็นรูขนาดใหญ่หัวของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่ยื่นออกมา
มันคล้ายกับหัวมังกรมาก
(เย่เทียนไม่เคยเห็นมังกรที่แท้จริงมาก่อน เขาเพียงเคยได้ยินจากตํานานในชาติที่แล้ว)
หลังจากมังกรโลหิตสงครามยื่นหัวออกมา ร่างของมันก็หลุดออกจากเปลือกไข่
ไม่นานมังกรน้อยที่มีความยาวประมาณหนึ่งเมตรก็ปรากฏตัวขึ้น ทั้งตัวของมันเป็นสีแดงเหมือนเลือดมันไม่ได้มีปีกเหมือนมังกรตะวันตกแต่มันรูปลักษณ์ของมันดูเหมือนมังกรตะวันออก
“ตรวจสอบ!”
เย่เทียนใช้พรสวรรค์ในการคัดลอกเพื่อตรวจสอบพรสวรรค์ของมังกรโลหิตสงครามในทันทีในใจเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
[ประเภท: มังกรโลหิตสงคราม
พรสวรรค์ทางสายเลือด: ระดับตะวัน
พรสวรรค์ด้านความแข็งแกร่ง: สูงสุด
พรสวรรค์ด้านการป้องกัน: สูงสุด
พรสวรรค์ความเร็ว: ปานกลาง
พรสวรรค์กลืนกินเลือด: สูงสุด
พรสวรรค์ในการบิน: ระดับสูง
พรสวรรค์เพลิงมังกร: ระดับสูง
พรสวรรค์ในการรักษา: ปานกลาง
พรสวรรค์เสียงคารามแห่งมังกร: ระดับสูง
พรสวรรค์กระดูกโลหิต: ปานกลาง
พรสวรรค์จิตวิญญาณมังกร: ปานกลาง]
สิบพรสวรรค์พิเศษเทียบได้กับพรสวรรค์ของเย่เทียนในตอนนี้
แน่นอนว่าถ้าเย่เทียนต้องการคัดลอกพรสวรรค์ให้มากขึ้น มันก็เป็นเรื่องง่ายแต่เขาไม่อยากคัดลอกพรสวรรค์ที่ไม่มีประโยชน์สําหรับเขา
เย่เทียนตั้งข้อกําหนดที่เข้มงวดกับตัวเองเกี่ยวกับการคัดลอกพรสวรรค์ทุกชนิดเขาจะไม่มีวันคัดลอกพรสวรรค์ที่ไร้ประโยชน์
“พรสวรรค์ของมังกรโลหิตนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ น่าเสียดายที่มีพรสวรรค์ระดับสูงสุดเพียงสามอย่างเท่านั้น!”
เย่เทียนครุ่นคิดด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
หากมังกรโลหิตสงครามรู้ความคิดของเย่เทียน มันจะต้องด่าทอเขาอย่างแน่นอนเจ้าสามารถหาสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์มากกว่าข้าได้หรือไม่?
ไม่นานเย่เทียนก็หยุดคิดและเลิกให้ความสนใจกับสิบพรสวรรค์พิเศษของมังกรโลหิตสงครามแต่มุ่งเน้นไปที่พรสวรรค์ทางสายเลือดระดับตะวันของมังกรโลหิตสงครา ม!
“ระดับตะวันน่าจะเป็นพรสวรรค์ที่สูงกว่าระดับดารา แต่ไม่รู้ว่ามันสูงกว่ากี่ระดับ!”
เย่เทียนคิดกับตัวเอง
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก
เขาเดินบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของมนุษย์ ไม่ใช่เส้นทางสายเลือดดังเช่นเหล่าสัตว์อสูร ดังนั้นต่อให้พรสวรรค์ทางสายเลือดของมังกรโลหิตสงครามจะน่ากลัวมากเพียงใด เขาก็ไม่กล้าที่จะลองคัดลอกพรสวรรค์ของมัน หากเขาคัดลอก พรสวรรค์ต่างสายเลือดของมังกรโลหิตสงครามเขาไม่อาจแน่ใจได้เลยว่าจะมีผลกระทบอะไรตามมา
แต่เขารู้ดีหากเขาทําเช่นนั้นในอนาคตเขาจะไม่สามารถฝึกฝนเหมือนมนุษย์ได้อีกคงทําได้เพียงเลื่อนระดับเหมือนสัตว์อสรเท่านั้น
ถึงแม้ว่ามันจะดูดีมาก แต่หลังจากที่เขาไปถึงขีดจํากัดของระดับมังกรโลหิตสงครามแล้วเขาจะพัฒนาไปต่อได้อย่างไร?
เขาไม่สามารถคัดลอกพรสวรรค์ของสัตว์อสรที่แข็งแกร่งกว่านี้ได้อีกไม่เช่นนั้นชีพจรของเขาอาจจะระเบิดออกมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเขาทําได้เพียงคัดลอกพรสวรรค์ระ ดับที่สูงกว่าของสายพันธุ์มังกรโลหิตสงครามเท่านั้นแต่หากพรสวรรค์ทางสายเลือดระดับตะวันของมังกรโลหิตสงครามคือระดับสูงสุดล่ะไม่ใช่ว่าเขาจะไม่มีทางก้าวหน้า อีกแล้วหรอกหรือ?
การเลือกเส้นทางที่ยากลาบาก แต่สามารถก้าวหน้าได้อย่างไร้ขีดจํากัดเย่เทียนย่อมต้องเลือกเส้นทางนี้
” พรสวรรค์ระดับตะวันในหมู่มนุษย์ก็ต้องมีเหมือนกัน!”
เย่เทียนคิดเช่นนี้
“เราต้องรีบกําราบมังกรโลหิตสงครามก่อน!”
เย่เทียนรีบใช้พรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรกับมังกรโลหิตสงครามทันที
แม้ว่ามังกรโลหิตสงครามจะมีพรสวรรค์ทางสายเลือดระดับตะวันแต่ในตอนนี้มันเป็นเพียงสัตว์อสูรระดับกลางเท่านั้น และทันที่ที่มังกรโลหิตสงครามกําเนิดขึ้นมันก็เห็นเย่เทียนเป็นคนแรกและรู้สึกผูกพันกับเย่เทียนเป็นอย่างมากดังนั้นเย่เทียนจึงสามารถทําให้มันยอมรับได้อย่างง่ายดาย
“หิว กิน”
เสียงในหัวของเย่เทียนดังขึ้น ซึ่งมันเป็นเสียงของมังกรโลหิต
วินาทีต่อมา
มังกรโลหิตก็วิ่งไปที่เปลือกไข่ของมันและเริ่มเคี้ยวอย่างช้าๆ เมื่อเปลือกไข่ที่แม้แต่ปรมาจารย์ยังไม่อาจทําลายได้เข้าสู่ปากของมังกรโลหิตมันก็หลอมละลายโดยอัตโนมัติและไหลเข้าสู่ร่างกายของมังกรโลหิตโดยตรง
เย่เทียนตกใจมากที่พบว่าเมื่อมังกรโลหิตกําลังกินเปลือกไข่ กลิ่นอายบนร่างของยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เมื่อมันกินเปลือกไข่จนหมด กลิ่นอายของมันพุ่งทะยานขึ้นกลายเป็นสัตว์อสูรระดับสูงในทันที
นอกจากนี้เกล็ดสีแดงเลือดบนร่างของมันก็ยังดูแข็งแกร่งและเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น
“พรสวรรค์ทางสายเลือดระดับตะวันของมันท้าทายสวรรค์อย่างแท้จริง!”
เย่เทียนถอนหายใจ
โชคดีที่เขาสามารถควบคุมมังกรโลหิตได้ทันเวลา หากอีกไม่กี่วันมังกรโลหิตาบรรลุสู่สัตว์อสูรชั้นยอดเขาคงจะต้องร้องไห้จนตายแน่!
” พรสวรรค์ในการคัดลอกของเรายังคงคูลดาวน์อยู่ เมื่อคูลดาวน์สิ้นสุดลงค่อยจ่าลองพรสวรรค์กลืนเลือดของมังกรโลหิต!”
เย่เทียนคิด