พรสวรรค์ในการคัดลอกของเย่เทียนเหลือเวลาคูลดาวน์อีกประมาณ 20 วันซึ่งไม่ได้ช้าไม่ได้เร็วจนเกินไป
ระหว่างนี้ นอกจากเขาจะทําความเข้าใจเจตนาแห่งดาบแล้ว เขายังสอนสิ่งต่างๆให้กับมังกรโลหิตอีก
เนื่องจากมังกรโลหิตเพิ่งเกิด เปรียบเสมือนเด็กทารกมนุษย์ สติปัญญาของมันยังไม่มากนักยังต้องใช้เวลาเรียนรู้สิ่งต่างๆอีกมาก
นอกจากนี้เย่เทียนยังค้นพบสิ่งหนึ่ง มังกรโลหิตสงครามชอบเลือดของสัตว์อสูรมากมันดูดซับเลือดของสัตว์อสูณจํานวนมากในทุกๆวัน แม้ว่าจะไม่ใช่เลือดของสัตว์อสูรที่มีสายเลือดของมังกรก็ตาม
สาหรับมังกรโลหิตสงครามเลือดสัตว์อสูรเหล่านั้นเปรียบเสมือนน้ํานมที่ทําให้มันเจริญเติบโต
เย่เทียนเห็นมังกรโลหิตโลหิตเติบโตขึ้นทุกวัน ร่างกายของมันใหญ่ขึ้นกว่าก่อนมากถึงแม้ว่ามันจะกินเลือดของสัตว์อสูรไปเป็นจํานวนมากแต่ในใจของเย่เทียนก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามด้วยตัวเขาและมังกรโลหิตต้องใช้เลือดของสัตว์อสูรจานวนมากเพื่อดูของสัตว์อสูรที่มีอยู่อาจจะไม่เพียงพอโชคดีที่เขายังมีเลือดของสัตว์อสูรอยู่ไม่น้อยแต่ในอนาคตเขาคงจะต้องออกล่าให้มากขึ้นไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีเลือดของสัตว์อสูรเพียงพอต่อการฝึกฝน
ไม่กี่วันต่อมา
เย่เทียนตัดสินใจยกเลิกความสัมพันธ์ที่เสี่ยวจินและปล่อยให้เสียวจินยอมรับเย่หยุเป็นเจ้านายคนใหม่เพราะเรื่องนี้เสี่ยวจินจึงบ่นเขาเป็นเวลานานแต่สุดท้ายมันก็ยังยอมรับแต่โดยดี
ในความเป็นจริงการเป็นสัตว์เลี้ยงของเย่หยุไม่ใช่เรื่องน่าอับอายเพราะเหยได้กินดอกไม้วิญญาณสวรรค์ที่เย่เทียนให้มาพรสวรรค์ในการบ่มเพาะของเธอเปลี่ยนไปแล้ว
ตอนนี้พรสวรรค์ในการบ่มเพาะของเธอกลายเป็นระดับสูงสุดแล้ว และในอนาคตการที่จะกลายเป็นปรมาจารย์ย่อมเป็นเรื่องที่แน่นอน และยังมีความหวังที่จะสามารถทะลวงผ่านเป็นระดับราชาอีกเล็กน้อย
ดังนั้นเสี่ยวจีนจึงยอมรับเย่หยุเป็นเจ้านาย แต่โดยดี
ก่อนวันที่พรสวรรค์ในการคัดลอกของเขาจะคูลดาวน์เสร็จ
เย่เทียนเลิกทําความเข้าใจเจตจํานงแห่งดาบและพึมพําว่า
“ในที่สุดเราก็เข้าใจเจตจํานงแห่งดาบจนเกือบจะถึงสองส่วนแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ฝึกฝนอย่างบ้าระห่าเหมือนช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา”
ตราบใดที่เขาเข้าใจเจตนารมณ์แห่งดาบถึง 2 ส่วน ก็จะสามารถฝึกฝนทักษะดาบ ระดับเงินได้
ทักษะดาบระดับเงิน
ว่ากันว่าทักษะดาบระดับเงินสามารถทําให้เกิดเอฟเฟกต์พิเศษ ทําให้พลังต่อสู้ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ดังนั้นเขาจึงคาดหวังกับมันมาก
อีกวันหนึ่งผ่านไป
เมื่อคูลดาวน์ของพรสวรรค์การคัดลอกสิ้นสุดลง เย่เทียนก็มีโอกาสคัดลอกพรสวรรค์ได้อีก 2 ครั้ง
การคัดลอกครั้งแรกแน่นอนเขาย่อมต้องคัดลอกพรสวรรค์ กลืนกินโลหิตระดับสูงสุดซึ่งมันเป็นระดับที่เขาต้องการพอดี
เมื่อคัดลอกมัน เขาจะสามารถทําลายขีดจํากัดการขัดเกลาโลหิตได้ จากนั้นเขาจะสําเร็จเป้าหมายในการทําลายขีดจํากัดการขัดเกลาผิวหนังการขัดเกลาเนื้อขัดเกลากระดูกและขัดเกลาเลือด
และขั้นตอนสุดท้าย – คือการทําลายขีดจํากัดการขัดเกลาอวัยวะภายในซึ่งจะสามารถหล่อหลอมรากฐานที่สมบูรณ์แบบขึ้นมา
“หลอมรวม!”
พรสวรรค์กลืนกินโลหิตหลอมรวมเข้ากับร่างของเยเทียน
กระบวนการหลอมรวมได้เริ่มขึ้นแล้ว!
สิบนาทีต่อมา เย่เทียนก็หลอมรวมพรสวรรค์กลืนกินโลหิตได้สําเร็จและไม่นานเขาก็รู้ว่าพรสวรรค์กลืนกินโลหิตมีประโยชน์อย่างไร
“กลืนกินเลือดเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิต!” (Vampire ชัดๆ)
เย่เทียนรู้สึกว่าพรสวรรค์เช่นนี้ถ้าไทยสวรรค์อย่างแท้จริง
นี่คือการฟื้นฟพลังชีวิตซึ่งมันเหนือกว่าพรสวรรค์ในการรักษามาก
พรสวรรค์ในการรักษาเป็นเพียงการรักษาบาดแผล แต่ไม่สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้เนื่องจากพลังชีวิตเชื่อมโยงกับชีวิตโดยตรง ไม่สามารถรักษาหรือฟื้นฟได้
ยกตัวอย่างเช่น เย่เทียนใช้วิชาต้องห้ามบางอย่างและสูญเสียพลังชีวิตไปพรสวรรค์ในการรักษาไม่สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้ แต่ตราบใดที่เขามีพรสวรรค์กลืนกินโลหิตเขาสามารถกลืนกินเลือดของสัตว์อสูรเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตของเขาได้
ด้วยพรสวรรค์กลืนกินโลหิตมันสามารถดึงพลังชีวิตออกจากเลือดของสัตว์อสูรเพื่อเติมเต็มพลังชีวิตของเยเทียน
นี่มันเป็นความสามารถที่ท้าทายสวรรค์ชัดๆ!
“นี่มันกําไรแล้ว กาไรมหาศาลมาก!”
เย่เทียนกล่าวด้วยความยินดี
ด้วยพรสวรรค์กลืนกินโลหิตและพรสวรรค์ในการรักษาระดับสูงสุด ไม่ว่าอาการบาดเจ็บของเขาจะรุนแรงแค่ไหนเขาก็จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อได้พรสวรรค์กลืนกินโลหิตระดับสูงสุดมาแล้ว เย่เทียนก็เริ่มฝึกฝนทักษะขัดเกลาโลหิตม่วงทันที
ทันใดนั้นเย่เทียนพบว่าพรสวรรค์กลืนกินโลหิตและเทคนิคการขัดเกลาโลหิตม่วงสามารถเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบเนื่องจากพรสวรรค์กลืนกินโลหิตสามารถดูดซับเลือดของสัตว์อสูรระดับสูงจานวนมากได้ในทันที
ในส่วนของทักษะขัดเกลาโลหิตม่วง ก็สามารถดึงพลังจากโลหิตของสัตว์อสูรระดับสูงมาเพื่อปรับแต่งเลือดในร่างกายของเขาได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้นเมื่อเปิดใช้งานทักษะขัดเกลาโลหิตม่วงและพรสวรรค์ในการกลืนกินโลหิตความเร็วในการขัดเกลาจึงรวดเร็วเป็นอย่างมาก
ด้วยความเร็วเช่นนี้เย่เทียนมั่นใจว่าเขาจะสามารถทําลายขีดจํากัดการขัดเกลาเลือดได้ภายใน 10 วันมันเร็วกว่าขัดเกลาผิวหนัง ขัดเกลากล้ามเนื้อและการขัดเกลากระดูกเสียอีกนี่เป็นความสุขที่เขาไม่คาดคิด
แน่นอนการที่สามารถก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว มันหมายความว่าเลือดของสัตว์อสูรที่เขาเก็บไว้ก็ถูกใช้ไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ในเวลาเพียงไม่กี่วันเลือดของสัตว์อสูรที่เย่เทียนเก็บไว้ก็หมดลง เขาจึงจําเป็นต้องใช้เงินหลายพันล้านหยวนเพื่อซื้อเลือดสัตว์อสูรมาชดเชยเลือดของสัตว์อสูรที่เขาเสียไป
สิบวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดเย่เทียนก็รู้สึกถึงขอขวดของการขัดเกลาเลือด
“ทําลาย!”
พรสวรรค์กลืนกินโลหิตและทักษะขัดเกลาโลหิตม่วงได้รวบรวมพลังมหาศาลและทะลวงขีดจํากัดการขัดเกลาเลือดในพริบตาและเข้าสู่ขอบเขตใหม่ทันที
ณ จุดนี้เอง
เลือดของเย่เทียนเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เลือดในร่างกายของเขาดาวกับว่าเป็นแสงสีทองออกมาจริงๆ
ซึ่งมันดูสูงกว่ามนุษย์ธรรมดา ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่ามันได้พัฒนาขึ้นสู่ระดับใหม่
แต่ในตอนนี้ แม้ว่าขีดจํากัดการขัดเกลาเลือดจะถูกทําลายไปแล้ว แต่เรื่องของเขายังไม่สามารถที่จะยกระดับต่อไปได้อีก
“ขั้นต่อไปคือการทําลายขีดจํากัดของอวัยวะภายในอวัยวะภายในมีความซับซ้อนอย่างมากหากต้องการพึ่งพาพรสวรรค์มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เราทําได้เพียงใช้แรงโน้มถ่วงเพื่อค่อยๆทําลายอวัยวะภายในแล้วสร้างขึ้นใหม่เพื่อทําลายขีดจํากัด!”
เย่เทียนวางแผน
หากเป็นคนธรรมดา หากต้องการทําเช่นนี้ ต้องเตรียมโอสถรักษาระดับสูงจานวนมากและยังต้องพักผ่อนเป็นเวลานานเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
แต่เย่เทียนมันต่างกัน
“เรามีพรสวรรค์ในการรักษาระดับสูงสุด เราสามารถฟื้นฟูบาดแผลได้รวดเร็วตราบเท่าที่อวัยวะภายในของเราไม่ถูกทําลายอย่างสมบูรณ์เราก็สามารถฟื้นฟูบาดแผลได้อย่างรวดเร็ว ”
เย่เทียนมีความมั่นใจว่าเขาจะสามารถทําลายขีดจํากัดของอวัยวะภายในได้ภายในไม่กี่วัน
ตอนนี้เขาจําเป็นต้องหาค่ายกลแรงโน้มถ่วงที่มีพลังมากพอที่จะช่วยในการฝึกฝนของเขามิฉะนั้นไม่มีทางเลยที่เขาจะสามารถท่าลายขีดจํากัดอวัยวะภายในได้
“ค่ายกลแรงโน้มถ่วง? จําได้ว่ามีหอคอยแห่งการฝึกฝนที่ฐานทะเลมาร มีสถานที่เช่นนี้อยู่มันเป็นธุรกิจของตระกูลใหญ่ๆในฐานทะเลมาร”
เย่เทียนคิด
หอคอยแห่งนั้นเต็มไปด้วยค่ายกลรวบรวมลมปราณค่ายกลแรงโน้มถ่วงและอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ช่วยใพิ่มความเร็วในการฝึกฝนและการต่อสู้กล่าวได้ว่ามันเป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อฝึกฝนอย่างแท้จริงแต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะสามารถเข้าไปได้
การจะเข้าไปฝึกฝนในหอคอยแห่งการฝึกฝนจะต้องใช้เงินเป็นจํานวนมากซึ่งมีแต่คนร่ำรวยเท่านั้นที่จะมีเงินมากพอเพื่อฝึกฝนในที่แห่งนั้น
“งั้นก็ต้องไปที่หอคอยแห่งการฝึกฝนก่อน!”
เย่เทียนออกจากบ้านและมุ่งหน้าไปยังหอคอยแห่งการฝึกฝน
ฐานทะเลมาร, พื้นที่ส่วนกลาง, หอคอยแห่งการฝึกฝน
หอคอยแห่งการฝึกฝนมีความสูง 500 เมตร และมี 50 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูง 10 เมตรประกอบไปด้วยห้องที่ใช้สําหรับการฝึกฝนในแต่ละรูปแบบจํานวนมาก
ที่ทางเข้าชั้นแรกของหอคอยแห่งการฝึกฝน มีพนักงานที่คอยดูแลเก็บค่าธรรมเนียมอยู่
เย่เทียนหยิบบัตรประจําตัวออกมาและพูดว่า “ห้องแรงโน้มถ่วงระดับสูงสุดราคาเท่าไหร่ต่อวัน?”
“ระดับสูงสุด?” พนักงานกล่าวว่า
“ระดับสูงสุดคือห้องแรงโน้มถ่วงระดับราชาสําหรับการฝึกฝนระดับราชาซึ่งมีเพียงสามห้องเท่านั้นตอนนี้เต็มหมดแล้วห้องลําดับที่ต่ํากว่าคือห้องระดับสวรรค์ซึ่งมีแรงโน้มถ่วงสําหรับการฝึกฝนของปรมาจารย์ระดับสูงคุณลูกค้ายังเป็นนักรบผู้เชียวชาญข้าขอแนะนําว่าท่านไม่จําเป็นต้องใช้ห้องแรงโน้มถ่วงระดับสูงขนาดนั้น”
“งั้นข้าเอาห้องแรงโน้มถ่วงระดับสวรรค์”
เย่เทียนตอบโดยไม่ลังเล
“ครับ ค่าธรรมเนียม50 ล้านต่อวัน!”