บทที่ 107 พรสวรรค์ในการบินและพรสวรรค์กระดูกโลหิต!
เย่เทียนตรวจสอบแผนผังค่ายกลรวบรวมลมปราณอย่างละเอียด ก่อนจะรู้
ว่าการจะจัดวางค่ายกลรวบรวมลมปราณได้นั้น ไม่เพียงแต่ต้องเข้าใจรูปแบบค่าย กลถึง 100 รูปแบบเท่านั้น แต่ยังต้องใช้หินปราณเพื่อเปิดใช้งานค่ายกลรวบรวม ลมปราณอีกด้วย
“ค่ายกลทั่วไปไม่จําเป็นต้องมีหินปราณ แต่ด้วยค่ายกลเหล่านั้นไม่มีคุณสมบัติในการรวบรวมพลังปราณ มีเพียงค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับกลางเท่านั้นที่สามารถรวบรวมปราณปฐมแห่งฟ้าดินได้อย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลือของหิน ปราณ ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมหอคอยแห่งการฝึกฝนถึงไม่มีค่ายกลรวบรวม ลมปราณระดับกลางเช่นนี้ ที่แท้ก็เป็นเพราะต้องใช้หินปราณ ที่คนทั่วไปไม่ สามารถครอบครองได้ ถึงแม้ว่าจะมีค่ายกลนี้ก็ไม่สามารถเปิดใช้งานได้อยู่ดี!”
เย่เทียนเข้าใจในทันที
จากนั้นเขาก็หัวเราะอย่างมีความสุข
หินปราณหรอ เขามีอยู่มากมาย!
ในเขตแดนลับ เขาขุดหินปราณได้มากกว่า 2,000 ก้อน ซึ่งหินปราณหนึ่งก้อน ก็สามารถเปิดใช้งานค่ายกลได้เป็นเวลาหนึ่งเดือน แล้วหินปราณ 2,000 ก้อนเขาจะใช้ได้ถึงกี่ปี?
ดังนั้นเย่เทียนจึงไม่จําเป็นต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย
“เป้าหมายต่อไป คือฝึกฝนวิชากายาโลหิตม่วง ไปพร้อมๆกับทําความเข้าใจ เจตจํานงแห่งดาบ และรูปแบบค่ายกล” แม้ว่าจะค่อนข้างหนัก แต่เย่เทียนก็มี ความสุขกับมัน
ผ่านไปครึ่งเดือน
เขาใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการฝึกฝนทักษะกายาโลหิตม่วง แต่พละกําลัง
ของเขาก็มากกว่า 2 ช้างแล้ว และในที่สุดเขาก็สามารถทําความเข้าใจเจตจํานง ดาบถึง 2 ส่วนแล้ว ซึ่งมันเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นของฝึกฝนทักษะดาบระดับเงิน
แต่ตอนนี้เย่เทียนยังไม่มีทักษะดาบระดับเงิน แผนนี้จึงถูกพับเก็บไว้ชั่วคราว
สําหรับรูปแบบค่ายกล ตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมาเย่เทียนสามารถจารึกรูปแบบ ค่ายกลได้ 71 รูปแบบแล้ว นี่เป็นขีดจํากัดของปรมาจารย์ด้านค่ายกลระดับเริ่มต้น เพราะตราบใดที่เขาสลักรูปแบบค่ายกลได้ถึง 80 รูปแบบ และเรียนรู้รูปแบบค่าย กลระดับกลางอีกเล็กน้อย เขาก็จะกลายเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกลขั้นกลางได้
แต่เย่เทียนก็สัมผัสได้ว่าหากเขาต้องการที่จะรูปแบบค่ายกล 100 รูปแบบ อย่างน้อยเขาก็ต้องใช้ระยะเวลา 2-3 เดือน สําหรับเขาระยะเวลาขนาดนั้นมันนานเกินไป
“ข้าต้องคัดลอกพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงอีกครั้ง!”
เย่เทียนตัดสินใจ
พรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงสุดนั้นหาได้ยาก แต่พรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงนั้นไม่ใช่เรื่องยาก อีกอย่างพรสวรรค์ในการคัดลอกของเขาสามารถใช้งานได้ อีกครั้งแล้ว มีโอกาสคัดลอกพรสวรรค์ได้ถึง 2 ครั้ง
คราวนี้เขาเตรียมคัดลอกพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงเพื่อยกระดับพรสวรรค์ด้านค่ายกลของเขาให้เป็นพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงสุด
ตราบเท่าที่เขามีพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงสุด เขาก็จะสามารถจารึกค่ายกลได้ 100 รูปแบบในระยะเวลาอันสั้น และจากนั้นเขาก็จะเริ่มจัดวางค่ายกล รวบรวมลมปราณ
ในอนาคตหากเขาออกจากฐานทะเลมาร เขาก็สามารถสร้างค่ายกลรวบรวมลมปราณที่ไหนก็ได้
เช้าวันต่อมา
เย่เทียนเดินเตร็ดเตร่ไปยังที่ฐานที่มั่นของกองกําลังต่างๆ และหลังจากตรวจสอบโดยพรสวรรค์ในการคัดลอก ในที่สุดเขาก็พบร่องรอยของผู้มีพรสวรรค์ด้าน ค่ายกลระดับสูง 2 คน ในสํานักงานใหญ่ของธนาคารทะเลมาร หลังจากนั้นเย่ เทียนก็คัดลอกพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงและมุ่งหน้ากลับบ้านเพื่อประสานพรสวรรค์ในทันที
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
เย่เทียนที่เหนื่อยล้าเล็กน้อยรีบตรวจสอบพรสวรรค์ด้านค่ายกลของเขาทันทีทันใดนั้นข้อมูลพรสวรรค์ของเขาก็ปรากฏขึ้นในจอจอประสาทตา
[พรสวรรค์ด้านค่ายกล: สูงสุด]
“พรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงสุด เราน่าจะสามารถจารึกค่ายกล 100 รูปแบบ ได้ภายในหนึ่งเดือน เมื่อถึงเวลานั้นเราก็จะสามารถจัดวางค่ายกลรวบรวมลมปราณได้ ไม่เสียแรงที่เราเสียเวลาไปนานขนาดนี้!” เย่เทียนถอนหายใจ
เขายังคงทําความเข้าใจกับค่ายกลต่อไป เพื่อที่จะสลักอักขระอาคม 100 รูป แบบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
และเพื่อบรรลุเป้าหมายให้สําเร็จโดยเร็ว เย่เทียนได้ลดเวลาในการฝึกฝนกา
ยาโลหิตม่วง และเลิกทําความเข้าใจเจตจํานงแห่งดาบชั่วคราว ดังนั้นหลังจาก ผ่านไป 26 วัน เย่เทียนก็ใช้พรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงสุดสลักอักขระอาคมจนครบ
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เย่เทียนก็ทําสมาธิและเตรียมจะหยิบแผ่นจานค่ายกล ระดับสูงออกมา เพื่อเริ่มจารึกรูปแบบค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับกลาง
ค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับกลางนั้นไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด แม้ว่าเขาจะมี
พรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงสุด แต่ก็ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสําเร็จ100%
“เริ่ม!”
การจารึกค่ายกลแรกสําเร็จ จากนั้นก็ค่ายกลที่สอง ที่สาม สี่…
เมื่อจารึกถึงรูปแบบที่ 42 เนื่องจากมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย การจารึกอักขระจึง ล้มเหลวแผ่นจานค่ายกลจึงถูกทําลาย แต่เย่เทียนก็ไม่สนใจเขาหยิบแผ่นจาน ค่ายกลออกมาและเริ่มจารึกต่อไปอีกครั้ง
หลังจากล้มเหลวไปถึง 3 ครั้ง เย่เทียนก็สามารถจารึกและจัดวางค่ายกล รวบรวมลมปราณได้สําเร็จในครั้งที่สี่
จากนั้นเขาก็ฝังแผ่นจานค่ายกลไว้บนพื้นของห้องฝึกฝน และนําหินปราณวาง ลงบนแผ่นจานค่ายกลเพื่อเปิดใช้งานค่ายกลรวบรวมลมปราณ
ฟูม!!!!
ปราณปฐมแห่งสวรรค์และโลกจํานวนมหาศาลไหลทะลักเข้ามา ทําให้พลัง ปราณภายในค่ายกลค่อยๆเข้มข้นขึ้น ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ความเข้มข้นของพลังปราณทั่วทั้งห้องฝึกฝนก็มากกว่าโลกภายนอกถึงหกเท่า
“ช่างเป็นปราณปฐมแห่งฟ้าดินที่เข้มข้นยิ่งนัก เพียงแค่เราหายใจก็รู้สึกสดชื่นมากแล้ว!”
เย่เทียนพอใจกับผลของค่ายกลรวบรวมลมปราณเป็นอย่างมาก
ต่อจากนี้เขาสามารถทุ่มเทฝึกฝนได้อย่างเต็มที่
ด้วยพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดารา, เทคนิครวบรวมลมปราณขั้นสูง –
เคล็ดวิชากายาโลหิตม่วง, และค่ายกลรวบรวมลมปราณ
ความเร็วในการก้าวหน้าของเย่เทียนนั้นน่าเหลือเชื่อมาก ถ้าคนนอกรู้เข้าคงจะต้องเรียกเขาว่าสัตว์ประหลาดอย่างแน่นอน
หลังจากฝึกฝนมาหนึ่งวัน เย่เทียนก็พึมพํากับตัวเอง
“ด้วยความเร็วในการฝึกฝนเช่นนี้ เราจะสามารถเพิ่มพละกําลังได้ถึง 9 ช้างในหนึ่งเดือน!”
9 ช้างต่อเดือน 10 เดือนก็จะมีพลัง 90 ช้าง เมื่อพิจารณาจากความเร็วในการฝึกฝนนี้อย่างช้าหนึ่งปีก็เพียงพอที่เขาจะเลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์ขั้นสูงได้
ไม่กี่วันต่อมาเย่เทียนมีโอกาสคัดลอกพรสวรรค์ได้อีกสองครั้ง
แต่เย่เทียนยังคงลังเลและไม่รู้ว่าจะคัดลอกพรสวรรค์อะไรดี?
“จริงสิ พรสวรรค์ของเสี่ยวเสวียนนั้น เรายังยังไม่ได้คัดลอกเลย!” เย่เทียนนึกขึ้นได้
เสี่ยวเสวียนเป็นชื่อของมังกรโลหิตสงครามที่เขาตั้งให้มัน
เย่เทียนขยายขอบเขตของพรสวรรค์ในการคัดลอกและพบว่าเสี่ยวเสวียนกําลังเล่นกับเสี่ยวจินอยู่ด้านนอก
“เราจะคัดลอกพรสวรรค์ไหนดี?”
เย่เทียนลังเล
ในที่สุดสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่พรสวรรค์ของเสี่ยวเสวี่ยน
[พรสวรรค์ในการบิน: ระดับสูง]
[พรสวรรค์กระดูกโลหิต: ปานกลาง]
ไม่ใช่ว่าเย่เทียนไม่อยากคัดลอกพรสวรรค์อื่นๆ แต่พรสวรรค์อื่นๆล้วนเกี่ยวข้องกับสายเลือดของมังกร เขาไม่มีสายเลือดมังกร หากเขาคัดลอกมันมาบางทีเขาอาจจะไม่สามารถดึงพลังของมันออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่
“พรสวรรค์ในการบินนั้นค่อนข้างน่าสนใจ ข้าอยากคัดลอกมันมานานแล้ว แต่ข้ารู้สึกว่าข้ายังไม่ได้ออกจากฐานทะเลมารและไม่จําเป็นต้องมีพรสวรรค์ด้านการบิน จึงไม่ได้รีบร้อนที่จะคัดลอกมันตั้งแต่แรก ในเมื่อไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้วข้าก็จะคัดลอกมามัน! ‘”
เย่เทียนพึมพําา
กระบวนการคัดลอกและหลอมรวมผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เย่เทียนมีพรสวรรค์ในการบิน เขาพยายามทดลองบินไปมาในห้อง
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือแม้ว่าเขาจะไม่มีปีกเหมือนสัตว์อสูรตัวอื่นๆ แต่เขาก็สามารถลอยตัวขึ้นได้โดยไม่จําเป็นต้องพึ่งพาพลังจากภายนอกใดๆ
หลังจากพักผ่อนชั่วครู่ เย่เทียนก็เริ่มคัดลอกพรสวรรค์กระดูกโลหิตระดับกลางสําหรับพรสวรรค์นี้ เขาได้ศึกษามันมาหลายครั้งแล้ว
พรสวรรค์ของกระดูกโลหิตเป็นพรสวรรค์ที่พิเศษมาก เขาสามารถเลือกกระดูกชิ้นใดก็ได้ในร่างกายเพื่อหล่อเลี้ยงมัน สุดท้ายมันจะกลายเป็นอาวุธกระดูกโลหิต
ซึ่งเขาจะสามารถนํามันออกมาจากร่างกายเพื่อใช้เป็นอาวุธและเก็บกลับไปในร่างกายเขาได้ตลอดเวลา (สยองหน่อยๆนะ)
กุญแจสําคัญคือเมื่อหล่อหลอมจนกลายเป็นกระดูกโลหิต เขาจะสามารถ
เปลี่ยนกระดูกของเขาให้กลายเป็นอาวุธชนิดใดก็ได้
นอกจากนี้กระดูกโลหิตถูกกลั่นโดยเลือด และเมื่อนํามันออกมาใช้งานเป็น อาวุธ กระดูกชิ้นใหม่ก็จะปรากฏขึ้นบริเวณเดิม โดยไม่กระทบต่อร่างกายใดๆ
โชคไม่ดีที่พรสวรรค์ของกระดูกโลหิตนี้เป็นเพียงพรสวรรค์ระดับกลางเท่านั้น เมื่อนํามันมาสร้างเป็นอาวุธมันจะสามารถเทียบเท่ากับอาวุธเวทย์ระดับสูง เมื่อ เขาก้าวเข้าสู่ระดับราชา พรสวรรค์นี้ก็จะไร้ประโยชน์ไป
แต่การมีมันในตอนนี้ก็ดีกว่าไม่มี ถ้าในอนาคตเขาโชคดีพอที่สามารถยกระดับพรสวรรค์กระดูกโลหิต พรสวรรค์นี้ก็จะกลายเป็นพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมมาก