บทที่ 140 พลังมังกร!
เมื่อกลับถึงบ้าน
เย่เทียนก็เริ่มผสานพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทราและพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับลึกลับ
หลังจากนั้นไม่นาน เย่เทียนก็เสร็จสิ้นกระบวนการหลอมรวม
เขาเหลือบมองพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทราของเขาที่ยังคงเป็นพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทราอยู่หากเขาต้องการยกระดับมันจําเป็นต้องคัดลอกพรสวรรค์ระดับจันทราอีกครั้ง
“ไม่จําเป็นต้องรีบร้อนต้องคัดลอกได้อย่างแน่นอน”
พรสวรรค์ในการป้องกันระดับลึกลับของเขาเปลี่ยนไปเช่นกัน
แต่เดิมพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับลึกลับของเย่เทียนก้าวหน้าเพียง(30%)
แต่ตอนนี้หลังจากหลอมรวมพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับลึกลับของฮุ่ยเชียนเย่วพรสวรรค์
ด้านการป้องกันระดับลึกลับของเย่เทียนก็พัฒนาขึ้น
[พรสวรรค์ในการป้องกัน: ระดับลึกลับ ปลอม (60%)]
“พรสวรรค์ระดับลึกลับปลอม 60% แข็งแกร่งกว่าพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับลึกลับของสุ่ยเชียนเย่วแต่น่าเสียดายที่ไปไม่ถึง 70% !”
เย่เทียนถอนหายใจ
แต่พอลองคิดดูดีๆ ก็รู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะยังไงก็เป็นการหลอมรวมไม่ใช่การซ้อนทับหรือแทนที่แน่นอนว่ามันต้องสูญเสียบางอย่างไปบ้างดังนั้นมันจึงสามารถเพิ่มได้แค่ 60%
แต่เท่านี้เย่เทียนพอใจมากแล้ว
“ต้องลองพรสวรรค์ระดับลึกลับ 60% ดู!”
เย่เทียนเริ่มทดลองและทดสอบมันอย่างรวดเร็ว
60% ช่วยเพิ่มการป้องกัน 50 เท่าจาก 35 เท่า
“ฮ่าๆ พลังป้องกันของฉันเพิ่มขึ้นอย่างมาก!”
เย่เทียนหัวเราะด้วยความยินดี
หลังจากพักผ่อนอยู่หลายชั่วโมงเย่เทียนก็มาถึงหอคอยเทพสงครามอีกครั้งจากนั้นเขาก็เข้าไปในมิติของศิลาเทพสงคราม และใช้ศิลาเทพสงครามเพื่อทําความเข้าใจเจตจํานงแห่งดาบ พริบตาเดียว 30 วันก็ผ่านไป
เย่เทียนลืมตาขึ้นและสูดหายใจเข้าลึก ดวงตาของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความปิติยินดี “เจตจํานงแห่งดาบเจ็ดส่วน!”
นี่คือผลลัพธ์ของการใช้ศิลาเทพสงครามในการทําความเข้าใจเจตจํานงแห่งดาบ
เจตจํานงดาบ 7 ส่วน หมายความว่าเขาสามารถฝึกทักษะดาบระดับทองได้แล้วนี่เป็นเกณฑ์ขั้นพื้นฐานและไม่รู้ว่าผู้มีพรสวรรค์ด้านดาบสักกี่คนที่สามารถทําความเข้าใจเจตจํานงค์แห่งดาบให้ถึงขั้นนี้
แต่ตอนนี้เย่เทียนทําได้แล้ว
หากเย่เทียนค่อยๆฝึกฝนและทําความเข้าใจด้วยตนเองไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะบรรลุเจตจํานงแห่งดาบ 7 ส่วนแต่ตอนนี้เขาสามารถมาถึงขั้นนี้ได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ศิลาเทพ
สงคราม
“ถ้ามีโอกาส ค่อยหาทักษะดาบระดับทองมาฝึกฝน!”
เย่เทียนคิดกับตัวเอง
เมื่อคะแนนหมดลง เขาก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป
หลังจากออกจากมิติศิลาเทพสงคราม เย่เทียนก็ถามวิญญาณศาสตราวุธว่า
” นอกจากการผ่านด่านท้าทายของหอคอยเทพสงครามแล้ว ยังมีวิธีอื่นอีกหรือไม่ที่จะได้รับคะแนน?”
ตอนนี้เย่เทียนต้องการคะแนนจํานวนมาก แต่การท้าทายเพียงอย่างเดียวไม่ได้ทําให้เขาได้
รับคะแนนมากนัก!
เขาค่อนข้างสงสัย เพราะมีผู้คนมากมายที่ได้ใช้ศิลาเทพสงคราม ตามหลักแล้วหลายคนน่าจะใช้คะแนนทั้งหมดไปอย่างรวดเร็วมิติศิลาจารึกเทพสงครามไม่ควรมีคนเข้าไปมากนัก
หากเขาคาดเดาไม่ผิด ต้องมีวิธีอื่นในการที่จะได้รับคะแนนมา
“มี คะแนนสามารถแลกเปลี่ยนกันได้!” วิญญาณศาสตราวุธอธิบายว่า “ทุกคนสามารถมอบคะแนนของตนเองให้กับผู้อื่นได้และผู้อื่นสามารถมอบคะแนนให้แก่เจ้าได้เช่นกัน” ”
“เจ้าหมายความว่าสามารถซื้อขายคะแนนได้?”
สีหน้าของเย่เทียนเปลี่ยนไป
วิญญาณศาสตราวุธส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “หอคอยเทพสงครามไม่สามารถซื้อขายคะแนนได้แต่ก็ไม่ได้ห้ามหากมีคนยินดีที่จะมอบคะแนนให้กับเจ้าทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าเอง!”
เย่เทียนตระหนักได้ทันทีว่าการซื้อคะแนนนั้นเกิดขึ้นเป็นการส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับหอคอย
เทพสงคราม
แต่ด้วยวิธีนี้ศิษย์จากขุมกําลังใหญ่ๆบางคนก็จะได้รับคะแนนมากมายยกตัวอย่างเช่นการส่งผู้ฝึกยุทธเข้ามายังหอคอยเทพสงครามให้พวกเขากลายเป็นราชา 1 ดาราแม้ว่าคนๆหนึ่งจะได้รับ เพียง 1 คะแนนแต่หากส่งผู้คนเข้ามาเป็นจํานวนมากคะแนนที่ได้รับก็จะมหาศาล
ตราบเท่าที่พวกเขาเซ็นสัญญาล่วงหน้า และให้คนเหล่านั้นมอบคะแนนให้ขุมกําลังใหญ่ๆก็จะ
มีคะแนนสะสมมากมายแน่นอน
หากมีสมบัติมากพอก็สามารถแลกเปลี่ยนคะแนนกับผู้อื่นได้ แต่นั่นก็ต้องอาศัยโอกาสบังเอิญที่มีคนต้องการใช้คะแนนเพื่อแลกเปลี่ยนกับสมบัติบางอย่างเช่นกัน
แน่นอนว่าคนที่ไม่มีพื้นหลังใดๆอย่างเย่เทียนไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้
เส้นทางนี้ไม่ได้ผล!
“มีวิธีอื่นในการได้รับคะแนนอีกไหม?” เย่เทียนถามอีกครั้ง
“หนทางสุดท้ายที่จะได้รับคะแนน คือการสร้างสถิติใหม่ ระบบของหอคอยเทพสงครามจะมีคะแนนพิเศษสําหรับผู้ที่ทําลายสถิติ หากทําเช่นนั้นได้ก็จะได้รับคะแนนจํานวนมาก”วิญญาณศาสตราวุธเอ่ยปากกล่าวออกมา
“ระบบคะแนนพิเศษ?”
สีหน้าของเย่เทียนเปลี่ยนไป เขารู้สึกว่าวิธีนี้ไม่เลวเลย ไม่แน่ว่าเขาอาจจะได้คะแนนจากระบบ
คะแนนพิเศษก็ได้
“มีบันทึกสถิติด้านไหนบ้าง?”
เย่เท่ยนถามด้วยความใคร่รู้
หน้าจอเสมือนจริงปรากฏขึ้นตรงหน้าเย่เทียน และรายการบันทึกก็ปรากฏขึ้น
“บันทึกการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของระดับราชา!”
“บันทึกการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของระดับราชา!”
“บันทึกความเร็วที่แข็งแกร่งที่สุดระดับราชา!”
“บันทึกความก้าวหน้าที่เร็วที่สุดของระดับราชา!”
เย่เทียนเปิดบันทึกความก้าวหน้าที่เร็วที่สุดของราชาและเห็นบันทึกของใครบางคน
(หวังเจ๋อ ภายใน 80 วัน ทะลวงจุดชีพจร 365 จุด สําเร็จถึงจุดสูงสุดของระดับราชาสร้างสถิติ!]
เย่เทียนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ใช้เวลา 80 วันในการบ่มเพาะจนถึงขีดจํากัดของระดับราชา?
บันทึกนี้เป็นไปได้หรือไม่? คงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นใช่ไหม?
“วิญญาณศาสตราวุธ หวังเจ๋อคนนี้ทําสถิตินี้เสร็จภายใน 80 วันจริงๆหรือ?ข้อมูลนี้ถูกต้องหรือ
ไม่?” เย่เทียนตั้งคําถาม
วิญญาณศาสตราวุธตอบกลับ “ข้อมูลนี้คือเรื่องจริง เพียงแต่เขาไม่ได้ฝึกฝนตามปกติแต่เป็นเพราะเขาใช้วิธีพิเศษในการยกระดับ ทําให้ศักยภาพของเขาหมดลงสถิตินี้คงอยู่มาหลายสิบปีแล้ว”
“แบบนี้นี่เอง!”
เย่เทียนเข้าใจทันที
นี่เป็นบันทึกของเหล่าขุมกําลังระดับสูงที่เสียสละศักยภาพของระดับราชาเพื่อทําลายสถิตินี้
และทําให้เขาสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งและสร้างสถิตินี้ได้เพื่อคะแนนจํานวนมาก
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการกระทําที่โหดร้าย บางทีคนๆนี้อาจจะทําโดย
สมัครใจแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์มากมาย
เย่เทียนคิดว่าเขาไม่สามารถทําลายสถิตินี้ได้ จึงตรวจสอบข้อมูลอย่างอื่นต่อไป
(สถิติการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดระดับราชา: 8.2 พลังมังกร ผู้สร้าง: หลินจ้าน!]
หลินจ่าน!
เย่เทียนรู้ทันทีว่าคนผู้นี้คือใคร ผู้สร้างหอทหารรับจ้างขวานสงครามเขาคือจักรพรรดิขวานสงครามและหลินจ้านคือชื่อจริงของเขา
“เขาเป็นผู้สร้างสถิติการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของระดับราชา ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมเขาถึง
กลายเป็นจักรพรรดิอันดับหนึ่งของฐานทัพจงไห่!”
เย่เทียนอุทานออกมา จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง
พลังมังกร 8.2 นี้คืออะไร?
“วิญญาณศาสตราวุธ พลังมังกร คืออะไร?” เย่เทียนถามด้วยความสงสัย
วิญญาณศาสตราวุธกล่าวว่า “พลังของมังกรไม่ใช่พลังของมังกรจริงๆแต่เป็นหน่วยวัดพลังชนิดหนึ่งเผ่ามังกรชอบใช้พลังมังกรเพื่ออธิบายพลังของตนเองดังนั้นเผ่าพันธุ์ที่มีสติปัญญาหลายเผ่าพันธุ์ ก็ชอบใช้พลังมังกรเป็นหน่วยวัดพลังแต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่อยู่ในระดับศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไปเท่านั้นที่จะใช้หน่วยพลังมังกรเพื่ออธิบายความแข็งแกร่งของพวกเขาเพราะหน่วยพลังช้างนั้นไม่สะดวกที่จะใช้อัตราส่วนของพลังมังกรกับพลังช้างคือ 1 พลังมังกรเท่ากับ 1 ล้านช้าง!” “1 พลังมังกรเท่ากับ 1 ล้านช้าง? ไม่ใช่ว่าตอนนี้เรายังไม่มีพลังถึง 1 มังกรเลยหรือไง?”
เย่เทียนตกใจ
เขาคํานวณความแข็งแกร่งของร่างกายคร่าวๆและคาดการว่าหากเขาสามารถบรรลุถึงขีดจํากัดของระดับราชาเขาจะมีพลังโจมตีเท่ากับกี่มังกร
แต่เมื่อตระหนักถึงผลลัพธ์ที่ได้เย่เทียนถึงกับอึ้งไปเลย!